ผูกรักท่านประธานพันล้าน นิยาย บท 157

"เม็ดนี้แล้วกัน"

เกาจ้านมองหนึ่งรอบ ชี้เม็ดใหญ่สุดตรงกลาง "เม็ดนี้แหละ"

จากสายตาพนักงานรอบข้างก็สามารถมองออกเม็ดนั้นราคาไม่ถูก ผู้จัดการร้านทำงานที่นี่มาหลายปีแล้ว ถึงได้นิ่ง ถามว่า

"งั้นโดยรวมคุณต้องการให้ออกแบบยังไงคะ? หรือว่าคุณเตรียมแบบไว้แล้วก็สามารถเอามาให้เราได้เลย"

"ไม่มีความต้องการอะไรมาก แค่อย่างเดียว ต้องพิเศษ ต้องเฉพาะตัว"

"เฉพาะตัวยังไงคะ?" พนักงานถามอย่างระมัดระวัง

เกาจ้านหลับตาคิดอยู่ครู่หนึ่ง พ้นออกมาสองคำ "เผ็ดร้อน ร้อนเป็นไฟ"

พนักงานยกมุมปาก มองทางอวี้หนานเฉิงที่อยู่ข้างๆ อย่างขอความช่วยเหลือ

อวี้หนานเฉิงขมวดคิ้วเขยิบไปข้างๆ ทำหน้าเย็นชา

"ฉันไม่รู้จักเขา"

เกาจ้านเหมือนไม่ได้ยิน พูดกับผู้จัดการร้าน

"ผมให้รูปถ่าย 2-3รูปของเธอกับพวกคุณได้ แล้วให้ดีไซเนอร์พวกคุณสร้างลักษณะเฉพาะตัวของเธอ จนผมจะพอใจก็จบ"

"ค่ะ"ผู้จัดการร้านถอนใจโล่งอก

มีแหล่งอ้างอิงก็พอ กลัวลูกค้าพูดคำพูดที่เพ้อฝัน แบบนี้จะให้พวกเราไปบรรยายยังไงกับดีไซเนอร์

"ทั้งสองท่านยังมีความต้องการอะไรอีกไหมคะ?"

เกาจ้านมองอวี้หนานเฉิง "ผมหมดแล้ว พี่ยังมีธุระที่นี่ไม่ใช่เหรอ?"

"อืม"อวี้หนานเฉิงยื่นรูปใบหนึ่งให้ผู้จัดการร้าน "แบบสร้อยเส้นนี้ ทำออกมาได้ไหม?"

สร้อยระลอกน้ำสีเงิน โมเสกด้วยจี้หยกเม็ดหนึ่ง ส่องแสงระยิบระยับ

"แบบอันนี้?" ผู้จัดการร้านนิ่งไป

"นี่ไม่ใช่สร้อยที่พี่เตรียมให้มั่นหันเมื่อ 6ปีก่อนเหรอ?" เกาจ้านยื่นคอไปดู พูดอย่างตะลึง"หายไปแล้วไม่ใช่เหรอ? พี่จะทำใหม่อีกเส้น? ให้ใคร?"

อวี้หนานเฉิงจ้องลึกไปที่เขา

เกาจ้านปิดปากทันที พูดเบาๆ "ถือว่าผมปากมาก ถามทั้งๆ ที่รู้"

ทุกวันอวี้หนานเฉิงกับเซิ่งอันหรานติดกันเหมือนกาว ใครบ้างไม่รู้ ไม่ให้เธอจะให้ใครได้?

"พี่เฉิง จุดนี้พี่รังแกคนไปแล้ว" เกาจ้านคิดอยู่สักพัก ก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยปาก"สร้อยเส้นหนึ่งส่งให้สองคน แม้ว่าเริ่มแรกพี่ไม่ได้มอบออกไป แต่อย่างนี้มันไม่ดีมั้ง"

ไม่รอให้อวี้หนานเฉิงพูด เสียงผู้จัดการร้านก็แทรกขึ้นก่อน

"สร้อยนี้ฉันเคยเห็น"

อวี้หนานเฉิงเงยหน้าขึ้น "สร้อยเส้นนี้ทำที่ร้านของพวกคุณเมื่อ 6 ปีก่อน เคยเห็นก็ไม่แปลก"

"ไม่ใช่6 ปีก่อน"สีหน้าผู้จัดการซับซ้อน"ประมาณเมื่อ2 เดือนก่อน มีผู้หญิงคนหนึ่งนำสร้อยเส้นนี้มาในร้านของเรา ถามพวกเราว่าหาว่าใครเป็นคนสั่งทำสร้อยเส้นนี้ได้ไหม"

อวี้หนานเฉิงขมวดคิ้ว จี้ถามว่า"ยังสามารถติดต่อได้ไหม?"

สร้อยเส้นนี้เมื่อ6 ปีก่อนหายไปอย่างไร้ร่องรอย หามาหลายปีก็หาไม่เจอ ดูท่าจะถูกคนเก็บไป

เห็นสีหน้าอวี้หนานเฉิง ผู้จัดการร้านก็รู้ถึงความสำคัญของสร้อยเส้นนี้ รีบพูดว่า "ฝากเบอร์โทรไว้ ฉันไปหาเดี๋ยวนี้"

เห็นร่างผู้จัดการร้านรีบไป เกาจ้านมองทางอวี้หนานเฉิงอย่างไม่เข้าใจ "สร้อยเส้นนั้นสำหรับพี่มันสำคัญขนาดนั้นเลย?"

อวี้หนานเฉิงมองเขาแวบหนึ่งด้วยหน้าตาเฉยชา "นั้นเป็นของที่ระลึกคุณย่าฉัน"

"ที่นี่ไม่มีใคร พี่ยังใช้ไม้นี้กับผม"เกาจ้านขาไขว่ห้างพูดอย่างรู้ดี

"ของที่ระลึกของคุณย่าพี่ไม่ผิด แต่ตอนนั้นพี่เอาออกมาสั่งทำใหม่เตรียมมอบให้มั่นหันไม่ใช่เหรอ? พูดไปพูดมา ก็ยังปล่อยวางมั่นหันไม่ลงใช่ไหม?"

ตอนนี้ความคิดอวี้หนานเฉิงไม่อยู่ที่นี่ พูดไปงั้นๆ "นายจะคิดยังไงก็คิดไปเถอะ"

เกาจ้านกลับเอาจริง "เดือนก่อนมั่นหันคุยสายกับผม บอกว่าทำเรื่องหย่าที่ประเทศฝรั่งเศสเกือบเสร็จแล้ว น่าจะกลับประเทศเดือนนี้ ผมเห็นว่าหลายปีมานี้เธอใช้ชีวิตไม่ค่อยมีความสุข พี่ยังคิดถึงเธอ นี่เป็นโอกาสหนึ่ง"

"ฉันไม่ได้คิดถึงอดีตเหมือนอย่างนาย"

"ถือว่าผมไม่ได้พูด"เกาจ้านตัดบทด้วยตัวเอง หงายหน้าพิงโซฟา พูดอย่างเบื่อหน่ายว่า"เรื่องนี้ผมแนะนำพี่บอกอันหรานให้เตรียมตัวไว้ มั่นหันกลับประเทศ พี่ไม่เจอเธอไปตลอดไม่ได้หรอก เรื่องนี้เทียบกับให้อันหรานรู้ด้วยตัวเอง พี่บอกก่อนดีกว่า ประสบการณ์จากคนที่ประสบมาก่อน"

"ไม่จำเป็น"

อวี้หนานเฉิงทิ้งออกมาสามคำ ท่าทางเย็นชา ทำให้เกาจ้านลิ้นจุกปาก "แฟนนิสัยดีก็คือแตกต่าง ผมทำชั่วอะไรไว้ ตกหลุมรักถานซูจิ้งเผ็ดเหมือนพริกขี้หนูคนนี้"

"พริกปีศาจจากอินเดีย"อวี้หนานเฉิงแก้ให้ ด้วยใบหน้าไร้อารมณ์

ระหว่างที่พูด ผู้จัดการร้านหยิบช่องทางติดต่อออกมา

"นี่เป็นเบอร์โทรท้องถิ่น"เกาจ้านมองแวบหนึ่ง"งั้นก็หาได้ง่ายแล้ว ขอแค่โทรติด หาผู้ให้บริการด้านการสื่อสารระบุตำแหน่งก็ได้แล้ว"

พูดอยู่ ไม่รอให้อวี้หนานเฉิงห้าม เขาโทรออกทันที

"ขออภัยค่ะ ไม่มีหมายเลขที่ท่านเรียก……"

เสียงหวานของผู้หญิงเหมือนเครื่องกลนิดๆ ดังมาจากในมือถือ

เกาจ้านทำหน้าเขิน

อวี้หนานเฉิงยังทำหน้าไร้อารมณ์เหมือนเดิม มือถือเขาดังขึ้นพอดี หลังเห็นเบอร์ที่แสดง กดปุ่มรับสาย กดรับสายต่อหน้าเกาจ้าน

“……”

"อยู่ห้างกับอาจ้าน"

“……”

"ตกลง"

“……”

หลังวางสาย อวี้หนานเฉิงเก็บมือถือ มองทางผู้จัดการร้าน กำชับว่า"หากคนที่มาถามเรื่องสร้อยก่อนหน้านี้มาอีกล่ะก็ โทรหาผู้ช่วยผมโดยตรง"

ผู้จัดการร้านพยักหน้าอย่างรีบร้อน

พูดคำนี้จบ เขาก็ลึกขึ้น พูดกับเกาจ้าน"ฉันยังมีธุระ ไปก่อน"

"เอ๊ะ พี่รอเดี๋ยว"

เกาจ้านวิ่งออกมาจากร้านจิวเวลรี่ จับแขนอวี้หนานเฉิงไว้"พี่ไปไหน?"

อวี้หนานเฉิงก้มหน้ามองแวบหนึ่ง เกาจ้านรีบปล่อยมือ ใบหน้ายิ้ม"เมื่อกี้ผมได้ยินแล้ว อันหรานเรียกพี่ไปกินข้าวพาผมไปด้วย"

"เธอไม่ได้บอกฉันให้พานายไปด้วย น่าจะเป็นเพราะซูจิ้งไม่อยากเจอนาย"

"คู่หมั้นผมไม่อยากเจอผม?" เกาจ้านขมวดคิ้ว"ล้อเล่นใช่ไหม? ผมอยากติดรถพี่ไปเท่านั้น พี่จะพาไปไหม?"

"ไม่"

"งั้นได้ ผมจะโทรบอกเรื่องพี่กับมั่นหันให้อันหรานรู้เดี๋ยวนี้ "

อวี้หนานเฉิงได้ยินหน้าขรึมลง "เกาจ้าน"

ได้ยินเสียงเย็นนี้ เกาจ้านหน้าซีดขาวไปเลย

"ผม……ผมแค่ล้อเล่นเท่านั้นเอง ผมไม่พูด"

อวี้หนานเฉิงเก็บความเหี้ยม หมุนตัวก้าวไปทางประตูห้าง "หลังจากที่ถึงแล้วเก็บปากนายไว้ให้ดี"

เกาจ้านถึงได้สติทีหลัง รีบเดินตามไป ตบหน้าอกรับประกัน

"ผมไม่พูดอะไรแน่นอน ผมอะไรก็ไม่รู้ นัดกินข้าวบ้านอันหรานเหรอ? กินอะไร?"

"หม้อไฟ"

"อากาศร้อนขนาดนี้กินหม้อไฟ?"

"นายไม่อยากไปไม่ไปก็ได้"

"หม้อไฟดี กินหม้อไฟมีฤทธิ์ขับเหงื่อ พี่เฉิง เราซื้อวัตถุดิบไปหน่อยดีไหม"

"นายรู้สึกว่าเอาของไป คนอื่นจะไม่กล้าไล่นาย?"

"รู้ดีก็อย่าพูดออกมาได้ไหม เป็นพี่น้องกันมาหลายปี ไว้หน้ากันบ้าง"

"มีตอนที่นายไม่มีหน้า"

อวี้หนานเฉิงทิ้งประโยคนั้นไว้อย่างจงใจ เกาจ้านกลับไม่รู้สึกสักนิด เขาเห็นเป็นคำยั่วให้เขาโกรธตามปกติเท่านั้น ยังคงคิดเรื่องเตรียมขอแต่งงานแบบโรแมนติกงานมงคลขนาดใหญ่กับถานซูจิ้ง และไม่เห็นสภาพตัวเองที่ต้องเผชิญหน้าในเวลานี้ ไม่น่าดูเท่าไหร่

จนกระทั่งไปถึงบ้านเซิ่งอันหราน เปิดประตูเห็นร่างที่คุ้นเคยหนึ่ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน