ดอกกุหลาบเต็มห้อง ยังมีการ์ดคำขอโทษทำให้สองวันที่เธอรู้สึกกลัดกลุ้มยุ่งเหยิงค่อยๆดีขึ้น แต่เมื่อนั่งลงและมีสติ กลับยังคงหน้าตาโศกเศร้า ยกโทรศัพท์ขึ้นมา
อวี้หนานเฉิงไม่ได้แสดงออกเย็นชาแบบนั้น เขาเป็นผู้ชายที่มีความรับผิดชอบ ไม่ว่าจะปฏิบัติต่อผู้หญิงที่อยู่ข้างกายหรือกับลูกก็เหมือนกัน อยู่ร่วมกันนานขนาดนี้เธอในในใจรู้ชัดเจนดี
แต่นี้ไม่ใช่เหตุผลที่เธอวางใจนำอวี้จิ่งซีทิ้งไว้ข้างกายเขา
เพราะว่าเธอเป็นห่วงสถานการณ์ของอวี้จิ่งซี เธอติดต่อกับโรงพยาบาลมาโดยตลอด หลังจากรู้ว่าอาเจียนและท้องเสียไม่ได้เกิดจากอาหารเป็นพิษแต่เกิดจากเป็นไข้ เธอไม่ได้ผ่อนคลายลง กลับจะยิ่งเป็นทุกข์
สำหรับเธอ ถึงแม้ว่าอวี้หนานเฉิงจะพูดว่ารักใคร่อวี้จิ่งซี แต่ไม่ได้ละเอียดรอบคอบ ตั้งแต่ครั้งแรกที่พบก็เกือบจะถูกโคมไฟแบบห้อยหล่นใส่หัวหลังจากนั้นมาก็ป่วยและเคราะห์ร้าย หลายปีที่ผ่านมาเขาดูแลลูกไม่ดีพอ
ควรจะหาโอกาสไปพูดคุยกับเขาเรื่องลูก
กำลังคิดไปคิดมา ผู้ช่วยเสี่ยวจังก็เคาะประตูเข้ามาอีกครั้ง
“ผู้จัดการ สำนักงานใหญ่โทรศัพท์มาว่าจะสุ่มตรวจสอบชั่วคราว ประธานอวี้กับคณะกรรมการบริหารอาวุโสจะเข้ามาตรวจสอบโรงแรม พวกเราต้องเตรียมตัวอะไรไหมคะ?”
เซิ่งอันหรานได้สติกลับมาก็พูด“ไม่ต้องเตรียมตัวตั้งใจเป็นพิเศษ เหมือนปกติก็ได้แล้ว จะมาถึงเมื่อไหร่?”
“สำนักงานใหญ่พูดว่าประธานอวี้ออกเดินทางแล้ว น่าจะประมาณสิบห้านาทีก็ถึงแล้ว”
“ได้ แจ้งผู้จัดการหวังที่รับผิดชอบล็อบบี้ในวันนี้ให้สั่งหัวหน้างานสองสามคนไปต้อนรับกับฉันก็พอแล้ว คนอื่นก็รับผิดชอบหน้าที่ของตัวเอง”
หลังจากที่มอบงานให้แล้ว เซิ่งอันหรานก็จัดการเสื้อผ้าบนตัวให้เรียบร้อย เดินออกมามาจากห้องทำงานด้วยสีหน้าสุขุม
อวี้หนานเฉิงไม่ชอบคนที่มองภายนอกดูดีแต่ข้างในกลวงโบ๋ ในเมื่อเขากับกรรมการบริหารมาตรวจสอบ มาดูสถานการณ์ปกติของโรงแรม คนมีความไม่มั่นใจเป็นธรรมชาติที่จะไม่มีทางตื่นตระหนก
ลงไปชั้นล่างไม่นาน รถเก๋งสีดำสามคันก็จอดเรียงกันอยู่หน้าประตูโรงแรม ผู้ชายสองสามคนในชุดสูทรองเท้าหนังทยอยเดินลงมาต่อเนื่อง ไม่ต้องถาม ล้วนเป็นสมาชิกของคณะกรรมการบริหาร เดินเคียงคู่กับอวี้หนานเฉิงเข้ามาในโรงแรม
เซิ่งอันหรานกับอวี้หนานเฉิงสบตากัน นึกถึงดอกไม้ในห้องทำงาน สายตาเธอก็ปรากฏรอยยิ้ม พยักหน้าไปทางเขาและพูด “ประธานอวี้”
คนที่เหลือ หลังจากที่ผู้จัดการหวังทักทายเรียบร้อยแล้ว ก็แนะนำให้เซิ่งอันหราน“ประธานอวี้คงไม่ต้องแนะนำแล้ว สองท่านนี้คือกรรมการจ้าวกับกรรมการอู๋คณะกรรมการบริหาร ผู้จัดการเซิ่งน่าจะไม่เคยพบ”
เซิ่งอันหรานโค้งตัวเล็กน้อย เป็นฝ่ายจับมือ
สีหน้าของกรรมการบริษัททั้งสองท่านเคร่งขรึมมาก ตลอดทางก็ไม่ปรากฏรอยยิ้มใดๆ ก็ไม่ได้พูดว่าเพราะอะไร เพียงแค่พูดว่าจะดูสภาพแวดล้อมโรงแรม เซิ่งอันหรานเตรียมหัวหน้าผู้จัดการสองคนพาพวกเขาไป ตัวเองก็เดินตามอยู่ด้านหลัง รู้สึกกระวนกระวายเล็กน้อย
เวลาที่กรรมการบริษัททั้งสองคนเข้าชมห้องชุด มองดูการออกแบบ สีของผ้าม่าน อวี้หนานเฉิงอยู่ด้านข้าง ก็พยักหน้าบ่อยๆ
เซิ่งอันหรานหยิบสมุดบันทึกอยู่ด้านข้าง ถึงแม้ว่าไม่รู้ว่านี้คือจะทำอะไร แต่ว่าบันทึกก็ไม่มีอะไรผิด
หลังจากยุ่งกับงาน กรรมการบริษัททั้งสองคนก็เสนอให้เรียกประชุมระดับกลางและระดับสูงของโรงแรมเพื่อจัดประชุมเฉพาะกิจหลังจากสิบนาทีก็ถึงห้องประชุม
ผู้จัดการหวังไปเข้าร่วมประชุม เซิ่งอันหรานกลับไปหยิบข้อมูลในห้องทำงาน เพิ่งจะเดินถึงหน้าประตู ก็พบกับอวี้หนานเฉิงที่เพิ่งจะล้างมือเดินออกมาจากห้องน้ำ
“ประธานอวี้”เธอทักทายด้วยความเคารพ ลังเลเล็กน้อย ก็ถาม“ไม่เคยได้ยินกรรมการบริษัทจะมาตรวจสอบสภาพแวดล้อมด้วยตัวเอง วันนี้
กรรมการบริษัททั้งสองท่านก็เข้ามาตรวจสอบกะทันหัน มีเรื่องอะไรไหมคะ?”
อวี้หนานเฉิงมองเธอ สายตามีความประหลาดใจเล็กน้อย สมาธิตั้งมั่นชั่วขณะและพูด
“อีกสองวันจะมีแขกต่างชาติมาแลกเปลี่ยน ถ้าไม่เกิดเรื่องสุดวิสัย ก็จะมาพักที่นี่ หลีกเลี่ยงจะมีเรื่องสุดวิสัยอะไรเกิดขึ้น ดังนั้นจึงมาดูสภาพแวดล้อม”
หลังจากวันนั้นที่พูดล่วงเกินที่โรงพยาบาล ก็ไม่เคยติดต่อกันอีก เขาคิดไม่ถึงว่าเซิ่งอันหรานแทบจะมีท่าทางไม่ถือสา เหมือนไม่ได้นำเรื่องวันนั้นมาใส่ใจ
“มีแขกต่างชาติจะเข้ามาพัก?”
เซิ่งอันหรานสีหน้าตึงเครียด ไม่ได้พบว่าสายตาของอวี้หนานเฉิงเปลี่ยนไปแล้ว“จำเป็นไหมที่จะต้องให้แขกคนอื่นในโรงแรมออกไป?ความปลอดภัยก็ต้องเพิ่มมากขึ้น?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน