เซิ่งอันหรานลูบศีรษะของลูกสาว พูดปลอบโยน
“ซิงซิงน้อย ลูกอดทนอีกหน่อยนะ อีกสิบวันศาลพิจารณาคดีสิ้นสุดลงแล้ว หม่าม้าจะพาลูกกลับอเมริกา ถึงตอนนั้นลูกอยากจะไปไหนก็ได้”
เซิ่งเสี่ยวซิงชะงักไป
หม่าม้าถึงยังไงก็ต้องพาเธอกลับอเมริกา?หลังจากนี้ไม่สามารถเจอพี่ชายกับป่าป๊าแล้ว?
นี้ไม่ได้!
เช้าตรู่วันต่อมา
ยามของคฤหาสน์นั่งหาวอยู่ในป้อมยาวและจ้องมองในกล้องวงจรปิด จู่ๆก็มองเห็นร่างเล็กใส่หมวกสีส้มกำลังเขย่งเท้าจับประตูป้อมยอม
เขาหันหน้ากลับไปถือโอกาสเปิดประตู ร่างเล็กใส่หมวกสีส้มยังไม่ได้จับเอาไว้ ร่างเล็กก็โซซัดโซเซล้มเข้ามา โชคดีที่เขามือไวตาไว ประคอง
เด็กผู้หญิงไว้ได้
“ไม่เป็นไรใช่ไหม?”
“หนูไม่เป็นไร ขอบคุณค่ะคุณลุง”เซิ่งเสี่ยวซิงสวมชุดอนุบาลสีส้มแดง สะพายกระเป๋า สวมหมวกที่มีสีเดียวกัน ยังมีถั่วงอกสีเขียนอยู่บนหมวก มองยามด้วยดวงตาคู่โตที่สดใส
“คุณลุง หนูจะเข้าเรียนสายแล้ว คุณช่วยหนูเปิดประตูหน่อยค่ะ”
ยามมองเด็กผู้หญิงยิ้มตาหยี ในใจคิดว่าพ่อแม่หน้าตาดีแค่ไหนจึงสามารถให้กำเนิดเด็กที่น่ารักขนาดนี้ ก็พยักหน้า
“อ๋อ ได้ ลุงช่วยเปิดประตูให้หนู”
เซิ่งเสี่ยวซิงในใจดีใจ ไม่คิดว่าจะง่ายขนาดนี้
ยามหันกลับมามองหาปุ่มการทำงานบนคอมพิวเตอร์ กำลังจะกด จู่ๆก็ขมวดคิ้ว หันหน้ากลับไปถาม“หนูตัวเองไปโรงเรียนคนเดียวเหรอ?ตัวเล็กแค่นี้ พ่อแม่หนูก็วางใจแล้ว?”
เซิ่งเสี่ยวซิงพูดอย่างใจเย็น
“คุณลุง พ่อแม่หนูทำงานยุ่งมาก ดังนั้นหนูไปโรงเรียนคนเดียวได้ คุณลุงก็ไม่ใช่ไม่มีเวลาไปส่งลูกสาวของตัวเองเข้าเรียนไหม พวกเราโตแล้ว ต้องเรียนรู้ที่จะดูแลตัวเอง”
ได้ฟัง ยามก็พยักหน้าอย่างครุ่นคิด ก็ใช่ ตัวเองทำงานเป็นยามในคฤหาสน์นี้ จากต้นปีจนถึงปลายปีนอกจากลาพักร้อน กินฟรีอยู่ฟรี ได้พบกับภรรยากับลูกสาวก็เป็นช่วงลาพักร้อน
“รู้จักคิดจริงๆ”
ยามยิ้มตาหยีพูดชมเธอ หลังจากนั้นก็กดปุ่มเปิดประตู ส่งเซิ่งเสี่ยวซิงที่ป้ายรถเมล์ด้วยตัวเอง“ระวังความปลอดภัยด้วย”
“ล่าก่อนคุณลุง”
ยามพยักหน้า กลับมาที่ป้อมยามด้วยความพอใจ พอดีกับที่ยามกะต่อไปเข้ามาเปลี่ยน
“เมื่อกี้นายเปิดประตูออกไปทำไม ทำไมถึงเห็นนายกับเด็กผู้หญิงกำลังพูดคุยกัน?”
“อ้อ น่าจะเป็นลูกของเพื่อนร่วมงานในคฤหาสน์ ตอนเช้าจะไปโรงเรียนฉันช่วยเธอเปิดประตู ฉันไม่วางใจ ก็ไปส่งเธอที่ป้ายรถเมล์ เด็กผู้หญิงดูเหมือนอายุห้าหกปี รู้จักคิดมาก”
“ใช่เหรอ?ทำไมฉันไม่รู้ว่ามีเพื่อนร่วมงานพาลูกมาพักอยู่?”ยามที่มาเปลี่ยนกะเกาหัวด้วยความสงสัย“พวกเรามีเงินเดือนและสวัสดิการที่สามารถพาเด็กมาอยู่ได้?”
“ทำไมจะไม่มี ก็เป็นพวกเราไม่สามารถเฝ้าประตูได้ ฉันคิดว่าครอบครัวของพ่อบ้านก็คงพักอยู่ในคฤหาสน์นี้ไหม?”
“ก็ใช่”
“……”
มีหมอกหนาในช่วงเช้าตรู่ รถเมล์ขับช้ามาก เซิ่งเสี่ยวซิงกะพริบตาจ้องมองด้านนอก หลังจากที่มาถึง เห็นป้ายโรงเรียนอนุบาล ก็สูดหายใจเข้าลึกๆ เดินเข้าไป
เพียงแค่หาพี่จิ่งซีพบก็สามารถถามชัดเจนว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น หม่าม้ากับป่าป๊าจริงๆก็คือต่างฝ่ายต่างชอบกัน ต้องเข้าใจผิดอะไรกันแน่นอน ดังนั้นจึงทะเลาะกัน
ยังไม่ถึงเวลาที่ประตูโรงเรียนเปิด ประตูโรงเรียนยังปิดแน่น ถึงแม้ว่าเซิ่งเสี่ยวซิงยังเล็ก แต่ก็ยังรู้จักป้องกันตัวจากคนเลว ดังนั้นเดินตรงไปที่ร้านสะดวกซื้อตรงข้ามโรงเรียนและนั่งรอข้างใน
ใกล้จะเก้าโมงแล้ว รถคันสีดำกับป้ายทะเบียนที่คุ้นเคยจอดหน้าประตูร้านสะดวกซื้อ
เซิ่งเสี่ยวซิงรีบกลืนซาลาเปาในปากลงไป จับกระเป๋าวิ่งออกไป
พ่อบ้านเหล่าโจวเพิ่งจะข้ามถนน ทางม้าลายคือไฟแดง เซิ่งเสี่ยวซิงตะโกนเรียกฝ่ายตรงข้ามหลายครั้ง เสียงก็จมอยู่ในเสียงการจราจร
เธอมองดูร่างของพ่อบ้านเหล่าโจวเดินเข้าไปในโรงเรียน ชะงักไปเล็กน้อย
พี่จิ่งซีไม่มาเหรอ?
——
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน