ในบ่ายวันรุ่งขึ้น ถานซูจิ้งขับรถไปส่งเซิ่งอันหรานที่โรงแรม
“เธอต้องการให้ฉันไปส่งเธอถึงข้างในไหม ? ”ถานซูจิ้งพูดติดตลก “ไม่แน่ว่า ฉันอาจจะได้เจอกับ อวี้หนานเฉิงก็ได้ เพราะหากว่าเธอรู้สึกอาย ให้ฉันช่วยเธอตอบตกลงกับเขาแทนเธอเอาไหม ”
“ไม่พูดไร้สาระสักวันจะตายใช่ไหม? ”
เซิ่งอันหรานใช้หางตาเหลือบมองถานซูจิ้ง
“เปิดประตูหลังรถให้ด้วย แล้วช่วงนี้เรื่องเสี่ยวซิงซิงฝากเธอด้วยนะ ”
“ฉันรู้แล้วน่า”ถานซูจิ้งเอนหลังพิงกับเบาะนั่งและกะพริบตามองเซิ่งอันหราน“คิดถึงเรื่องของตัวเองดีกว่า เช่นเรื่องหาป่าป๊าให้กับเสี่ยวซิงซิงอะไรประมาณนั้น เรื่องอื่นไม่จำเป็นต้องกังวล”
เซิ่งอันหรานพูดไม่ออก ตั้งแต่เช้าตรู่จนมาถึงตอนนี้ถานซูจิ้งเอาแต่พูดถึงอวี้หนานเฉิงอยู่ตลอด บางทีเธอก็แอบสงสัยว่าอวี้หนานเฉิงใช้เงินซื้อเธอไปเป็นพวกแล้วหรือยังไง
หลังจากที่หยิบกระเป๋าเดินทาง และแน่ใจว่าถานซูจิ้งขับรถออกไปแล้ว เธอจึงลากกระเป๋าเดินทางเข้าไปในโรงแรมอย่างไม่เป็นกังวล เซิ่งอันหรานจึงเดินตรงไปยังประตูห้องที่ผู้จัดการจัดไว้ให้ พร้อมกับให้บัตรของเธอเองรูดเปิดประตูห้อง
“ทำไมถึงได้เป็นห้องสวีท ?” เธอบ่นเสียงพึมพำพร้อมกับลากกระเป๋าเดินทางไปที่ห้องนอนหลัก
ก่อนหน้านี้เธอได้รับข้อความผ่านทางโทรศัพท์ แต่เธอไม่ได้อ่านมันอย่างละเอียด เธอคิดว่าเป็นแค่ห้องพักแบบธรรมดา แต่พอเธอเดินไปถึงประตูหน้าห้อง เธอจึงนึกขึ้นได้ว่า ห้องพักที่อยู่ชั้นนี้ล้วนเป็นห้องสวีท เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ?
ห้องสวีทห้องนี้เป็นห้องเปิดโล่งขนาดใหญ่ และมีฉากกั้นขนาดใหญ่กั้นระหว่างห้องนอนกับห้องนั่งเล่น ทันทีที่ลากกระเป๋าเดินมาถึงหน้าห้องนอน เธอก็ได้ยินเสียงเหมือนมีคนเปิดประตูออกมา เซิ่งอันหรานรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก
ร่างกายส่วนล่างของอวี้หนานเฉิง ถูกห่อด้วยผ้าขนหนูสีขาวผืนกว้าง เขาเดินออกมาจากห้องน้ำ ทั้งที่ผมของเขายังคงเปียกอยู่ น้ำเป็นเม็ดๆจากปลายเส้นผมค่อย ๆ ไหลหยดผ่านหน้าอกขาวๆลงมาที่ผ้าขนหนู ซึ่งทำให้ผู้คนที่ได้เห็นอดที่จะจินตนาการไม่ได้
“ดูพอหรือยัง ?”
อวี้หนานเฉิงมองเธอด้วยสายตาหยอกล้อ
เซิ่งอันหรานเบนสายตาไปทางอื่นอย่างรวดเร็ว และพูดขึ้นว่า
"คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ?"
อวี้หนานเฉิงก้าวเข้ามาใกล้ และย้อนถามเธอว่า
“คุณไม่รู้เหรอว่า ผมพักอยู่ที่ห้องนี้มาตลอด ?”
“ฉัน...ฉันไม่รู้...”เซิ่งอันหรานสีหน้าเปลี่ยน “อย่างงั้น ฉันน่าจะมาผิดห้องแล้ว ...”
เธอพูดขึ้นพลางลากกระเป๋าทาง แล้วหันหลังกลับ
ก่อนที่เธอจะเดินพ้นฉากกั้นห้อง ทางด้านนอกก็มีเสียงปลดล็อกของประตูดังขึ้น และตามมาด้วยเสียงพนักงานของโรงแรม
หัวใจของเซิ่งอันหรานเต้นแรง เธอหันกลับมาอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเขย่งปิดปากของอวี้หนานเฉิง หลังจากที่มองไปรอบ ๆ เธอก็ลากเอาอวี้หนานเฉิงไปหลบตรงระเบียงที่เชื่อมต่อกับห้องนอน และลากปิดด้วยผ้าม่านเพื่อไม่ให้ใครเห็น
หากมีคนเห็นว่าเธอกับอวี้หนานเฉิงอยู่ในห้องนอนด้วยกันแบบนี้ อาจจะเข้าใจผิดไปกันใหญ่
หลังจากซ่อนตัวเสร็จ เซิ่งอันหรานก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่ง และจู่ๆอวี้หนานเฉิงก็เอื้อมมือมาจับที่ข้อมือของเธอ พร้อมกับพูดขึ้นที่ข้างๆหู ทีล่ะคำๆ
"คุณ กำ ลัง ทำ อะ ไร ? "
เซิ่งอันหรานกัดฟันพร้อมกับเงยหน้าขึ้นสบตาอวี้หนานเฉิงซึ่งนัยน์ตาของเขาดูไม่ค่อยสบอารมณ์ และตอบกลับไปว่า
“ฉันขอร้องล่ะ คุณให้ความร่วมมือกับฉันหน่อย คิดซะว่า ทำเพื่องานของฉัน ”
เมื่อเห็นท่าทางที่ดูน่าสงสารของเธอ อวี้หนานเฉิงจึงหรี่ตาลง เขาก้มตัวลงเล็กน้อย ทำให้ทั้งสองอยู่ใกล้กันมาก
สีหน้าของเซิ่งอันหรานดูกังวลอย่างเห็นได้ชัด เธอขยับถอยหลังไปหนึ่งก้าว
เขาก็ขยับเข้ามาใกล้หนึ่งก้าวเช่นกัน
เซิ่งอันหรานรู้สึกเย็นๆที่แผ่นหลัง ด้านหลังของเธอชนเข้ากับกระจกที่เย็นยะเยือก เธอไม่สามารถถอยได้อีกแล้ว แต่อวี้หนานเฉิงกลับไม่มีทีท่าว่าจะหยุด เขาใช้มือทั้งสองประคองที่ไหล่ของเธอแล้วกดเธอเข้ากับกระจก พร้อมกับโน้มตัวไปทางด้านหน้าเล็กน้อย เพื่อบังแดดให้กับเธอ
“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ” เซิ่งอันหรานลดเสียงลง ใบหน้าของเธอซีดเซียวด้วยความตกใจ
เธอลืมไปว่า นี่เป็นห้องของอวี้หนานเฉิง และก็ไม่แปลกที่อวี้หนานเฉิงจะอยู่ในห้องของเขา แล้วทำไมเมื่อกี้เธอถึงได้ลากเอาตัวของเขาเข้ามาซ่อนด้วยล่ะ ? ให้เขารับหน้าอยู่ในห้องไม่ดีกว่าเหรอ ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน