ขนาดวายุที่ยังต้องอดทนเพราะไม่อยากให้ยี่หวาไป แล้วมีหรือที่เด็กน้อยอย่างเรนจิจะยอม สุดท้ายพอเจ้าตัวน้อยรู้ข่าวตอนเลิกเรียนก็ไม่รอช้าให้พ่อพากลับบ้านไปเก็บกระเป๋าเสื้อผ้าและมาสนามบินทันที
“หม่ามี๊!”
ยี่หวาที่กำลังนั่งรอขึ้นเครื่องอยู่ในเกทสนามบิน ก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคย ไม่รอช้ารีบหันหน้าไปทันที “คนเก่ง? มาได้ยังไง”
“ผมอยากไปกับหม่ามี๊ด้วย” เรนจิพูดด้วยท่าทางมีความสุข ผิดกับยี่หวาที่ตอนนี้มีแต่ความสงสัย ไม่ได้แสดงอาการดีใจใดๆ ออกมาทั้งสิ้น
“แต่หม่ามี๊ต้องไปทำงานนะ แล้วนี่รู้ได้ยังไงว่าหม่ามี๊อยู่ที่นี่” ยี่หวาเห็นเรนจิเงียบไปจึงเงยหน้าขึ้นไปมองวายุที่เดินตามมาติดๆ “พ่อเราสินะ แถมดูจากตั๋วเครื่องบินยังเป็นไฟลต์เดียวกับหม่ามี๊ด้วยแถมที่นั่งยังไม่ไกลกันอีก”
สมกับเป็นวายุ สามารถจัดการเรื่องทั้งหมดได้ภายในไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น แต่แบบนี้มันก็เกินไปหน่อยไหม ถึงขนาดที่จะตามเธอไปฝรั่งเศสด้วย เธอก็บอกแล้วว่าต้องไปทำงาน
ส่วนวายุและเรนจิเห็นสีหน้ายี่หวาก็รู้ได้ทันทีว่าเธอไม่พอใจเป็นอย่างมาก จึงได้แต่เงียบก้มหน้าสำนึกผิด
“เรนรู้ใช่ไหมว่าตอนนี้หม่ามี๊กำลังโกรธมาก” ขณะที่ยี่หวาพูดก็เหลือบตาไปมองวายุที่ทำหน้ารู้สึกผิดอยู่ด้วย “ทุกคนต่างมีหน้าที่ที่ตัวเองต้องรับผิดชอบ หน้าที่ของเรนก็คือเรียนหนังสือ หน้าที่ของคุณก็คือทำงานเป็นประธานบริษัท ส่วนหน้าที่ของฉันก็คือทำงานดีไซเนอร์ แล้วในเมื่อทั้งสองคนมาที่นี่ ก็แสดงว่าทั้งคู่กำลังละทิ้งหน้าที่ของตัวเองอยู่”
ขณะที่ยี่หวาพูดก็สังเกตสีหน้าของทั้งสองคนไปด้วย แต่ทำไมเธอรู้สึกว่าพวกเขากำลังจะบอกว่า หน้าที่ของพวกเขาก็คือการตามเธอไปทุกที่เลยล่ะ
“เรนเอาแต่ใจได้หม่ามี๊ไม่ว่า เพราะเรนยังเด็ก แต่คุณ...” วายุสะดุ้งเล็กน้อยทันทีที่เธอเงยหน้าขึ้นมาจ้องเขา “คุณอายุสามสิบกว่าแล้ว แถมยังเป็นถึงพ่อคน การที่คุณตามใจลูกแบบนี้รู้ไหมว่าต่อไปเรนจะเสียคนขนาดไหน แล้วการที่อยู่ๆ ก็จะไปต่างประเทศคุณก็รู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องง่าย แถมยังเป็นประเทศที่ต้องขอวีซ่าอีก...แต่สำหรับคุณก็คงคิดว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาสินะ แต่ถึงยังไงนี่ก็ไม่ใช่สิ่งที่คุณควรทำ”
“เรนขอโทษที่เรนเอาแต่ใจ แต่เรนกลัวว่าถ้าหม่ามี๊ไปแล้วหม่ามี๊จะไม่กลับมาหาเรนอีก เรนอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีหม่ามี๊”
เรนจิก้มหน้าสำนึกผิดอย่างน่าสงสาร แต่เธอจะใจอ่อนตอนนี้ไม่ได้ ถ้าต่อไปเธอไม่อยู่ใครจะเป็นคนสอนเขาเรื่องพวกนี้
“เรนพูดแบบนี้แสดงว่าเรนไม่เชื่อใจหม่ามี๊เลยใช่ไหม การที่หม่ามี๊ตัดสินใจย้ายมาทำงานที่นี่มันไม่ได้ทำให้เรนเชื่อใจหม่ามี๊เลยเหรอ” ยี่หวาพูดด้วยท่าทางน้อยใจ ทำเอาสองพ่อลูกละล่ำละลักเลยทีเดียว
“มะ...ไม่ใช่นะครับ!” ตอนนี้ใบหน้าน้อยๆ ของเรนจิเริ่มมีน้ำตาไหลออกมา เขาไม่อยากให้หม่ามี๊โกรธ เพราะพอหม่ามี๊โกรธหม่ามี๊น่ากลัวมาก “เรนขอโทษ ทีหลังเรนจะไม่เอาแต่ใจแล้วครับ เรนจะเชื่อใจหม่ามี๊ เรนจะทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด เรนสัญญาครับ”
วายุที่ยืนเงียบอยู่นานเป็นฝ่ายพูดขึ้นบ้าง “ฉันขอโทษ ฉันคิดถึงเธอมากไปจนไม่อยากห่าง กลัวว่าจะต้องสูญเสียเธอไปอีกครั้ง”
โอเคเธอยอมแพ้!
แค่คำพูดเพียงไม่กี่ประโยคของวายุทำเอายี่หวากลายเป็นคนผิดซะงั้น เธอก็พอรู้ว่าเขารักเธอ แต่ก็ไม่คิดว่าเขาจะรักเธอมากขนาดนี้ ผู้ชายสองคนนี้มีอิทธิพลกับเธอจริงๆ แต่ถึงยังไงเธอก็ไม่ลืมจุดที่ตัวเองควรอยู่หรอกนะ
ยังไม่ทันที่ยี่หวาจะได้พูดอะไรต่อก็มีเสียงประกาศเที่ยวบินของเธอดังขึ้น สองพ่อลูกที่ได้ยินดังนั้นก็ถึงกับตัวเกร็งไปหมด เพราะพวกเขาคิดว่ายี่หวาคงไม่ยอมให้ไปด้วยแน่ๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม