ผูกรักท่านประธานพันล้าน นิยาย บท 67

“เอ่อใช่ พวกคุณคงจะแนะนำและรู้จักกันแล้วใช่ไหม?” เซิ่งอันหรานมองไปที่อวี้หนานเฉิงและเส้าซือ "ต้องให้ฉันช่วยแนะนำอีกครั้งไหม?"

“ไม่ต้อง”

อวี้หนานเฉิงเหลือบมองเส้าซือด้วยสายตาที่ซับซ้อน และพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแปลก ๆ “ แฟนในอนาคตของคุณ เขาแนะนำตัวเองแล้ว” "

เซิ่งอันหรานชะงักไปชั่วครู่ จากนั้นก็หันกลับมาและจ้องไปที่เส้าซือ "นายพูดอะไรไร้สาระอีกแล้วเหรอ?"

เส้าซือขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด และพูดพึมพำขึ้นเบาๆว่า

“อะไรเรียกว่าพูดไร้สาระกันล่ะ?”

“นี่คือน้องชายของฉัน”เซิ่งอันหรานอธิบายกับอวี้หนานเฉิง“เขาเป็นนักไวโอลิน แต่ตอนนี้เขาไม่มีงานและเที่ยวเล่นไปวันๆ”

“อ๋อ ฉะนั้นตอนนี้เขาจึงต้องอาศัยเธอเป็นคนเลี้ยง”

อวี้หนานเฉิงเหลือบมองไปที่เส้าซือ ด้วยท่าทางดูถูกเบาๆ

“ใครจะให้อันหรานเลี้ยงล่ะ? ก็แค่มาพักชั่วคราว และอีกไม่นานฉันก็จะเซ็นสัญญากับบริษัทใหม่เร็วๆ นี้” เส้าซือมองกลับไปด้วยท่าทางหงุดหงิดเล็กน้อย

“ฉันก็หวังว่ามันจะเป็นอย่างนั้นเช่นกัน”เซิ่งอันหรานเหลือบมองไปที่เส้าซืออย่างจำใจ

“ฉันจะไปเตรียมอาหารในครัวก่อน พวกคุณคุยกันไปก่อนนะ”

เส้าซือกำลังจะอธิบายร่ายยาวเกี่ยวกับข้อเท็จจริงถึงแหล่งรายได้ของเขา ว่าเขายังคงมีรายได้อยู่ แต่ทว่าอวี้หนานเฉิงกลับไม่สนใจและยื่นมือออกไปหยิบของที่เซิ่งอันหรานเพิ่งซื้อกลับมา แล้วชิงเดินเข้าครัวไปก่อน

“คุณกำลังจะทำอะไร”เซิ่งอันหรานเดินตามเขามาติดๆ

"ผมจะช่วยคุณ"

ทั้งสองเดินตามกันเข้าไปในครัว ส่วนเส้าซือได้แต่ยืนชะงักอยู่กับที่กว่าจะรู้สึกตัวก็ผ่านไปสักพัก เขาขมวดคิ้วและรีบเดินตามทั้งสองเข้าไปในครัว“ฉันจะช่วยด้วย”

“ห้องครัวก็มีพื้นที่แค่นี้ นายอย่าเข้ามาสร้างปัญหาเลย ไปหาเสี่ยวซิงซิงเถอะ”

เมื่อเซิ่งอันหรานพูดจบ เธอก็ยื่นมือออกไปเลื่อนปิดประตูกระจก

เส้าซือรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย "อย่าทำเหมือนกับว่าฉันเด็ก อย่างงี้สิ

หลังจากยืนเคาะประตูอยู่นาน เซิ่งอันหรานก็เดินมาเปิดประตูและยัดถุงถั่วงอกใส่ไว้ในอ้อมแขนของเขา "ได้สิ งั้นผู้ใหญ่อย่างนาย ก็ช่วยฉันเด็ดถั่วงอกหน่อยแล้วกัน"

เมื่อพูดจบเธอก็ปิดประตูใส่เขาอีกครั้ง

"เฮ้?"

เส้าซือมองดูถั่วงอกบรรจุอยู่เต็มถุง คราวนี้เขาแทบร้องไม่ออก

ที่เขาบอกว่าเขาผู้ใหญ่ก็เพื่อต้องการให้เธอปฏิบัติต่อตัวเขาเองในฐานะผู้ใหญ่ทางอารมณ์ต่างหาก เพราะเธอมักจะปฏิบัติต่อเขาเหมือนเป็นน้องชายของเธอเสมอๆ นี่คงจะจงใจทำให้เขาเป็นเหมือนตัวตลกอย่างนั้นสินะ?ยิ่งอยู่ต่อหน้าชายคนนั้นด้วยแล้ว

อวี้หนานเฉิงกำลังล้างมะเขือเทศ เมื่อเขาเหลือบไปเห็นเซิ่งอันหรานปิดประตูกันไม่ให้เส้าซือเข้ามา เขาก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ความหงุดหงิดใจที่เจอเด็กคนนี้ก่อนหน้านี้หายไปในทันที

อารมณ์แปรปรวนเช่นนี้ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจ

“ให้ฉันล้างเองเถอะ คุณเป็นแขก ออกไปพักผ่อนเถอะ”

เซิ่งอันหรานรู้สึกแปลกๆและเกรงใจเล็กน้อยที่เห็นว่าอวี้หนานเฉิงลงมือทำมันด้วยตัวเอง

อวี้หนานเฉิงวางมะเขือเทศสองลูกที่ล้างสะอาดแล้วไว้บนเขียง จากนั้นก็พูดขึ้นอย่างไม่เร่งรีบว่า “ไม่ต้องหรอก อยู่ว่างๆมันน่าเบื่อ”

"งั้น..ก็ได้"

เซิ่งอันหรานไม่กล้าพูดอะไรมาก

หลังจากที่ล้างทำความสะอาดผักต่างๆเสร็จแล้ว อวี้หนานเฉิงก็ยังคงยืนอยู่ในครัวไม่ไปไหน ซึ่งมันทำให้เซิ่งอันหรานรู้สึกแปลกๆ “คุณไม่ออกไปข้างนอกเหรอ?ฉันจะทำอาหาร และกลิ่นน้ำมันผัดอาหารมันค่อนข้างแรง ”

“คุณไม่ได้บอกว่าจะสอนผมทำอาหารเหรอ?”

“หา? ตอนนี้?”

เซิ่งอันหรานชะงัก ก่อนหน้านี้เธอเคยบอกเขาไปว่าเธอจะช่วยสอนทำอาหารให้เขา แต่เขาก็ดูเหมือนไม่ได้สนใจ แต่ทำไมคราวนี้เขาถึงได้เสนอตัวอยากจะเรียนขึ้นมาซะดื้อๆล่ะ?

"อือ"

หลังจากได้รับคำตอบที่แน่ชัด เธอก็ชะงักครู่หนึ่ง “ได้สิ คอยดูฉันทำนะ ”

สิ่งที่ฉันทำในมือของฉันตอนนี้คือปีกไก่ตุ๋นน้ำแดง

เซิ่งอันหรานหยิบกล่องแก้วที่มีปีกไก่หมักขึ้นมาให้อวี้หนานเฉิงดู

“คุณอาจไม่เคยเห็นปีกไก่หมักมาก่อน ฉันจะอธิบายให้คุณฟังนะ แค่เฉือนปีกไก่สามครั้ง ใส่ซีอิ๊วขาว เหล้าจีน ซีอิ๊วดำ ขิงสไลด์ และเติมแป้งลงไปเล็กน้อย จากนั้นก็เอาไปเข้าตู้เย็น หมักไว้สักชั่วโมง ก็ประมาณนี้"

"อืม"

“จากนั้นก็ใส่น้ำมันลงในไปหม้อ พอน้ำมันร้อนแล้ว ใส่ต้นหอมสับ ขิง และกระเทียมลงไปผัดให้หอม…”

เมื่อพูดจบ เซิ่งอันหรานก็เทส่วนผสมทั้งสามลงไป ฉ่า เสียงน้ำมันที่ร้อนจัดส่งเสียงออกมาอย่างร้อนแรง เธอถอยหลังสองก้าวโดยไม่รู้ตัว เซิ่งอันหรานไม่ทันได้ระวัง ทำให้เธอถอยไปชนเข้ากับหน้าอกอันแข็งแรงและบึกบึนของอวี้หนานเฉิง

"ขอโทษค่ะ"

เธอรีบหันกลับไปอย่างรวดเร็ว แต่เท้าของเธอลื่น จึงทำให้เธอยืนทรงตัวไม่อยู่

อวี้หนานเฉิงมีสายตาและมือที่ว่องไว เขารีบยื่นมือออกไปคว้าจับเอวเธอ เพื่อพยุงไม่ให้เธอล้มลง ใบหน้าที่เย็นชาของเขาเต็มไปด้วยความกังวล

"ไม่เป็นไรใช่ไหม?"

“ไม่ค่ะ ไม่เป็นไร”เซิ่งอันหรานกลืนน้ำลายอย่างกะทันหัน

จะไม่เป็นไรได้ไง หัวใจแทบจะกระโดดทะลุออกมาจากหน้าอก มือของเขาจับเข้าที่เอว หันกลับไปก็เห็นใบหน้าของเขาเต็มๆ มันใกล้เพียงแค่ปลายมือเท่านั้น และยังได้กลิ่นหอมอ่อนๆของน้ำหอมจากร่างกายของเขาอีก

ปัง เสียงเปิดประตูดังขึ้นมาพร้อมกับเสียงตะโกนของเส้าซือ

"พวกคุณกำลังทำอะไรกันอยู่?"

เซิ่งอันหรานได้สติกลับมาในทันที เธอรีบยื่นมือออกไปผลักอวี้หนานเฉิงอย่างรวดเร็ว แต่ทว่าเท้าของเธอกลับลื่นยิ่งกว่าเดิม ในตอนที่เซิ่งอันหรานยืนเซไปมา อวี้หนานเฉิงก็โน้มตัวและกอดเธอแน่นขึ้น

ตาของเส้าซือร้อนเป็นไฟ เขาตะโกนใส่อวี้หนานเฉิงขึ้นทันที

“นี่ คุณกำลังทำอะไร จับตรงไหนน่ะ? ปล่อยอันหรานเดี๋ยวนี้”

หลังจากที่อวี้หนานเฉิงช่วยพยุงเซิ่งอันหรานให้ยืนอย่างมั่นคงแล้ว เขาก็ค่อยๆปล่อยมือออกจากเอวของเธออย่างไม่รีบไม่ร้อน อวี้หนานเฉิงเหลือบไปมองเส้าซือ "หรือจะให้แสดงฉากเมื่อกี้ให้คุณดูว่าทำไมเราถึงอยู่ในท่านี้"

“คุณ คุณมันพวกฉวยโอกาสดีๆนี่เอง”

“เส้าซือ หุบปากได้แล้ว”เซิ่งอันหรานมองเขาด้วยใบหน้าแดงก่ำ "เมื่อกี้ฉันเกือบจะล้มลงไปแล้ว ไม่ใช่เพราะเสียงร้องตะโกนของนายหรอกเหรอ "

เส้าซือทรุดตัวลง เขายังไม่ยอมแพ้ เขาจ้องไปที่อวี้หนานเฉิง จากนั้นก็พูดขึ้นว่า "ฉันก็อยากเรียนทำอาหารในครัวด้วยเหมือนกัน"

“ไม่เอาน่า นายมีเวลาทำอาหารซะที่ไหนกัน? รอให้นายได้เซ็นสัญญาทำงานเมื่อไหร่ นายก็จะไม่มีเวลามาทำอะไรแบบนี้หรอก”

“ถ้าอย่างนั้นเขามีเวลาอย่างนั้นเหรอ เขาเป็นประธานบริษัทไม่ใช่เหรอ ?ประธานที่ไหนต้องทำอาหารกินเองล่ะ”

สีหน้าของเส้าซือดูไม่เป็นมิตร

ผู้ชายสามารถรู้และเข้าใจความคิดของผู้ชายด้วยกันได้ดีที่สุด ประธานอย่างอวี้หนานเฉิงไม่ไปทำการทำงาน และมักจะมาที่บ้านของพนักงานเพื่อทานอาหาร มันคงไม่ใช่แผนการที่ดีแน่

“เรื่องสอนฉันทำอาหาร อันหรานเป็นคนเสนอก่อนเอง” อวี้หนานเฉิงเหลือบมองเขาเบา ๆ ราวกับว่าชัยชนะครั้งนี้อยู่ในมือของเขา

แต่เมื่อเซิ่งอันหรานได้ยินวลีที่เขาเรียกตัวเองว่า อันหราน เธอรู้สึกตกใจเล็กน้อย

เธอจำไม่ได้ว่าเธอไปสนิทกับอวี้หนานเฉิงขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ จนขนาดที่เขาสามารถเรียกชื่อเธอได้อย่างคนคุ้นเคยเช่นนั้น

แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร เส้าซือก็ยังคงยืนกรานที่จะเรียนทำอาหารด้วยกัน ข้างนอกก็สายมากแล้ว เซิ่งอันหรานก็ขี้เกียจที่จะเถียงกับเขาต่อ ดังนั้นเธอจึงตอบตกลง

ชายสองคนยืนอยู่กันคนล่ะข้าง ราวกับเป็นผู้พิทักษ์ของเซิ่งอันหราน ช่างเป็นภาพที่ดูงดงามเหลือเกิน

“ต่อไปก็ใส่ปีกไก่ลงไป ตอนนี้น้ำมันจะกระเด็น ทั้งสองคนถอยหลังไปหน่อย”

หลังจากที่เซิ่งอันหรานพูดจบ เธอก็เทปีกไก่ลงในหม้อ

ตอนที่ปีกไก่โดนน้ำมัน เสียงน้ำมันแตกกระเซ็นก็ดังขึ้นมาในทันที น้ำมันก็กระเด็นไปทั่ว

“ระวังตัวด้วย” เส้าซืออุทานขึ้น พร้อมรีบเข้าไปกอดเซิ่งอันหรานและหมุนตัวหันกลับมา

ในอีกด้านหนึ่ง การเคลื่อนไหวของอวี้หนานเฉิงกลับช้าไปเล็กน้อย แต่ก็เห็นได้ชัดว่าเขาก็กำลังจะยื่นมือไปดึงเธอเข้ามาเหมือนกัน แต่น่าเสียดายที่เขาถูกเส้าซือตัดหน้าไปเสียก่อน

"โอ๊ย นี่นายกำลังทำอะไรนะ ?" เซิ่งอันหรานโกรธและผลักเส้าซือออกไป "นายกำลังแสดงละครทีวีอยู่เหรอ? ก็แค่น้ำมันกระเด็น ไม่ใช่ถูกระเบิดซะหน่อย ให้ระวังตัวอะไรล่ะ ออกไปเดี๋ยวนี้นะ"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน