เซิ่งอันหรานรู้สึกหงุดหงิด เธอไล่ให้ผู้ชายทั้งสองคนออกจากครัว
วันนี้ทั้งคู่ไปกินยาอะไรผิดมาล่ะ หากว่าพวกเขายังอยู่ในครัว เกรงว่าอาหารมื้อนี้คงจะทำไม่เสร็จ
อวี้หนานเฉิงและเส้าซือถูกไล่ออกจากห้องครัว ทั้งคู่ต่างก็มองหน้ากัน สายตาทั้งคู่ต่างก็ไม่ยอมแพ้
ในขณะที่เซิ่งเสี่ยวซิงและอวี้จิ่งซีกำลังแอบฟังอยู่ทางด้านหลังประตู พวกเขาอดขำไม่ได้
“ดูสิ ฉันก็บอกไปแล้ว หากว่าจะมีแรงกดดันมันจะก่อให้เกิดแรงจูงใจ ” ใบหน้าของเซิ่งเสี่ยวซิงเต็มไปด้วยความพอใจ
อวี้จิ่งซีพยักหน้าเห็นด้วย ใบหน้าของเขาดูร่าเริงอย่างเห็นได้ชัด
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นป่าป๊าเป็นคนเริ่มลงมือก่อน
อาหารมื้อเที่ยงดูอุดมสมบูรณ์เป็นพิเศษ ต้มเนื้อปลา ปีกไก่ตุ๋นน้ำแดง หมูผัดผักกาด มะเขือเทศผัดไข่ อาหารสามจาน และซุปหนึ่งถ้วยถูกจัดวางลงบนโต๊ะ กลิ่นหอมตลบอบอวล
ทุกคนทานอาหารกันอย่างเต็มที่ ข้าวสวยและอาหารมีอย่างล้นหลาม
เด็กทั้งสองคนกลับไปเล่นต่อในห้องนอนหลังจากรับประทานอาหารเสร็จ เส้าซือเก็บจานอาหาร เพราะกลัวว่าจะมีคนมาแย่งหน้าที่ จากนั้นก็เดินเข้าครัวไปล้างจาน
“อันหราน ฉันรับรองว่าจะล้างจานให้สะอาด”
เซิ่งอันหรานรู้สึกยินดีมาก เธอไม่มีอะไรที่จะต้องไปเกรงใจเขา "ถ้าอย่างนั้นนายล้างเถอะ อย่าทำจานชามฉันแตกล่ะ"
"วางใจได้"
เส้าซือยกจานชามและเดินเข้าไปที่ห้องครัว หลังจากที่ล้างจานไปได้สักพัก เขาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
ที่ตัวเองต้องมาลำบากล้างแบบนี้ นี่ไม่ใช่เป็นการเปิดโอกาสให้อวี้หนานเฉิงและอันหรานอยู่ด้วยกันสองต่อสองเหรอ? และเมื่อเขาหันหลังกลับไปมองยังห้องนั่งเล่น ปรากฏว่าทั้ง 2 คนไม่ได้อยู่ในห้องนั่งเล่นแล้ว หายไปไหนล่ะ?
ในห้องนอนของเซิ่งเสี่ยวซิง ผู้ใหญ่สองคนและเด็กๆกำลังนั่งรวมกลุ่มกันอยู่ โดยมีกระดานหมากรุกอยู่ตรงกลาง คนทั้งสี่นั่งเล่นด้วยกันอย่างตั้งใจ
"หนูชนะแล้ว! ทุกคนแพ้แล้ว โดนแปะสติกเกอร์หนึ่งอัน"
เสี่ยวซิงซิงแปะสติกเกอร์สีเหลืองลงบนใบหน้าของอวี้หนานเฉิงด้วยความตื่นเต้น จากนั้นก็แปะสติกเกอร์ให้กับเซิ่งอันหรานและอวี้จิ่งซีตามลำดับ
สักพักใหญ่ๆ ใบหน้าของทั้งสี่คนก็เต็มไปด้วยสติกเกอร์
เส้าซือสวมถุงมือยางสำหรับล้างจาน เขายืนอยู่ที่ประตูพร้อมกับถอนหายใจ "เล่นอะไรกันทำไมถึงไม่เรียกฉันมาเล่นด้วย ให้ฉันล้างจานอยู่คนเดียว มันไม่มากเกินไปเหรอ"
ทั้งสี่คนหันหน้าไปมองที่ประตูพร้อมๆกัน
เซิ่งอันหรานรู้สึกเขินอายเล็กน้อย เพราะเส้าซือเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศเมื่อวานนี้ และต่อให้เป็นคนคุ้นเคยแค่ เธอก็ไม่ควรที่จะปฏิบัติต่อเขาแบบนั้น ดังนั้นเธอจึงเสนอขึ้นว่า "หรือ นายมากับพวกเขาสิ เดี๋ยวฉันจะไปล้างจานเอง?"
“ใครอยากเล่นกับเขาล่ะ?”
เส้าซือขมวดคิ้วคิดทบทวน เขารู้ว่าเซิ่งอันหรานคงจะไม่ยอมให้อวี้หนานเฉิงเป็นคนไปล้างจานแน่ ดังนั้นเขาพูดอย่างไม่เต็มใจขึ้นว่า
“รอให้ฉันล้างจานเสร็จก่อน เดี๋ยวฉันจะกลับมา”
เมื่อพูดจบ เขาก็หันหลังกลับเดินเข้าไปในครัวอีกครั้ง และเริ่มทำการล้างจานอย่างบ้าคลั่ง
เซิ่งอันหรานถึงกับหัวเราะไม่ออก
หลังจากผ่านไปสิบนาที เส้าซือก็เตรียมตัวพร้อมที่จะลงสู่สนามร่วมเกมหมากรุก ในท้ายที่สุดก็เหลือเพียงแค่เส้าซือและอวี้หนานเฉิงต่อสู้กันบนกระดาน
อวี้หนานเฉิงเป็นคนสุขุมรอบคอบ ส่วนเส้าซือก็ไม่ใช่คนที่ใจร้อน เส้าซือวางตำแหน่งหมากรุกได้ดี ส่วนอวี้หนานเฉิงก็สามารถกดดันเขาได้ ตลอดเวลาของช่วงบ่ายทั้งคู่ไม่มีใครสามารถเอาชนะใครได้
ท้องฟ้าค่อยๆมืดลง เซิ่งอันหรานที่อยู่ทางด้านนอกห้องตะโกนเรียกทั้งสองออกไปทานอาหารเย็น
เส้าซือไม่รู้ตัวเลยว่าเซิ่งอันหรานออกไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่นานหลังจากนั้นเขาจึงตระหนักได้ว่าตัวเองเสียเวลาตลอดทั้งช่วงบ่ายไปกับอวี้หนานเฉิง เมื่อคิดได้อย่างนี้แล้วเขาก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาในทันที
ในขณะที่กำลังรับประทานอาหารเย็นกันอยู่ เส้าซือก็ถามกับอวี้หนานเฉิงขึ้นอย่างตรงไปตรงมาว่า
“นี่มันเย็นมากแล้ว เมื่อไหร่คุณจะพาลูกชายของคุณกลับบ้านไป?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน