ผูกรักท่านประธานพันล้าน นิยาย บท 135

“คุณยังหัวเราะออกมาได้!พวกคุณลูกผู้ดีมีเงินเอาแต่เสวยสุขหน้าด้านขนาดนี้เหรอ?”

ถานซูจิ้งจ้องถมึงทึง “ถ้านายอยากจะโดนด่าพูดให้เร็วหน่อย ฉันจะอุดหูซิงซิงน้อยของฉันไว้ก่อน”

ได้ฟัง เกาจ้านถอนหายใจอย่างจนปัญญา เห็นสาวน้อยนั่งอยู่ด้านข้างถานซูจิ้ง“นี้เป็นเรื่องภายใน ไม่ใช่เหมือนที่คุณมองเห็น เพียงแต่ผมคิดว่าสาวน้อยคนนี้อย่าฟังจะดีกว่า”

“เพราะอะไร?”ถานซูจิ้งกับเซิ่งเสี่ยวซิงถามพร้อมกัน

เซิ่งเสี่ยวซิงมุ่ยปาก เสียงอ่อนวัยดังก้องในห้องรับแขก

“หม่าม้าของหนูพูดว่ามีแค่เรื่องไม่ดีจึงไม่สามารถจะให้คนอื่นฟังได้ คุณอยากจะพูดเรื่องอะไรไม่ดีกับแม่บุญธรรม หนูไม่สามารถฟังได้?”

เกาจ้านฉับพลันก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ลูบจมูก

“ก็ได้ ถึงยังไงเรื่องนี้ก็เพื่อความสัมพันธ์ที่ดีของพวกเขาสองคน ผมก็จะไม่ปิดบังพวกคุณ แต่พวกคุณอย่ากลับไปเอาน้ำมันไปราดกองไฟ เดิมทีเรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร”

“หมายความว่าอะไร?”

“เรื่องนี้ ก็คือพี่เฉิงตั้งใจ ไม่มีจุดประสงค์อื่น ก็คือเพื่อจะคืนดีกัน”

“คุณพูดไร้สาระอะไร บ้านพวกคุณอยากให้คนคืนดีกันก็ใช้วิธีนี้เหรอ ไปเที่ยวกับผู้หญิงคนอื่น”

“นี้เห็นได้ชัดเจนว่าเป็นข่าวปลอม”เกาจ้านรีบอธิบาย“มีสองวิธีในการคืนดี อย่างแรกคือยอมถอยให้ อย่างที่สองคือให้ฝ่ายตรงข้ามได้รับความ

วิกฤต ยอมถอยให้แล้ว ไม่มีประโยชน์ ดังนั้นจึงใช้วิธีท่าไม้ตาย”

เกาจ้านใช้จิตวิทยากับผู้หญิงสองคนนานมากแล้ว ถานซูจิ้งขมวดคิ้วเงียบไม่พูดจาสักพัก ก็จ้องมองเกาจ้านและถาม

“วิธีการโง่นี้ใครเป็นคนคิด?”

เกาจ้านรู้สึกเสียวสันหลังขึ้นมา“แน่นอน…แน่นอนว่าเป็นความคิดของพี่เฉิง คุณอย่ามองผมแบบนั้น ไม่เกี่ยวอะไรกับผม”

“หน้าไม่อายจริงๆ”ถานซูจิ้งพูดออกมาโดยไม่เกรงใจ เป็นคำพูดที่มีพลัง“ตัวเองผิดแล้วยังไม่พิจารณาตัวเอง ก็รู้ว่าจะใช้ของฟุ่มเฟือยมาตบตาผู้หญิง หน้าด้านจริงๆ ซิงซิงน้อยพวกเรากลับกัน”

“นี่คุณอย่าโกรธเลย เรื่องนี้คุณอย่าบอกอันหรานเด็ดขาด เมื่อกี้คุณรับปากผมแล้ว”

“ฉันไม่พูด”ถานซูจิ้งถลึงตาใส่เขา“ลูกสาวบุญธรรมฉันก็สามารถพูดได้”

“หม่าม้าเกลียดที่สุดคือคนโกหก!”เซิ่งเสี่ยวซิงก็ให้ความร่วมมือ เดินลอยหน้าลอยตาเชิดออกไปกับถานซูจิ้ง

เกาจ้านงงมาก อยู่กับความคิดยุ่งเหยิงคนเดียว

ครั้งนี้เรื่องนี้ ทั้งสองด้านไม่เอาใจให้ดี ถ้าหากถูกอวี้หนานเฉิงรู้แล้ว คงต้องถลกหนังของตัวเองออก ไม่ได้ ก่อนที่จะเกิดเรื่องหาที่หลบก่อนดีกว่า

——

เช้าวันต่อมาไปทำงาน เซิ่งอันหรานมาถึงห้องทำงานก็เห็นพวกผู้หญิงกำลังซุบซิบ พูดว่าใช้เท้าคิดก็สามารถคิดออก

“ว่างไม่มีงานทำเหรอ?บันทึกสถิติลูกค้ารึยัง?ตรวจสองห้องรึยัง?ยืนยันข้อความการจองห้องรึยัง?”

เซิ่งอันหรานยืนอยู่หน้าประตูห้องทำงาน ตำหนิทุกคนที่กำลังซุบซิบ เธอเข้าห้องทำงานของตัวเองโดยไม่หันกลับมามอง

ผู้ช่วยเสี่ยวจังเคาะประตูเข้ามา มองเธอด้วยความตึงเครียด

“ผู้จัดการเซิ่ง นี้คือสถิติของลูกค้า”

“วางไว้เถอะ”

เสี่ยวจังเชื่องช้าอยู่นานมาก

“ผู้จัดการ คุณโดดเด่นขนาดนี้ จะต้องหาผู้ชายที่ดีกว่านี้ได้แน่นอน”

ได้ยิน เซิ่งอันหรานก็ยิ่งโกรธขึ้นมา “ปัญหาพูดมากของเธอคือคุ้นเคยเป็นปกติใช่ไหม?ตั้งแต่เช้าจนถึงเย็นก็ว่างพูดคุยเรื่องซุบซิบกับเพื่อนกลุ่มผู้หญิงใช่ไหม ไปทำเรื่องของเธอ”

“ไปแล้วค่ะ”เสี่ยวจังพยักหน้ารับปาก รีบวิ่งออกไปแล้ว

ช่วงเช้า สายตาคนในโรงแรมจ้องมองเธอด้วยความหมายที่ลึกซึ้ง

เซิ่งอันหรานนิ่งสงบมาก ตอนเที่ยงยังตั้งใจไปกินข้าวที่โรงอาหาร ทำให้สายตาของพนักงานทุกคนในโรงแรมจ้องมองเธอ เธอสีหน้าปกตินั่งกินข้าวตำแหน่งที่เห็นได้ชัดเจน

ไม่ใช่อยากมองเหรอ ก็ให้พวกเธอมองให้พอ

เพิ่งจะนั่ง จู่ๆบริเวณรอบๆก็มีเสียงดังเกรียวกราว เธอแอบคิดว่าเรื่องซุบซิบคงจะไม่เสียงดังขนาดนี้ ในหูกลับได้ยินชื่อที่ทำให้เธอต้องกัดฟันตั้งแต่ตอนเช้า

“ประธานอวี้…”

ร่างสูงใหญ่อยู่ตำแหน่งตรงข้ามเธอ อยู่ต่อหน้าคนอื่น อวี้หนานเฉิงก็นั่งลงตำแหน่งตรงข้ามกับเซิ่งอันหราน

“ไปหาคุณที่ห้องทำงาน ไม่เจอ ผมพาอาหารเที่ยงมาให้คุณ”

เสียงหนักแน่นตรงหน้าดังเข้ามา ชัดเจนเป็นพิเศษ

เซิ่งอันหรานกลับโกรธขึ้นมากะทันหัน“ปัง”วางตะเกียบลง“ซุปนี้เค็มเกินไป”

บริเวณรอบๆฉับพลันก็เงียบกริบ

ตำแหน่งที่ตักข้าว หัวหน้าพ่อครัวโรงอาหารก็หูเฉียบแหลม เมื่อได้ยินช้อนก็สั่น มองไปทางอวี้หนานเฉิงอย่างตึงเครียด

ทุกคนมองหน้ากันเลิ่กลั่ก ไม่กล้าหายใจเสียงดัง

ผู้หญิงวางตะเกียบต่อหน้าอวี้หนานเฉิง ถึงแม้ว่าอวี้หนานเฉิงจะคบซ้อนจนถูกนักข่าวถ่ายไว้ได้ เปลี่ยนเป็นผู้หญิงคนอื่นทำ ก็คงจะไม่กล้าจะทำให้เขาเสียหน้าขนาดนี้เถอะ

ผู้จัดการเซิ่งนิสัยเจ๋งจริงๆ!

ใบหน้าของอวี้หนานเฉิงไม่มีความโกรธแม้แต่นิดเดียว เพียงแค่ขมวดคิ้วขึ้น“ไปห้องทำงานกับผม เรื่องข่าว ผมมีเรื่องจะพูดกับคุณ”

เซิ่งอันหรานกอดอกนั่งอย่างสงบเสงี่ยม จ้องมองอวี้หนานเฉิงด้วยสายตาเย็นชา

“มีเรื่องอะไรก็พูดที่นี่เถอะ ทุกคนก็เป็นพนักงาน จะได้ฟังปัญหาประชาสัมพันธ์ในครั้งนี้”

คนบริเวณรอบๆก็ยิ่งเงียบ ไม่เพียงแค่เงียบ ยังเกิดแรงกดอากาศต่ำ ทุกคนรับรู้ถึงบรรยากาศที่เยือกเย็นปกคลุมไปทั่ว อากาศในโรงอาหารเหมือนจะเย็นลงฉับพลัน

หลังจากนั้นไม่กี่วินาที อวี้หนานเฉิงมองดูโดยรอบ ดวงตาทั้งสองคู่เยือกเย็น

“ปัญหาเรื่องประชาสัมพันธ์บริษัทจัดการเสร็จแล้ว พนักงานน่าจะรู้เรื่องประกาศแล้ว ทุกท่านยังมีคำถามอะไรไหม?”

ทุกคนกลั้นหายใจ นี้คือคำถามที่กดดัน!

“ไม่มีปัญหา ล้วนเป็นข่าวปลอม มีคนสร้างเรื่องขึ้นมาเท่านั้นเอง…”

มีคนพูด ทุกคนก็พากันพูดคล้อยตาม

ท่ามกลางเสียงจ้อกแจ้กจอแจ อวี้หนานเฉิงก็ค่อยๆโน้มตัวลง เข้าไปใกล้เซิ่งอันหราน พูดเสียงต่ำ

“แต่ผมมีเรื่องส่วนตัวจะพูดกับคุณ ผมรอคุณที่ห้องทำงาน”

ลมหายใจอุ่นๆสาดลงบนยอดศีรษะ เซิ่งอันหรานกำหมัดแน่น เงยหน้าขึ้นกระตุกยิ้มมุมปาก“ได้เลย”

เธอก็อยากจะฟัง ครั้งนี้เขาจะเตรียมแผนไหนมาแก้ไขสถานการณ์ที่เขาสร้างขึ้นมาเอง ฝีมือการแสดงจะได้รับออสการ์ไหม

การจากไปของทั้งสองคนดึงดูดการเกิดเรื่องราวบานปลายของโรงอาหาร พนักงานของโรงแรมนอกจากจะวิจารณ์ซุปของหัวหน้าพ่อครัวของโรงอาหารที่เค็มเกินไปยังพูดคุยอย่างคึกคักกับเรื่องที่ทดสอบฝีมือกัน

“ผู้จัดการเซิ่งไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดา ควรจะโกรธก็โกรธ ผู้ชายแบบประธานอวี้อนาคตกว้างไกล แต่นานมากแล้วก็คิดว่าผู้จัดการเซิ่งสยบไว้ได้แล้ว!ฉันพนันสิบสตางค์ เธอต้องเป็นภรรยาคนแรกที่ท่านประธานเลือกแน่นอน”

“นั่นก็อาจจะไม่ใช่ ถ้าหากประธานอวี้ชอบผู้หญิงนิสัยแบบนี้ ทำไมยังคบซ้อนล่ะ ฉันคิดว่าก็เป็นเพียงความสดชื่นชั่วคราว ผู้ชายต้องการศักดิ์ศรีที่สุด เมื่อกี้ผู้จัดการเซิ่งไม่ไว้หน้าเขา ไปด้วยกันไม่ได้หรอก”

“……”

ในห้องทำงานถูกตัดขาดจากกระแสการพูดคุยภายนอก เซิ่งอันหรานปิดประตู สายตายังคงนุ่มนวล แต่ซ่อนความเหยียดหยามไว้

“พูดเถอะ ที่นี่ไม่มีคนแล้ว”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน