แผลที่เกิดจากความร้อนใช้เวลาพักรักษาตัวไม่นาน 1 สัปดาห์ต่อมา เซิ่งอันหราน สามารถเดินได้อย่างอิสระ
โครงการพัฒนารีสอร์ตของของเซิ่งถังกรุ้ปล่าช้าไประยะหนึ่ง ดังนั้นหลังจากยืนยันว่าเซิ่งอันหราน หายดีแล้ว อวี้หนานเฉิง ก็เดินทางไปทำธุรกิจและทำงานนอกสถานที่แบบไม่หยุดหย่อน
“โครงการนี้ต้องหารือกันภายในสามวัน หลังจากเครื่องบินลงจอดแล้ว การประชุมทีมจะจัดขึ้นในทันที ”
ที่สนามบิน อวี้หนานเฉิงได้สั่งงานสำคัญกับโจวฟัง
“สามวัน ?” ดวงตาของโจวฟังเกือบจะทะลุออกมา “ประธานอวี้ เวลาแค่นี้จะพอเหรอ พวกเขา…”
“ผมไม่ต้องการที่จะได้ยินข้อแก้ตัวใด ๆ หากว่าในเวลาสามวันยังคุยกันไม่ได้ขอสรุป คุณจะต้องนำทีมไปพูดคุยกับพวกเขาต่อไป ผมจะกลับไปที่จินเหลิง ผมมีธุระที่จะต้องไปทำ ”
"ห๊า?"
โจวฟังไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เขาได้ยิน “นี่เป็นโครงการหลายร้อยล้านหยวน มีอะไรสำคัญไปกว่านี้อีก ?”
"เรื่องส่วนตัว"
อวี้หนานเฉิงคิ้วขมวดด้วยความขุ่นเคืองใจเล็กน้อย
ถ้าว่าเขาฟังไม่ผิดล่ะก็ ผู้ชายที่ชื่อกู่เจ๋อกำลังจะมาที่จินหลิงในสัปดาห์นี้ เขาไม่มีเหตุผลที่จะไม่พบกับผู้ชายคนนี้ และเขาก็ควรที่จะได้รู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างชายคนนั้นกับเซิ่งอันหรานว่าเป็นอย่างไรกันแน่
——
"ตอนนี้รอดูการระบายอากาศก่อน หากว่าการระบายอากาศของที่นี่ดี บวกกับมีการซื้อเครื่องใช้สำหรับสำนักงานมือสองตามความต้องการของคุณ ดังนั้นจึงใช้เวลาไม่นานก็น่าจะใช้การได้"
หัวหน้าทีมตกแต่งมาต้อนรับและคุยงานกับเซิ่งอันหรานเป็นการส่วนตัว เซิ่งอันหราน จ่ายค่าจ้างส่วนที่เหลือหลังจากเสร็จสิ้นการตรวจสอบ เมื่อมองไปที่อาคารสองชั้นที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ เธอก็รู้สึกตื่นเต้นมาก
การออกแบบสไตล์นี้อิงตามสไตล์อินดัสเทรียลที่ถานซูจิ้งเคยกล่าวถึงก่อนหน้านี้ ผนังทั้งหมดเป็นสีเทาสโมกกี้กันคราบและทนทาน ชั้นแรกเป็นสำนักงานธุรการ และชั้นสองเป็นเวิร์กช็อปของนักออกแบบและห้องตัวอย่างเสื้อผ้า
แม้ว่าสถานที่จะดูไม่ใหญ่มากนัก แต่ก็ถือว่าเป็นการสร้างด้วยตัวเองและถานซูจิ้ง
เมื่อนึกถึงซูจิ้งขึ้นมา เซิ่งอันหรานก็อดไม่ได้ที่จะไม่โทรหาเธอ และเป็นไปตามที่คาดไว้ เกาจ้านเป็นคนรับสาย
“สองสามวันมานี้ ซูจิ้งเป็นอย่างไรบ้าง ?”
“เธอพอจะจำอะไรได้บ้างแล้ว สุขภาพจิตก็ดีขึ้นมาก มีเพียงแค่รู้สึกเพลียๆเท่านั้น เมื่อวานเธอจ้องมองที่หน้าต่างเป็นเวลานาน ผมกลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้น จึงให้คนติดตั้งหน้าต่างกันขโมยแล้ว"
ที่คอนโดของเกาจ้านอาศัยอยู่ที่ชั้นสามสิบเอ็ด การติดตั้งหน้าต่างกันขโมยบนชั้นที่สูงขนาดนั้น อาจทำให้ผู้ติดตั้งรู้สึกหวาดเสียวมากๆก็ได้ ถ้าจะมีขโมยก็คงเป็นได้แค่ สไปเดอร์แมน เท่านั้นแหละ
"ลำบากคุณแล้ว "
เซิ่งอันหรานพูดอย่างจำใจ “หากว่าไม่ไหวจริงๆล่ะก็ ฉันยังแนะนำให้คุณส่งเธอไปที่โรงพยาบาล ก่อนหน้านี้ซูจิ้งบอกฉันว่า การรักษาในโรงพยาบาลจะเป็นประโยชน์ต่อการฟื้นตัวของเธอได้มากกว่า”
“ไม่เป็นไร ผมดูแลเธอได้ ”
น้ำเสียงของเกาจ้านดูแน่วแน่มาก เขาน่าจะตัดสินใจไปแล้ว และปฏิเสธที่จะอนุญาตให้เธอเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล
เซิ่งอันหรานก็ไม่กล้าที่จะพูดอะไรมาก มีคนอยู่ดูแลเธอมันก็ดีกว่าไม่มีใครดูแล ยิ่งไปกว่านั้น เธอเคยได้เห็นสถานการณ์ในโรงพยาบาลจิตเวชด้วย มันดูซับซ้อนมากจริงๆ ขนาดเธอเป็นคนปกติ พอเธอเดินเข้าไปแล้วยังรู้สึกอึดอัดจนแทบจะเป็นบ้าไปเลย ถ้าเป็นซูจิ้งยิ่งไม่ต้องพูดถึง ตอนนี้มันเป็นช่วงเวลาที่เธออ่อนไหวที่สุด
“วันนี้เธอนอนน้อยกว่าเมื่อวานมาก หากคุณมีเวลาว่างล่ะก็ คุณสามารถมาเยี่ยมเธอได้เสมอ ที่นี่ยินดีต้อนรับคุณทุกเมื่อ”
“ต้องไปแน่นอน การปรับปรุงบริษัททางนี้ก็เกือบจะเสร็จแล้ว เดิมทีฉันต้องการอยากจะพูดคุยแบ่งปันข่าวนี้กับซูจิ้ง ไม่เป็นไร รอให้งานทางนี้เสร็จเรียบร้อยดีเมื่อไหร่ ฉันจะรีบไปเยี่ยมเธอเอง”
“อืม ”
หลังจากทักทายไม่กี่คำ สายโทรศัพท์ก็ถูกวางไป
เซิ่งอันหรานไม่อยากคุยอะไรกับเกาจ้านมากเกินไป เพราะถ้าถานซูจิ้งยังตื่นอยู่ ถานซูจิ้งคงจะไม่มีวันปล่อยให้เกาจ้านมองเห็นเธอในลักษณะแบบนี้แน่ แต่ในตอนนี้ตัวเธอไม่ได้อยู่เคียงข้างถานซูจิ้ง เธอมักจะรู้สึกเสมอว่า การที่เธอทำแบบนี้เหมือนเป็นการดึงเกาจ้านเข้ายุ่งเกี่ยวในเรื่องนี้ด้วย
อีกด้านของโทรศัพท์ เกาจ้านวางโทรศัพท์ลงและหันกลับมามองทางห้องนอน
ม่านถูกปิด แสงไฟสลัว ถานซูจิ้งหลับไปแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน