“อย่าเสียใจเลย”
“อวี้หนานเฉิงเลิกคิ้วขึ้น และกดโทรศัพท์โทรหาโจวฟัง”
“เลื่อนงานของสัปดาห์นี้ออกไปให้หมด อีกอย่างบริษัทตกแต่งของอันหราน คุณหาคนที่ไว้ใจได้สองสามคนไปเฝ้าไว้ และสองวันนี้ถ้าไม่มีเรื่องร้ายแรงอะไร ไม่ต้องติดต่อผมมา”
เสียงที่ดังขึ้นภายในรถ ทำให้หูที่ได้ยินของเซิ่งอันหรานแปลกใจ
คนบ้างานอย่างอวี้หนานเฉิง เพียงเพราะคำพูดเล่นของเธอคำเดียว เขาถึงกับยกเลิกงานทั้งสัปดาห์เลย ?
เธอเคยไปพบประธานเซิ่งถังกรุป มีเอกสารมากมายเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แค่อวี้หนานเฉิงไม่อยู่ครึ่งวันงานก็กองทับถมเต็มโต๊ะแล้ว แล้วถ้าไม่อยู่หนึ่งสัปดาห์ งานจะต้องท่วมทั้งห้องทำงานแน่เลย !
“หัวหน้าเซิ่ง คุณวางแผนจะจ่ายค่ารักษาเท่าไหร่ ?”
เมื่อได้ยินประโยคนี้ เซิ่งอันหรานถึงดึงสติกลับมา ราวกับยอมรับความจริงอย่างใจเย็น
“ตามราคาตลาด ?”
“ต่ำเกินไปแล้ว พยาบาลไม่มีทางให้เตียงอุ่นคุณแน่”
มุมปากของเซิ่งอันหรานกระตุก “ใครจะต้องการเตียงอุ่นของคุณ ?”
เธอสงสัยอย่างมากว่าอวี้หนานเฉิงในแง่มุมด้านอันธพาลเขาทำแบบนี้เพื่อมาที่นี่
อวี้หนานเฉิงพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า
“งั้นก็ถือว่าเป็นของขวัญ ซื้อพยาบาลแถมเตียง”
ใครอยากได้ของขวัญคุณกัน ?
เซิ่นอันหรานปฏิเสธเด็ดขาด !
หลังจากตรวจร่างในโรงพยาบาลที่ดีที่สุดในเมืองแล้ว ท้องฟ้าก็มืดสนิท เซิ่งอันหรานกดก้านสำลีลงบนแขนของเขา ด้วยใบหน้าไร้ความปรานี
เธอก็แค่ไปรักษาแผลน้ำร้อนลวกที่ห้องฉุกเฉินก็เท่านั้น ทำไมต้องกังวลถึงเรื่องการติดเชื้ออะไรด้วย ? แล้วยังให้เธอตรวจเช็กทั้งร่างกายอีก รวมไปถึงตรวจเลือดด้วย
“ถึงวิธีการทำแผลจะดูหยาบไปหน่อย แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไร รับยาเสร็จแล้วพวกคุณก็กลับได้ แล้วค่อยกลับมาเอาผลเลือดสัปดาห์หน้า”
ตามใบสั่งของหมอ รับยาเสร็จ พวกเขาก็ออกจากโรงพยาบาล
รถยนต์ธุรกิจสีดำสัญจรไปมาท่ามกลางการจราจรที่แออัด ความเจริญรุ่งเรืองของเมืองจินหลิงและความเรียบง่ายของเมืองกวนไห่ดูเหมือนจะตรงกันข้ามกันเลย ความแตกต่างของพื้นที่และเวลามันช่างกระทบกับความรักอันละเอียดอ่อนของเซิ่งอันหราน
“ค่ำแล้ว ยังไปเยี่ยมถานซูจิ้งอยู่เหรอ ?”
“ไป” เซิ่งอันหรานพยักหน้า “เธอเคยบอกกับฉันว่า ในตอนที่ป่วยเธอมักจะใช้เวลาส่วนใหญ่นอน ตอนกลางววันและตอนกลางคืนไม่ค่อยต่างกันเท่าไหร่ ฉันเลยจะไปเยี่ยมเธอ คุณ......ก็ไปคุยกับเกาจ้านละกัน”
ถ้าหากไม่สามารถทนจุดเปลี่ยนในชีวิตได้ ก็อย่าไปฝืนมันเลย
อวี้หนานเฉิงรู้ว่าเธอหมายความว่าอะไร เธอพยักหน้า “ผมจะบอกสถานการณ์จริงที่สุดกับเขา แต่เขาจะเลือกยังไง เป็นเรื่องของเขา คุณต้องการให้ผมบอกอะไรไหม ?”
“ไม่ต้อง” เซิ่งอันหรานส่ายศีรษะ “รอให้พวกคุณพูดเสร็จแล้ว ฉันค่อยพูดละกัน”
“อืม”
หลังจากที่ถานซูจิ้งป่วยและเกาจ้านส่งมาตรวจที่โรงพยาบาล พร้อมกับยาทาแผลถลอกภายนอก หลังจากปรึกษาหารือ ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตเวชแนะนำให้เขารักษาตัวที่โรงพยาบาล แต่กลับถูกเกาจ้านปฏิเสธ เขาไปดูสภาพแวดล้อมโรงพยาบาลจิตเวช เขารับไม่ได้จริงๆที่จะต้องอยู่กับคนเหล่านั้น
ดังนั้นตอนนี้ถานซูจิ้งเลยอาศัยอยู่ในคอนโดของเกาจ้าน
เกาจ้านลาออกจากงานในเซิ่งถังกรุป แล้วมาดูแลเธอแทบจะยี่สิบสี่ชั่วโมง
หลังจากเปิดประตู เซิ่งอันหรานก็เห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยหนวดเครา ถ้าไม่ใช่เพราะเธอเคยเห็นใบหน้าที่ยุ่งเหยิงของเขามาก่อน ในตอนนี้เธอจะต้องตกใจมากแน่ๆ
“ขอโทษด้วยนะ”
สภาพของเกาจ้านยังค่อนข้างดูดี แต่เมื่อเห็นเซิ่งอันหรานมองมาที่ตัวเอง เขาก็ลูบเคราของตัวเองก่อนจะอธิบายว่า
“ใบมีดภายในบ้านถูกผมเอาออกไปทิ้งหมดเลย ดังนั้นเลยไม่ได้จัดการโกน พวกคุณเข้ามาก่อนสิ”
ในบ้านมีผู้ป่วยซึมเศร้าหนึ่งคนที่ไม่รู้ว่าจะฆ่าตัวตายเมื่อไหร่และยังอยากที่จะจากโลกนี้ไปโดยไม่บอกใครอีก ดังนั้นเกาจ้านจึงต้องระมัดระวัง
“เธอหลับอยู่เหรอ ?”
เซิ่งอันหรานเข้ามาในห้อง หันไปมองทางห้องนอนใหญ่
เกาจ้านส่ายศีรษะ “ยังเลย ดูทีวีอยู่ในห้อง คุณเข้าไปหาเธอเถอะ”
“อืม”
เซิ่งอันหรานตรงไปที่ห้องนอน และมอบพื้นที่ห้องนั่งเล่นให้กับพวกเขาสองพี่น้อง
เธอเชื่อว่าอวี้หนานจะคิดถึงสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด และบอกเกาจ้านว่าหนทางข้างหน้ายังอีกยาวไกล ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าเขาสามารถทนต่อผู้ป่วยโรคซึมเศร้าได้ไหม แต่การที่พ่อแม่ของเขานั้นจะรับการมีอยู่ของถานซูจิ้งได้หรือไม่นั้น ล้วนเป็นปัญหาที่ร้ายแรงทั้งนั้น
เกรงว่าเขาไม่อาจมีความสามารถในการพูดโน้มน้าวพ่อแม่ของตัวเอง
เมื่อปิดประตูห้องนอน เซิ่งอันหรานก็ขจัดความกังวลออกไปชั่วขณะ เธอมองดูร่างที่นั่งยองๆข้างเตียงอย่างระมัดระวัง
ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้สังเกตมาก่อน อันที่จริงถานซูจิ้งผอมลงมาก เธอขดตัวอยู่เหมือนเป็นสัตว์ที่ทำอะไรไม่ถูก และรู้สึกไม่ปลอดภัย
คอมพิวเตอร์ที่อยู่ตรงหน้าเธอเหมือนกำลังเปิดการ์ตูนเจ้าหญิงดิสนีย์ เธอดูอย่างตั้งตกตั้งใจ ดวงตาที่เฉียบคมอันคุ้นเคย ตอนนี้เหลือเพียงความไร้เดียงสา
เมื่อเห็นรูปลักษณ์แบบนั้น ใจของเซิ่งอันหรานก็อ่อนระทวย และรู้สึกตื่นตระหนก
ไม่ว่าใครเมื่อมองเห็นสายตาแบบนี้ ล้วนต้องเห็นอกเห็นใจ นับประสาอะไรกับเกาจ้าน ผู้ชายที่รักเธอจนแทบคลั่งและอยากแต่งงานกับเธอมาก่อน
“ซูจิ้ง”
เซิ่งอันหรานพูดเสียงเบาเพราะกลัวว่าเธอจะตกใจ
ร่างบนเตียงหดตัวลง และดึงผ้าห่มขึ้น เธอซุกใบหน้าของตัวเองเข้าไปข้างใน หลังจากนั้นไม่นาน ดวงตาคู่หนึ่งก็ค่อยๆปรากฏออกมา
เธอสงสัย และไม่รู้จะทำอย่างไร
เซิ่งอันหรานยืนอยู่ที่เดิมไม่กล้าขยับ เธอพยายามอธิบาย ไม่รู้จักเหรอ ? ซูจิ้ง ฉันคืออันหราน เซิ่งอันหราน เป็นแม่ของซิงซิงน้อย
ลูกบุญธรรมของเธอ
แววตาของถานซูจิ้งดูสับสนเล็กน้อย หลังจากผ่านไปสักพักก็ดูเหมือนจะจำได้ เธอลังเลก่อนจะพยักหน้า จากนั้นก็พูดด้วยเสียงอันแหบแห้งว่า “อัน หราน”
“ใช่ อันหราน”
เซิ่งอันหรานพยักหน้าด้วยความโล่งอก และลังเลอยู่สักพัก จากนั้นก็ชี้ไปที่คอมพิวเตอร์และพูดว่า “คุณกำลังดูสโนว์ไวท์อยู่เหรอ ? ฉันดูด้วยกันกับคุณได้ไหม”
ปฏิกิริยาดูช้ามาก เธอครุ่นคิดอยู่นาน ประมาณครึ่งนาที ก่อนจะพยักหน้า และพูดคำหนึ่งออกมาอย่างยากลำบากว่า “ตกลง”
ในภาพยนตร์ สโนว์ไวท์กำลังรับแอปเปิลอาบยาพิษมาจากแม่มด เป็นวินาทีแห่งความตึงเครียด
“คุณจะใช้ชีวิตแบบนี้ไปเรื่อยๆเหรอ ?”
ในห้องนั่งเล่น เสียงของอวี้หนานเฉิงยังคงเย็นชาเหมือนเดิม
แต่เกาจ้านที่อยู่ตรงข้ามกลับหัวเราะออกมา “มีเรื่องอะไรไม่ดีเหรอ ? เมื่อก่อนพวกคุณไม่ได้คิดว่าผู้หญิงรอบตัวผมล้วนเป็นผู้หญิงไม่ดีเหรอ ? ตอนนี้มีเพียงคนเดียวแล้ว คนอื่นผมตัดทิ้งไปหมดแล้ว”
“ฉันไม่คัดค้านการตัดสินใจของคุณ แต่ก่อนหน้านั้น ในฐานะเพื่อน ฉันต้องบอกว่าคุณจะต้องเผชิญกับอะไร จะฟังไหม ?”
คำพูดของอวี้หนานเฉิงเย็นชามาก ขจัดบรรยากาศอันผ่อนคลายที่เกาจ้านพยายามสร้างขึ้นมา
เกาจ้านรู้ว่าเขาไม่สามารถหลบได้ เขาเกาหัวแล้วค่อยๆถอนหายใจออกมา
“ได้ คุณพูดในสิ่งที่ต้องการเถอะ ยังไงผมก็คิดดีแล้ว”
“ตอนนี้คุณคิดว่าตัวเองมีความมุ่งมั่นและแข็งแกร่งกว่าจินเจียนดังนั้นฉันจะเกลี้ยกล่อมคุณยังไงมันก็เป็นไปไม่ได้ งั้นฉันจะถามคุณ คุณลุงเกาและคุณป้าเกาทางนั้น เคยพูดกับคุณเหรอ ?”
จากจุดเริ่มต้น อวี้หนานฉิงได้ตัดเข้าเรื่องที่สำคัญที่สุด
เกาจ้านคิดเกี่ยวกับปัญหานี้มาก่อน แต่เมื่อได้ยินคำถามนี้ เขาก็ยังคงขมวดคิ้ว
“เก็บเป็นความลับไว้ก่อน รอจนถึงเวลาที่เหมาะสมแล้วค่อยพูด”
“เมื่อไหร่ที่จะถึงเวลาสมควรล่ะ ?”
เสียงของอวี้หนานเฉิงเริ่มเย็นชาลง “คุณวางแผนที่รอจนกว่าถานซูจิ้งจะฟื้นคืนสติขึ้นมา ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน