ผูกรักท่านประธานพันล้าน นิยาย บท 63

เซิ่งอันหรานแข็งทื่ออยู่กับที่ทันที พักใหญ่ก็ยังไม่ได้สติกลับมา

"ฉัน ฉันไปดูซิงซิงน้อย"

ในสายตาอวี้หนานเฉิงสะท้อนภาพด้านหลังเธอที่รีบร้อนขึ้นชั้นบน นิ้วมือเรียวยาวลูบหยกแกะสลักปี่เซียะ สีหน้าที่เย็นชาแต่เดิมค่อยๆ ประกายความพึงพอใจหลังจากการหยอกเย้าเล็กน้อย

ไม่สนใจเหรอ? ดูแล้วไม่เห็นเหมือน

ท่าอากาศยานนานาชาติเซี่ยงไฮ้

"เครื่องฉันแลนดิ้งแล้ว รอสัมภาระอยู่"ถานซูจิ้งกอดอกจามไปหนึ่งที "ฮัดชิ่ว......"

หลังขยี้จมูก แชตตอบกลับวีแชตต่อ

"พอแล้วฉันไม่คุยกับเธอแล้ว ฉันเห็นกระเป๋าเดินทางแล้ว"

บนสายพานสัมภาระมีกระเป๋าเดินทางสีแดงใบหนึ่งค่อยๆ ส่งออกมา ถานซูจิ้งเก็บมือถือ กำลังจะไปหยิบ มือข้างหนึ่งข้ามไหล่เธอ เอากระเป๋าเดินทางใบนั้นออกมาอย่างง่ายดาย

"ไม่ต้องเกรงใจ"

ไม่รอให้เธอกล่าวขอบคุณ ข้างหูก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยและเกลียดหนึ่งขึ้น

‘ขอบคุณ’ที่ติดอยู่ที่ปากของถานซูจิ้ง ก็ถูกกลืนลงไป พ่นลมหายใจออกมา เงยหน้าจ้องผู้ชายตรงหน้า พูดอย่างไม่สบอารมณ์

"ฉันให้คุณช่วยเหรอ? ทำไมคุณตามติดไม่เลิก?"

เกาจ้านไม่สะทกสะท้าน เหมือนชินกับนิสัยที่ปากเสียโมโหร้ายแล้ว "ข้างนอกฝนกำลังตก มีคนมารับคุณไหม? หากไม่มีล่ะก็ นั่งรถผมได้"

"ไม่จำเป็น"

ถานซูจิ้งเหล่มองเขา ดึงหูกระเป๋าเดินทางขึ้น หมุนตัวจากไปอย่างเก๋ๆ

เกาจ้านกลับยอมรับคำพูดเธอที่ว่าตามติดไม่เลิกนั้น ปรากฏว่าตามหลังไป

"คุณถาน ถ้าหากคุณเข้าใจอะไรผมผิดล่ะก็ ผมรู้สึกว่าต้องอธิบายให้ชัดเจน คุณรู้ไหม เพราะเรื่องที่สนามบินก่อนหน้านี้ ผมเจอเรื่องยุ่งยากมากแค่ไหน?"

ถานซูจิ้งทำหูทวนลม ตลอดทางโทรศัพท์ไปพลาง ลากกระเป๋าเดินทางไปลานจอดรถไปพลาง

"นี่ คุณได้ยินผมพูดไหม?"

เกาจ้านก้าวเท้ายาวขวางหน้าเธอ ยื่นมือถือไปตรงหน้าเธอ

"คุณดู"

"คุณเซ็งไม่เซ็ง?"

ถานซูจิ้งโบกมือ มือถือทั้งสองคนเหมือนร่วงพื้นพร้อมกัน

"เรื่องของคุณฉันไม่มีความสนใจเลย เรื่องก่อนหน้านี้ไม่สนว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิดหรือไม่ มันก็จบไปแล้ว เห็นแก่หน้า

อวี้หนานเฉิงกับอันหราน ฉันไม่เถียงกับคุณแล้ว แต่ตอนนี้ รบกวนคุณอย่าขวางทางฉัน"

พูดจบ ถานซูจิ้งเก็บมือถือ รีบเดินไปหาคนโบกมือเรียกที่มารับที่สนามบินที่อยู่ไกลๆ

เกาจ้านมองด้านหลังเธอ ขมวดคิ้วอย่างหมดคำพูด

คนอะไรกันเนี่ย

เก็บมือถือที่ร่วงพื้นอย่างหดหู่ กดลายนิ้วมือปลดล็อก มือถือสั่นสองครั้ง แสดงว่ารหัสผิดพลาดให้กรอกใหม่

"เอ๊ะ?"เกาจ้านอุทานออกมา จ้องมือถือหน้าจอที่มีกระบองเพชรสีเขียวขนาดใหญ่ หน้าก็เปลี่ยนสีไป

นี่ไม่ใช่มือถือของเขา

อีกด้านหนึ่ง ถานซูจิ้งกำลังอยู่หน้าฟร้อนทำเรื่องเช็กอิน มือถือในกระเป๋าสั่นขึ้น

เธอไม่มองจอ กดรับสายตามความเคยชิน

"ในที่สุดคุณก็รับสายฉันแล้ว!"

เสียงแหลมของผู้หญิงทะลุเข้ามาในหู ถานซูจิ้งตกใจรีบเอามือถือห่างจากหูออกไปไกลเล็กน้อย

"ฉันจะพูดกับคุณอีกหนึ่งครั้ง ครั้งสุดท้าย หากคุณไม่แต่งงานกับฉัน ไม่เพียงแค่คดีความในศาล ฉันยังจะเอาวิดีโอโพสต์อินเทอร์เน็ต ให้ทุกคนต่างคิดว่าคุณเป็นคนข่มขืน ไร้ยางอาย ถึงเวลานั้นชื่อเสียงของคุณเน่าเหม็นหมดอย่ามาร้องไห้ขอร้องฉัน"

"คุณเป็นใคร? โทรผิดแล้วมั้ง?"ถานซูจิ้งขมวดคิ้ว

"ฉันเป็นใคร? เธอเป็นใคร? เกาจ้านล่ะ? เธอคือนังแรดนั่น? ให้เกาจ้านมารับสาย"

เกาจ้าน?

ถานซูจิ้งขมวดคิ้วมองหน้าจอแวบหนึ่ง——อยากจะหนี

สีหน้าเธอเปลี่ยนไปทันที

"มือถือ"

ในหัวย้อนคิดไปถึงที่ลานจอดรถเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนได้ในทันที มือถือเธอกับเกาจ้านร่วงพื้นเวลาเดียวกัน ไม่มั้ง? เรื่องเข้าใจผิดอย่างนี้?

——

เซิ่งอันหรานอาบน้ำเสร็จ ตอนออกมาเซิ่งเสี่ยวซิงก็หลับไปแล้ว นอนกางแขนกางขายึดพื้นที่กลางเตียง ท่านอนอิสระสุดๆ

เธอส่ายหน้าอย่างจนใจ ดันเธอไปข้างหนึ่ง "ลูกรัก ลูกคิดจะให้หม่าม้านอนพื้นหรือไง?"

เซิ่งเสี่ยวซิงพลิกตัว นอนหลับสนิท เพียงแต่ในปากจู่ๆ กับพึมพำเสียงอู้อี้อะไรอยู่

"ป่าป๊า……"

เซิ่งอันหรานที่คลุมผ้าห่มให้เธอหยุดการกระทำลง นิ้วมืออดไม่ได้ที่จะกำแน่น

เด็กคนนี้ ในใจต้องการป่าป๊าจากใจจริง

ดังนั้นถึงพยายามเป็นสื่อให้เธอกับอวี้หนานเฉิงขนาดนี้ ในใจคงหวังเหมือนเด็กคนอื่น มีครอบครัวที่อบอุ่นมั้ง

ตัวเองกับอวี้หนานเฉิง?

จู่ๆ ในหัวเซิ่งอันหรานก็ฉายภาพทั้งสองเคียงข้างกัน มีแค่ชั่วพริบตา เธอส่ายหน้าแรงๆ

เป็นไปได้ยังไง? ตัวเองกับอวี้หนานเฉิงจะคบกันได้ยังไง?

แต่ภาพกลับไหล่เข้ามาเหมือนสายน้ำ ง่วงนอนจะตายแท้ๆ กลับคอแห้งจนนอนไม่หลับ

ภายใต้ความจำใจ เธอทำได้เพียงลงเตียงไปหาน้ำดื่ม

ในบ้านไม่ได้เปิดไฟ เพื่อไม่รบกวนคนใช้ตื่น เซิ่งอันหรานคลำทางลงชั้นล่าง ในห้องรับแขกลูบเจอโต๊ะอาหาร เธอจำได้บนโต๊ะอาหารมีกาน้ำ หลังเทน้ำ ก็หยิบบิสกิตหลายห่อบนโต๊ะติดมือมา

มื้อเย็นอาหารเต็มโต๊ะก็จริง แต่ตอนนั้นเธอเหมือนนั่งอยู่ในกองไฟ กินลงไปไม่เท่าไหร่จริงๆ ตอนนี้หิวจนหน้าอกติดหลังแล้ว

ตอนหมุนตัว กลับมีเงาดำหนึ่งขวางไว้

"พระเจ้าช่วย"

เธออุทานออกมาด้วยความตกใจ นั่งลงไปบนเก้าอี้ด้านหลัง แก้วน้ำในมือ หกไปเกือบครึ่ง

"ผมเอง"ในความมืดมิด ตรงหน้ามีเสียงของ อวี้หนานเฉิง เขาเอื้อมมือไปเปิดไฟในห้องครัว

"ทำฉันตกใจหมด"เซิ่งอันหรานจับหน้าอกอ้าปากพะงาบๆ จ้องเข้าอย่างอารมณ์เสีย

"คุณเดินออกเสียงไม่เป็นรึไง?"

อวี้หนานเฉิงมองสำรวจเธอเงียบๆ

เธอถึงเพิ่งคิดได้ นี่เป็นบ้านคนอื่น ตัวเองกร่างแบบนี้ เหมือนไม่ค่อยถูกนัก ที่สำคัญไปกว่านั้นคือ ตอนนี้เธอเหมือนขโมยอย่างนั้น ในอ้อมกอดยังมีบิสกิตหลายห่อ ถุงห่อบิสกิตในอ้อมกอดเธอส่งเสียงกรอบแกรบ มีสองอันที่ไม่เชื่อฟัง ร่วงลงพื้นตกข้างเท้า

อวี้หนานเฉิงพอดี

"คือว่า……"เธอแก้ตัว "ฉันกลัวกลางดึกซิงซิงน้อยจะหิว หยิบขึ้นไปเตรียมไว้ คุณไม่ถือนะ"

สายตาอวี้หนานเฉิงเข้มขึ้น

แค่บิสกิตไม่กี่ห่อเท่านั้น ในสายตาเธอ ตัวเองเป็นคนงกขนาดนั้นเลย?

บรรยากาศอึดอัดขึ้นเล็กน้อย เซิ่งอันหรานอดไม่ได้ไอแห้งๆ ออกมา "ฉันขึ้นไปก่อนแล้ว"

เดินไม่ถึงสองก้าว เสียงอวี้หนานเฉิงดังมาจากข้างหลัง "ผมก็หิวเหมือนกัน"

เสียงเขาไม่ดังมาก เซิ่งอันหรานนิ่งไปนึกว่าตัวเองหูฝาด หันหลังกลับไปมองเขา "คุณว่าอะไรนะ?"

"มีของกินไหม?"

ยืนยันว่าไม่ได้ฟังผิด แต่เซิ่งอันหรานยังแปลกใจเล็กน้อย

ปรากฏว่าลงมาหาอาหารเหมือนกันเหรอ? จำได้ตอนมื้อเย็น อวี้หนานเฉิงกินเข้าไปไม่น้อย

แต่สงสัยส่วนสงสัย ในเมื่ออวี้หนานเฉิงเอ่ยปาก ก็แก้ไขเรื่องน่าอายที่เธอลงมาหาอาหารพอดี เลยตามน้ำไปทำมื้อดึก ตัวเองก็เติมท้องให้อิ่ม

"มี จ๋าเจี้ยงเมี่ยนกินไหม? ในตู้เย็นน่าจะมีวัตถุดิบ"

อวี้หนานเฉิงพยักหน้า ลากเก้าอี้ออกมานั่ง

เซิ่งอันหรานวางบิสกิตที่เต็มอ้อมกอด ดึงแขนเสื้อเข้าไปห้องครัวเพียงไม่นานก็มีเสียงหั่นฉึบฉับขึ้น

ทางห้องคนใช้มีคนใช้ได้ยินเสียงก็ออกมา อวี้หนานเฉิงกวาดสายตาไป แสดงให้เห็นถึงการเตือน คนใช้ที่ออกมารีบปิดหูปิดตากลับไป

#วันนี้จะลงเพิ่มอีกค่า โปรดรอหน่อย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน