คนรับใช้พยักหน้าด้วยสีหน้าอึดอัด
“คุณนาย ห้องรับแขกมีกลิ่นอับ คุณท่านสั่งให้คุณพักที่ห้องนอนของคุณชาย ส่วนคุณชายนอนห้องรับแขก คุณไปพักผ่อนก่อนเถอะค่ะ ถ้ามีเรื่องอะไรก็เรียกฉันได้”
หลังจากพูดเสร็จ คนรับใช้ก็วิ่งหนีหายไป
เซิ่งอันหรานงงงวย แต่ก็ไม่ได้ตามไป บ้านเก่าหลังนี้ใหญ่มาก ถ้าเดินแบบไม่ดูดีๆ ก็อาจจะหลงเข้าไปในสนามหญ้าหรือที่มืดจนหาทางออกไม่เจอ
ห้องพักของอวี้หนานเฉิงเป็นแบบเรียบง่ายเหมือนตัวบ้าน เฟอร์นิเจอร์เก่าภายในห้องล้วนเป็นไม้หวงฮวาหลีทั้งหมด ห้องหันไปทางทิศใต้ และเมื่อเข้าประตูห้องจะแบ่งออกเป็นสองห้องคือทิศตะวันออกและทิศตะวันตก ทิศตะวันออกดูเหมือนห้องอ่านหนังสือ ประตูเปิดออกครึ่งหนึ่ง เผยให้เห็นโต๊ะที่หันหน้ามาทางประตู บนโต๊ะมีปากกาแปรง และกระดาษสาแขวนอยู่
เขายังฝึกคัดลายมืออยู่เหรอ ? เซิ่งอันหรานประหลาดใจเล็กน้อย เธอเปิดประตูและเดินเข้าไปดู
บนโต๊ะมีกระดาษที่ตัดแล้วถูกวางทับไว เธอเดินเข้าไปดูเนื้อหาบนกระดาษ เซิ่งอันหรานหัวเราะออกมาเสียงดัง พลางจับมุมโต๊ะอยู่ครู่หนึ่ง
ตัวอักษรขยุกขยิกสี่ตัวใหญ่เขียนไว้ว่า ‘น่าเบื่อที่สุด ’
สภาพแวดล้อมและบรรยากาศที่จริงจังนี้ ยังมีชายหนุ่มที่พิถีพิถันอยู่อีกหนึ่งคน ใครจะไปคิดว่าเขาจะเขียนอะไรแบบนี้ลงบนกระดาษสา ?
เซิ่งอันหรานเริ่มสนใจ เธอมองถังขยะที่มีกระดาษม้วนยับอยู่สามถึงห้าลูกข้างๆตัวเอง เธอจึงนั่งยองๆหยิบออกมาอ่าน
กระดาษใบหนึ่งเขียนว่า ‘น่ารำคาญจริงๆ’ อีกใบหนึ่งเขียนว่า ‘อากาศไม่ดี’ และยังมีอีกใบที่เขียนไว้ว่า ‘พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้า’
หลังจากดูผลงานการประดิษฐ์ตัวอักษรที่ไร้สาระพวกนี้ เซิ่งอันหรานก็หัวเราะอย่างมีความสุข แม้กระทั่งอวี้หนานเฉิงเข้ามายังไม่รู้เลย
“คุณหัวเราะอะไร ?”
อวี้หนานเฉิงเดินมาถามข้างๆ
“คุณเขียนทั้งหมดนี่เลยเหรอ ?” เซิ่งอันหรานกลั้นขำ สีหน้ากลายเป็นสีแดง
เมื่อเห็น ผลงานชิ้นเอก สีหน้าของอวี้หนานเฉิงก็ซีดขาวทันที เขาทำหน้าบึ้งและพูดว่า “คุณชอบค้นขยะจนเป็นนิสัยเหรอ ?”
“การค้นขยะไม่ใช้นิสัยของฉัน แต่ถ้าได้เห็นผลงานชิ้นเอกของใครบางคน ฉันคิดว่าเรียนรู้ไว้ก็ไม่น่าเสียหายอะไร”
“น่าเบื่อ”
“ใช่น่าเบื่อที่สุด” เซิ่งอันหรานพูดแซว
เมื่อเห็นหน้าตาที่บูดเบี้ยวของอวี้หนานเฉิง เธอก็ยิ่งหัวเราะจนเจ็บท้อง เธอมาสนใจ จนกระทั่งทรุดตัวลงไปนั่งที่พื้น และลุกขึ้นไม่ได้มาเป็นเวลานาน
อวี้หนานเฉิงขายหน้า เมื่อเห็นเธอนั่งอยู่บนพื้น เขามองอย่างช่วยไม่ได้แล้วเดินเข้าไปยื่นมือต่อหน้าเธอ “พอได้แล้ว หัวเราะพอแล้วก็ลุกขึ้นมาบนพื้นมันเย็น”
เซิ่งอันหรานวางมือบนมือเขา เธอกะพริบตาและแกล้งถามว่า “พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าไหม ?”
อวี้หนานเฉิงหงุดหงิดกับการเยาะเย้ยของเธอ เขาคว้าข้อมือของเธอแล้วยกขึ้นมาทันที
เซิ่งอันหรานไม่ได้ต้าน เธอถูกดึงขึ้นจากพื้นด้วยแรงมหาศาล หลังจากลุกขึ้นยืนตัวเธอทั้งตัวก็ล้มลงบน
หน้าอกเขาด้วยแรงเฉื่อย รอยยิ้มยังคงอยู่บนใบหน้าของเธอยังไม่ทันได้หุบยิ้ม หลังจากนั้นมือใหญ่ของเขาก็จับที่หลังของเธอ แล้วเธอก็เกาะหน้าอกเขา แล้วมองหน้าเขาด้วยสีหน้าว่างเปล่า
“ยังจะหัวเราะอยู่ไหม ?” อวี้หนานเฉิงก้มศีรษะลงเตือน น้ำเสียงต่ำและดูก้าวร้าวมาก
สติของเซิ่งอันหรานกลับมา เธอพยายามดิ้นรน “คุณปล่อยฉันนะ”
“คุณหัวเราะเยาะผมไม่ใช่เหรอ ? ตอนนี้สามารถหัวเราะได้ตามสบายเลย” อวี้หนานเฉิงไม่แม้แต่จะปล่อยมือ แต่กลับยิ่งจับแน่นขึ้น ดังนั้นเธอจึงไม่มีโอกาสแม้แต่จะสู้เลย
เซิ่งอันหรานเป็นกังวลมาก “คุณปู่บอกให้คุณนอนที่ห้องรับแขก คุณมาทำอะไรที่นี่ ? ฉันจะบอกคุณปู่ว่าคุณรังแกฉัน”
“โอ้ ?” คำพูดสุดท้ายของอวี้หนานเฉิงดูมีความหมายลึกซึ้ง “ผมเพิ่งคุยเรื่องงานกับคุณปู่มาครึ่งชั่วโมง แต่ผมกลับไม่ได้ยินเขาพูดเลยว่าจะให้ผมพักที่ห้องรับแขก”
เซิ่งอันหรานตกตะลึง และจ้องมองเขา
“คุณหมายความว่ายังไง ? คุณคิดว่าผมจงใจเข้าห้องคุณเหรอ ? คุณคิดอะไรอยู่ ?”
อวี้หนานเฉิงทำสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก ความคิดตลกเมื่อครู่ของเขาถูกท่าทางจริงจังของเธอเบี่ยงเบนหายไปหมด
“คุณไม่คิดเหรอว่านี่อาจเป็นแผนที่คุณปู่จงใจวางไว้ ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน