ผูกรักท่านประธานพันล้าน นิยาย บท 160

“โอเค ฉันรู้แล้ว ขอบคุณพี่มากนะ ฉันรู้ว่าพี่ดีกับที่สุด "

วิเวียนถอดรองเท้าแล้วนั่งเอนกายพิงโซฟา เดิมทีเธอกำลังยิ้มอยู่ แต่จู่ ๆ ก็ดูเหมือนว่าเธอจะนึกอะไรขึ้นได้ เธอชะงักไปครู่หนึ่ง “เอ่อ ฉันขอถามอะไรพี่หน่อยสิ ”

“……”

“ก่อนหน้านี้ พี่บอกว่า พี่หนานเฉิงมีแฟนแล้ว ผู้หญิงคนนั้นคือผู้จัดการล็อบบี้ที่ชื่อเซิ่งอันหรานหรือเปล่า ?”

"……"

“เปล่า ไม่มีอะไร วันนี้ฉันได้เจอเธอแล้ว เธอดูดีมากๆ อย่างนั้นฉันไม่คุยกับพี่แล้วนะ ขอวางสายก่อนล่ะ หลังจากทำงานเสร็จฉันจะไปเลี้ยงข้าวพี่นะ ”

หลังจากวางสายแล้ว วิเวียนก็วางโทรศัพท์ลง เธอนั่งกอดเข่าอยู่บนโซฟา จากนั้นก็เอนกายลงบนหมอนด้วยความงุนงง

เมื่อนึกย้อนถึงผู้หญิงที่เจอเมื่อเช้านี้ เธอดูยังสาวมาก แต่ก็ไม่ได้สวยไปกว่าตัวเองเลย เธอดูอ่อนน้อมถ่อมตน อย่างอื่นก็ไม่มีอะไรที่ทำให้รู้สึกพิเศษไปมากกว่านั้น และดูไม่เหมือนผู้หญิงในแบบที่พี่หนานเฉิงชอบเลย

เป็นเพราะว่าถึงวัยแล้วเหรอ ถึงได้หาคนที่จะมาใช้ชีวิตอยู่ข้างๆแบบลวกๆอย่างนี้ ? เธอรู้สึกสงสัยเล็กน้อย

ไม่สนใจหรอก ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงแบบไหน แต่ถ้ามาอยู่เคียงข้างหนานเฉิงแล้ว มันก็คือศัตรูของตัวเองทั้งหมด ที่เธอกลับมาครั้งนี้ เพราะตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะฟื้นฟูอดีต และคืนดีกับอวี้หนานเฉิง

——

ตอนเที่ยงของวันรุ่งขึ้น เซิ่งอันหรานกำลังลาดตระเวนตรวจสอบความเรียบร้อยที่ล็อบบี้ตามปกติ และเมื่อเห็นรถ VIP ที่คุ้นเคยจอดอยู่ที่หน้าประตูโรงแรม ดวงตาของเธอก็เป็นประกายขึ้นทันที เธอเดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว

ก่อนที่เธอจะเดินเข้าไปถึง เธอมองเห็นเงาของคนสองคนที่กำลังนั่งอยู่ในรถ ด้านหน้าหนึ่งคน ด้านหลังหนึ่งคน ดูคล้ายกับอวี้หนานเฉิงและวิเวียน

“พี่หนานเฉิง ตอนเที่ยงพี่ต้องเลี้ยงข้าวฉันนะ นี่เป็นเพราะฉันเห็นแกหน้าพี่ ถึงได้มอบโอกาสสำคัญและขายออร์เดอร์ใหญ่ๆแบบนี้ให้ ต่อไปไม่ว่าจะเป็นไม่ว่าจะช่วง high season หรือ low season พี่ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องลูกค้าที่จะมาพักในโรงแรมในเขตภูมิภาคจีนตะวันออกอีกต่อไป"

"เธออยากทานอะไร?"

“อาหารจีน ฉันอยู่เมื่อนอกมาตั้งนาน ไม่ได้กินอาหารจีนแท้ ๆมานานแล้ว ”

ในขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกันอยู่นั้น มีเงาของใครคนหนึ่งกำลังยืนอยู่ไม่ไกลและมองมาที่พวกเขา

“เป็นคุณอีกแล้วเหรอ ” วิเวียนขมวดคิ้ว “ฉันไม่ได้บอกคุณไปแล้วหรือ ? ฉันไม่มีสิทธิ์จัดการกับพนักงานแทนผู้จัดการของคุณ แต่ในขณะที่ฉันอยู่ที่นี่ ฉันไม่ต้องการเห็นคนที่ขาดความรับผิดชอบเช่นคุณ”

เซิ่งอันหรานหน้าซีด เธอกำหมัดแน่น เดิมทีเธอแค่ต้องการเข้ามาทักทายอวี้หนานเฉิง แต่เมื่อสถานการณ์เป็นแบบนี้ คำทักทายของเธออาจจะเป็นการตบหน้าอวี้หนานเฉิงเอาก็ได้ ดังนั้นเธอจึงก้มหน้าลง

"ฉันเข้าใจแล้ว ขอโทษด้วยค่ะ "

เมื่อพูดจบ เธอก็หันหลังกลับและเดินออกไป

อวี้หนานเฉิงขมวดคิ้ว เขามองไปทางด้านหลังของวิเวียนและถามเธอขึ้นว่า "เกิดอะไรขึ้น"

“เธอน่ะเหรอ ” วิเวียนจิบปากจิบคออธิบายเหตุการณ์เรื่องเมื่อวานอย่างละเอียด

“แพ้เกสรดอกไม้อย่างรุนแรงอาจทำให้ระบบทางเดินหายใจล้มเหลวได้ ซึ่งเคลสแบบนี้ในต่างประเทศไม่ใช่ไม่มี เธอเป็นผู้จัดการล็อบบี้ไม่ใช่เหรอ ?ทำพี่ถึงได้ใช้คนประเภทนี้เป็นผู้จัดการล็อบบี้ได้ ?พี่ควรจะต้องดูแลและควบคุมพนักงานฝ่ายบุคคลของพี่ใหม่แล้วล่ะ ”

“เรื่องเล็กน้อย” อวี้หนานเฉิงเหลือบมองเธอ “ฉันไม่เคยเห็นเธอสนใจเรื่องเล็กๆน้อยๆแบบนี้มาก่อนเลย”

“เพราะก่อนหน้านี้ฉันไม่ต้องมาดูแลบริษัทใหญ่แบบนี้ ” วิเวียนกะพริบตา “การทำงานนั้นยากลำบาก ออกไปทำงานนอกบ้านมาหลายปี ตอนนี้ก็ต้องรอบคอบและมีสติเป็นพิเศษ”

อวี้หนานเฉิงไม่ถามต่อ เพียงแค่มองไปยังทิศทางที่เซิ่งอันหรานเดินจากไป เขารู้สึกอึดอัดเป็นอย่างมาก “อย่างน้อย ๆ เธอก็รอบคอบและมีสติขึ้น แต่คิดว่าเรื่องคราวนี้ก็ให้แล้วๆกันไปเถอะ ”

“แล้วๆกันไปเถอะ ?มันดูไม่เหมือนสไตล์ของพี่หนานเฉิงเลยนะ ถ้าว่าเป็นเมื่อก่อน พี่เห็นพนักงานที่ขาดความรับผิดชอบ พี่แทบจะไล่พวกเราออกไปในทันที เกิดอะไรขึ้น หรือพี่เห็นว่าผู้หญิงคนนั้นสวย ตกหลุมรักเธอแล้วหรือยังไง ? ”

"เธอเป็นคู่หมั้นของฉัน"

เมื่อได้ยินเช่นนี้ รอยยิ้มของวิเวียนถูกหุบลงอย่างกะทันหัน ดวงตาของเธอก็ทรุดลงแทบจะในทันที

ในตอนเย็น ทีมตรวจสอบของ sg Tourism Group และคนของเซิ่งถัง ได้ร่วมกันรับประทานอาหารในโรงแรม ซึ่งเป็นการเฉลิมฉลองการอนุมัติข้อตกลงการร่วมมือแบบล่วงหน้า เซิ่งอันหรานก็ถูกเรียกให้มางานนี้ด้วย เธอนั่งอยู่ทางด้านข้างของอวี้หนานเฉิง เนื่องจากเรื่องก่อนหน้านี้ ทำให้เธอยังรู้สึกไม่สบายใจอยู่

วิเวียนหยิบแก้วเหล้าขึ้น “ฉันขอดื่มเป็นเกียรติให้กับผู้จัดการเซิ่งก่อน ซึ่งก่อนหน้านี้ ฉันไม่รู้ว่าคุณเป็นคู่หมั้นของประธานอวี้ ฉันขอโทษจริงๆ”

คำพูดเหล่านี้ดูเหมือนมีความหมายแอบแฝง ประการแรก เธอขอโทษด้วยความจริงใจ และประการที่สอง เธอต้องการบอกคนอื่นว่าคำขอโทษของเธอมีไว้เพื่อเห็นแก่หน้าอวี้หนานเฉิง เท่านั้น และเซิ่งอันหรานก็ไม่ได้ดีพอที่จะเป็นที่พึ่งพาของเขาได้ในอนาคต เธอเป็นเพียงแค่ผู้หญิงที่ไร้ความสามารถเท่านั้น

“เพราะฉันไม่ดีเอง คุณวิเวียนอย่าได้เอาไปใส่เลย คนที่ควรดื่มคือฉันมากกว่า ”

เซิ่งอันหรานก้มหน้ากัดฟันดื่มเหล้า กลิ่นของมันทำให้เธอรู้สึกอึดอัดมาก

ในขณะที่เธอกำลังจะดื่ม อวี้หนานเฉิงก็ยื่นมือเข้ามาขัดจังหวะ จากนั้นก็เหลือบมองวิเวียน

“เหล้าแก้วนี้ของอันหราน ฉันจะดื่มแทนเธอเอง เธอดื่มไม่เก่ง ”

หลังจากพูดเสร็จ เขาก็หยิบแก้วเหล้าจากมือของเซิ่งอันหราน และยกมันขึ้นดื่ม

เมื่อเห็นลูกกระเดือกที่คอของเขากลิ้งขึ้นลง เซิ่งอันหรานก็รู้สึกโล่งขึ้นเธอค่อยๆปลอบใจตัวเองอย่างเงียบ ๆ นี่ถือเป็นการทำธุรกิจ ยังไงซะมันก็จะต้องมีเหตุการณ์แบบนี้

ไม่มีใครสังเกตเห็นว่าวิเวียนซึ่งนั่งอยู่ตรงข้ามมีใบหน้าที่ไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมาก

ในระหว่างงานเลี้ยง อวี้หนานเฉิงดื่มเหล้าเข้าไปไม่น้อย ซึ่งส่วนมากเป็นการดื่มแทนเซิ่งอันหราน สุดท้าย อวี้หนานเฉิงก็เดินไปเข้าห้องน้ำ

ส่วนเซิ่งอันหราน เดิมทีเธอกำลังนั่งรอเขาอยู่ในพื้นที่สำหรับพักผ่อน แต่เมื่อเห็นว่าเขายังไม่ออกมา เธอเกรงว่าเขาจะอาเจียนในห้องน้ำ ดังนั้นเธอจึงรีบไปที่แผนกต้อนรับ เพื่อหยิบยาและผ้าขนหนูร้อน จากนั้นก็ตรงเข้าห้องน้ำเพื่อไปหาอวี้หนานเฉิง

ทันทีที่เธอเดินพ้นประตูห้องน้ำเข้ามา เธอก็ได้ยินเสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังออกมาจากทางด้านใน เซิ่งอันหรานหยุดชะงักที่ประตูทันที

เธอเงยหน้าขึ้นโดยอัตโนมัติ และเหลือบมองป้ายที่ประตู มันคือห้องน้ำชาย ไม่ผิดแน่

หลังจากที่ได้ยินเสียงภายในอย่างชัดเจนแล้ว เธอก็ตกตะลึงตัวแข็งทื่อ

“พี่หนานเฉิง ฉันรู้ว่าเรื่องเมื่อหกปีที่แล้ว ฉันเป็นคนผิด ตอนนั้นฉันรู้สึกสับสน และฉันก็อายุยังไม่ถึง 20 ปีเลยด้วยซ้ำ ตอนนั้นฉันไม่เข้าใจว่าความรักคืออะไร ฉันขอร้องให้ทางครอบครัวจัดงานแต่งงานระหว่างฉันกับพี่ และฉันไม่เคยถามตัวเองเลยด้วยซ้ำว่า ฉันรักพี่หรือเปล่า ”

เซิ่งอันหรานยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องน้ำ เธอเห็นชัดว่าอวี้หนานเฉิงกำลังหันข้างให้กับตัวเธอ และหันหน้าเข้าหาร่างสูงเอวบางของวิเวียน ส่วนวิเวียนก็เอนกายลงซบบนหน้าอกของเขา และร้องไห้ฟูมฟายราวกับสายฝน

“พี่หนานเฉิง ฉันรู้ว่าพี่รักฉัน ฉันจะไม่ทิ้งพี่ไปไหนอีก พี่อาจ้านบอกฉันว่า พี่ใช้หยกที่คุณย่าของพี่มอบให้มาทำเป็นสร้อยคอเพื่อมอบให้ฉัน ตอนนั้นคุณย่าบอกพี่ว่า ให้พี่มอบสร้อยเส้นนั้นให้กับภรรยาในอนาคตของพี่ ฉันรู้ดี ตอนนี้ฉันเข้าใจหมดแล้ว ”

ทันใดนั้น เซิ่งอันหรานก็รู้สึกว่าสมองของเธอกำลังจะระเบิด ทุกอย่างบนโลกดูว่างเปล่าไปหมด เธอสูญเสียสติอย่างสิ้นเชิง เธอต้องการหนีไปจากสถานการณ์แห่งนี้ แต่ทว่าขาเธอกลับไม่ขยับ

จนกระทั่งเธอเห็นอวี้หนานเฉิงยกมือขึ้นและกอดวิเวียน เสียงทุ้มต่ำดังสะท้อนอยู่ในห้องน้ำ แม้มันจะไม่ดังมาก แต่มันก็ชัดเจนมาก เหมือนน้ำเสียงของคนพูดดูเสียใจอย่างสุดซึ้ง

“มั่นหัน สร้อยคอหายไปแล้ว”

เซิ่งอันหรานทนฟังต่อไปไม่ไหว ไม่รู้ว่าเธอเอากำลังมาจากไหน เธอรีบหันกลับและวิ่งหนีออกไปจากโรงแรมทันที เซิ่งอันหรานวิ่งออกไปไกลมาก โดยที่ตัวเธอเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองวิ่งมาถึงหัวมุมของถนนเส้นไหน ที่นั่น มีรถวิ่งสวนไปมารอบๆตัวเธออย่างหนาแน่น

เซิ่งอันหรานยืนอยู่บนทางเดินเท้า เธอโน้มตัวลงเอามือเท้ากับหัวเข่าของตัวเองด้วยความเหน็ดเหนื่อยและหอบอย่างรุนแรง อีกทั้งในมือยังถือผ้าขนหนูร้อนที่ตอนนี้เย็นยะเยือกไปแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน