“เอ่อใช่ พวกคุณคงจะแนะนำและรู้จักกันแล้วใช่ไหม?” เซิ่งอันหรานมองไปที่อวี้หนานเฉิงและเส้าซือ "ต้องให้ฉันช่วยแนะนำอีกครั้งไหม?"
“ไม่ต้อง”
อวี้หนานเฉิงเหลือบมองเส้าซือด้วยสายตาที่ซับซ้อน และพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแปลก ๆ “ แฟนในอนาคตของคุณ เขาแนะนำตัวเองแล้ว” "
เซิ่งอันหรานชะงักไปชั่วครู่ จากนั้นก็หันกลับมาและจ้องไปที่เส้าซือ "นายพูดอะไรไร้สาระอีกแล้วเหรอ?"
เส้าซือขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด และพูดพึมพำขึ้นเบาๆว่า
“อะไรเรียกว่าพูดไร้สาระกันล่ะ?”
“นี่คือน้องชายของฉัน”เซิ่งอันหรานอธิบายกับอวี้หนานเฉิง“เขาเป็นนักไวโอลิน แต่ตอนนี้เขาไม่มีงานและเที่ยวเล่นไปวันๆ”
“อ๋อ ฉะนั้นตอนนี้เขาจึงต้องอาศัยเธอเป็นคนเลี้ยง”
อวี้หนานเฉิงเหลือบมองไปที่เส้าซือ ด้วยท่าทางดูถูกเบาๆ
“ใครจะให้อันหรานเลี้ยงล่ะ? ก็แค่มาพักชั่วคราว และอีกไม่นานฉันก็จะเซ็นสัญญากับบริษัทใหม่เร็วๆ นี้” เส้าซือมองกลับไปด้วยท่าทางหงุดหงิดเล็กน้อย
“ฉันก็หวังว่ามันจะเป็นอย่างนั้นเช่นกัน”เซิ่งอันหรานเหลือบมองไปที่เส้าซืออย่างจำใจ
“ฉันจะไปเตรียมอาหารในครัวก่อน พวกคุณคุยกันไปก่อนนะ”
เส้าซือกำลังจะอธิบายร่ายยาวเกี่ยวกับข้อเท็จจริงถึงแหล่งรายได้ของเขา ว่าเขายังคงมีรายได้อยู่ แต่ทว่าอวี้หนานเฉิงกลับไม่สนใจและยื่นมือออกไปหยิบของที่เซิ่งอันหรานเพิ่งซื้อกลับมา แล้วชิงเดินเข้าครัวไปก่อน
“คุณกำลังจะทำอะไร”เซิ่งอันหรานเดินตามเขามาติดๆ
"ผมจะช่วยคุณ"
ทั้งสองเดินตามกันเข้าไปในครัว ส่วนเส้าซือได้แต่ยืนชะงักอยู่กับที่กว่าจะรู้สึกตัวก็ผ่านไปสักพัก เขาขมวดคิ้วและรีบเดินตามทั้งสองเข้าไปในครัว“ฉันจะช่วยด้วย”
“ห้องครัวก็มีพื้นที่แค่นี้ นายอย่าเข้ามาสร้างปัญหาเลย ไปหาเสี่ยวซิงซิงเถอะ”
เมื่อเซิ่งอันหรานพูดจบ เธอก็ยื่นมือออกไปเลื่อนปิดประตูกระจก
เส้าซือรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย "อย่าทำเหมือนกับว่าฉันเด็ก อย่างงี้สิ
หลังจากยืนเคาะประตูอยู่นาน เซิ่งอันหรานก็เดินมาเปิดประตูและยัดถุงถั่วงอกใส่ไว้ในอ้อมแขนของเขา "ได้สิ งั้นผู้ใหญ่อย่างนาย ก็ช่วยฉันเด็ดถั่วงอกหน่อยแล้วกัน"
เมื่อพูดจบเธอก็ปิดประตูใส่เขาอีกครั้ง
"เฮ้?"
เส้าซือมองดูถั่วงอกบรรจุอยู่เต็มถุง คราวนี้เขาแทบร้องไม่ออก
ที่เขาบอกว่าเขาผู้ใหญ่ก็เพื่อต้องการให้เธอปฏิบัติต่อตัวเขาเองในฐานะผู้ใหญ่ทางอารมณ์ต่างหาก เพราะเธอมักจะปฏิบัติต่อเขาเหมือนเป็นน้องชายของเธอเสมอๆ นี่คงจะจงใจทำให้เขาเป็นเหมือนตัวตลกอย่างนั้นสินะ?ยิ่งอยู่ต่อหน้าชายคนนั้นด้วยแล้ว
อวี้หนานเฉิงกำลังล้างมะเขือเทศ เมื่อเขาเหลือบไปเห็นเซิ่งอันหรานปิดประตูกันไม่ให้เส้าซือเข้ามา เขาก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ความหงุดหงิดใจที่เจอเด็กคนนี้ก่อนหน้านี้หายไปในทันที
อารมณ์แปรปรวนเช่นนี้ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจ
“ให้ฉันล้างเองเถอะ คุณเป็นแขก ออกไปพักผ่อนเถอะ”
เซิ่งอันหรานรู้สึกแปลกๆและเกรงใจเล็กน้อยที่เห็นว่าอวี้หนานเฉิงลงมือทำมันด้วยตัวเอง
อวี้หนานเฉิงวางมะเขือเทศสองลูกที่ล้างสะอาดแล้วไว้บนเขียง จากนั้นก็พูดขึ้นอย่างไม่เร่งรีบว่า “ไม่ต้องหรอก อยู่ว่างๆมันน่าเบื่อ”
"งั้น..ก็ได้"
เซิ่งอันหรานไม่กล้าพูดอะไรมาก
หลังจากที่ล้างทำความสะอาดผักต่างๆเสร็จแล้ว อวี้หนานเฉิงก็ยังคงยืนอยู่ในครัวไม่ไปไหน ซึ่งมันทำให้เซิ่งอันหรานรู้สึกแปลกๆ “คุณไม่ออกไปข้างนอกเหรอ?ฉันจะทำอาหาร และกลิ่นน้ำมันผัดอาหารมันค่อนข้างแรง ”
“คุณไม่ได้บอกว่าจะสอนผมทำอาหารเหรอ?”
“หา? ตอนนี้?”
เซิ่งอันหรานชะงัก ก่อนหน้านี้เธอเคยบอกเขาไปว่าเธอจะช่วยสอนทำอาหารให้เขา แต่เขาก็ดูเหมือนไม่ได้สนใจ แต่ทำไมคราวนี้เขาถึงได้เสนอตัวอยากจะเรียนขึ้นมาซะดื้อๆล่ะ?
"อือ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน