หลังจากขับรถมากว่า 30 กิโลเมตร ในที่สุดก็มาถึงเมืองกวนไห่
บนที่นั่งข้างคนขับ มุมตาของเซิ่งอันหรานยังมีคราบน้ำตาติดอยู่ เธอผล็อยหลับไป
อวี้หนานเฉิงอดไม่ได้ที่จะปลุกเธอ และเขาก็รู้ว่าเวลาบีบมาก ต้องจัดการเรื่องต่างๆให้เสร็จโดยเร็วที่สุด ดังนั้นเมื่อจอดรถ เขาก็ตบไหล่เธอเพื่อเรียกให้ตื่น
“อันหราน ถึงแล้ว”
เซิ่งอันหรานลืมตาขึ้น เธอจ้องไปที่อวี้หนานเฉิงเป็นเวลานาน ก่อนจะเหลือบมองไปนอกหน้าต่าง ราวกับว่ากำลังอยู่ในภวังค์ความฝัน
แสงแดดข้างนอกแรงมาก จนเกือบจนเผาไหม้ผิวคน
หลังจากลงรถเซิ่งอันหรานเดินได้สองก้าวเธอก็ถูกร่มเงามาปกคลุม เมื่อเงยหน้าขึ้นเธอก็เห็นอวี้หนานเฉิงถือร่มสีดำยืนอยู่ข้างกายเธอ และถามอย่างเป็นกันเองว่า
“จะไปไหน ?”
เธอดึงสติกลับมา แล้วชี้ไปยังร้านขายของชำข้างหน้า
“ตรงนั้น ซูจิ้งให้ฉันมาติดต่อเจ้าของร้านขายของชำ เป็นร้านเดียวในเมืองนี้ที่มีโทรศัพท์สาธารณะ”
เนื่องจากสภาพภูมิประเทศ เมืองหลินปัวจึงไม่ร่ำรวย โดยเฉพาะเมืองกวนไห่ ยิ่งกว่านั้นยังเป็นสถานที่จนและน่าสงสาร ราวกับว่ายังคงรักษาสภาพเศรษฐกิจและการใช้ชีวิตดั้งเดิมไว้ ทุกที่สามารถเห็นชาวประมงนั่งอาบแดดอยู่ที่ประตู และดูดบุหรี่ที่ทำเอง
หลังจากแนะนำตัวเองกับเจ้าของร้านขายของชำแล้ว เจ้าของร้านก็จำได้ทันทีว่าเซิ่งอันหรานคือคนที่เขาเคยคุยด้วยเมื่อก่อน เขาเรียกภรรยาออกมาดูร้าน จากนั้นก็พาเซิ่งอันหรานและอวี้หนานเฉิงทั้งสองคนไปหาฉินปัว
“เสี่ยวปัวอาศัยอยู่ริมทะเล เด็กคนนี้ค่อนข้างแปลก เขาไม่ค่อยติดต่อกับใครในเมืองของเรา”
“จริงเหรอคะ ? แปลกยังไงเหรอคะ ?”
เซิ่งอันหรานเดินตามเจ้าของร้าน และถามเรื่องของนักออกแบบฉินปัวด้วยความสงสัย
เขาไม่ต้องการมีชีวิตที่ดีในเมืองนี้ เขากลับมายังที่ยากจนของพวกเราที่นี่เพื่อลิ้มรสความยากลำบาก นี่มันยังไม่แปลกอีกเหรอ ?
เมื่อได้ยินแบบนี้ เซิ่งอันหรานก็ยิ้ม คุณลุงคะ ตอนนี้มีผู้คนมากมายที่เป็นแบบนี้ ในเมืองวุ่นวายเกินไป การได้กลับมาใช้ชีวิตที่บ้านเกิดก็เป็นเรื่องที่ดีเช่นกัน
“ฉันไม่เข้าใจ แตว่า เสี่ยวโบยังมีเรื่องที่แปลกมากกว่านี้อีก เมื่อสองปีก่อนนายกเทศมนตรีของพวกเราได้เป็นประธานในการพัฒนารีสอร์ตท่องเที่ยวริมทะเล แต่สุดท้ายก็โดนเด็กจนนี้ก่อกวนจนล้มโครงการไป”
“ห๊ะ ? ทำไมล่ะคะ? ”
“บอกว่ามีคนมากเกินไปรบกวนความสงบของเขา และยังบอกว่าเป็นมลพิษอะไรไม่รู้อีก”
“นายกเทศมนตรีไม่มีวิธีจัดการกับเขาเหรอคะ ?”
เสี่ยวโบมีวัฒนธรรม เขาเป็นคนเดียวในเมืองของพวกเราที่เคยไปต่างประเทศ คนส่วนใหญ่ในเมืองของเราล้วนฟังสิ่งที่เขาพูด อย่างไรก็ตามเรื่องการพัฒนา พวกเราก็ไม่เข้าใจอะไรยังไง เลยปล่อยเขาไป
เมืองกวนไห่ค่อนข้างห่างไกลและแยกตัวออกจากโลกภายนอกอย่างมาก ดังนั้นที่มีคนอย่างเสี่ยวโบอยู่ที่เคยไปต่างประเทศอยู่ที่นี่ มันก็ราวกับว่าเขาเป็นผู้มีอิทธิพล แม้แต่นายกเทศมนตรีก็ยังให้ความเคารพเขาเลย
เซิ่งอันหรานขมวดคิ้ว
ฉินปัวคนนี้กำลังขัดขวางการพัฒนาของผู้คนในเมืองนี้เพียงเพื่อผลประโยชน์ในการใช้ชีวิตของตัวเอง ?
ถ้ารู้ว่าการท่องเที่ยวพัฒนาขึ้นมา เมืองทั้งเมืองก็จะเปลี่ยนโฉมใหม่ และจะพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว
หลังจากเดินไปเกือบสองชั่วโมง ท้องของเซิ่งอันหรานเริ่มร้องแล้ว ในที่สุดเธอก็ได้ยินเจ้าของร้านพูด
“ถึงแล้ว”
เจ้าของร้านขายของชำชี้ไปยังบ้านไม้ทาสีฟ้าขาวริมทะเล
เสี่ยวปัวอาศัยอยู่ที่นี่ ฉันไม่เข้าไปละนะ ถ้าพวกคุณสองคนต้องการที่พักในตอนกลางคืน ก็กลับไปในเมือง ถ้าหากว่าหาทางไม่เจอ ก็โทรศัพท์ไปที่ร้านของฉัน ฉันจะให้ลูกสาวมารับพวกคุณ
“โอเคค่ะ ขอบคุณมากค่ะคุณเจ้าของร้าน”
หลังจากพูดขอบตุณ เซิ่งอีนหรานและอวี้หนานเฉิงทั้งสองคนเดินตามกันไปยังบ้านริมทะเลที่ไม่เหมือนใคร
บริเวณริมทะเลแห่งนี้ยังไม่มีการพัฒนาเลย ไม่มีหาดทรายที่อ่อนนุ่ม และทิวทัศน์บริเวณโดยรอบก็ไม่ค่อยดีนัก และในสายลมก็ยังมีกลิ่นความของทะเลอีก
บ้านไม้สีขาวล้อมรอบไปด้วยรั้วสีขาวเป็นวงกลม ด้านในมีชั้นวางของไม้สามชั้น แขวนไปด้วยปลาเค็มและเสื้อผ้าตากแห้งของผู้ชายเป็นส่วนใหญ่
มีชายผิวคล้ำสวมเสื้อคนหนึ่งคนหนึ่งกำลังต้มน้ำอยู่ในบ้าน ใช้หม้อสนามและใช้วิธีการกลั่นน้ำแบบง่ายๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน