ผูกรักท่านประธานพันล้าน นิยาย บท 68

เซิ่งอันหรานรู้สึกหงุดหงิด เธอไล่ให้ผู้ชายทั้งสองคนออกจากครัว

วันนี้ทั้งคู่ไปกินยาอะไรผิดมาล่ะ หากว่าพวกเขายังอยู่ในครัว เกรงว่าอาหารมื้อนี้คงจะทำไม่เสร็จ

อวี้หนานเฉิงและเส้าซือถูกไล่ออกจากห้องครัว ทั้งคู่ต่างก็มองหน้ากัน สายตาทั้งคู่ต่างก็ไม่ยอมแพ้

ในขณะที่เซิ่งเสี่ยวซิงและอวี้จิ่งซีกำลังแอบฟังอยู่ทางด้านหลังประตู พวกเขาอดขำไม่ได้

“ดูสิ ฉันก็บอกไปแล้ว หากว่าจะมีแรงกดดันมันจะก่อให้เกิดแรงจูงใจ ” ใบหน้าของเซิ่งเสี่ยวซิงเต็มไปด้วยความพอใจ

อวี้จิ่งซีพยักหน้าเห็นด้วย ใบหน้าของเขาดูร่าเริงอย่างเห็นได้ชัด

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นป่าป๊าเป็นคนเริ่มลงมือก่อน

อาหารมื้อเที่ยงดูอุดมสมบูรณ์เป็นพิเศษ ต้มเนื้อปลา ปีกไก่ตุ๋นน้ำแดง หมูผัดผักกาด มะเขือเทศผัดไข่ อาหารสามจาน และซุปหนึ่งถ้วยถูกจัดวางลงบนโต๊ะ กลิ่นหอมตลบอบอวล

ทุกคนทานอาหารกันอย่างเต็มที่ ข้าวสวยและอาหารมีอย่างล้นหลาม

เด็กทั้งสองคนกลับไปเล่นต่อในห้องนอนหลังจากรับประทานอาหารเสร็จ เส้าซือเก็บจานอาหาร เพราะกลัวว่าจะมีคนมาแย่งหน้าที่ จากนั้นก็เดินเข้าครัวไปล้างจาน

“อันหราน ฉันรับรองว่าจะล้างจานให้สะอาด”

เซิ่งอันหรานรู้สึกยินดีมาก เธอไม่มีอะไรที่จะต้องไปเกรงใจเขา "ถ้าอย่างนั้นนายล้างเถอะ อย่าทำจานชามฉันแตกล่ะ"

"วางใจได้"

เส้าซือยกจานชามและเดินเข้าไปที่ห้องครัว หลังจากที่ล้างจานไปได้สักพัก เขาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ

ที่ตัวเองต้องมาลำบากล้างแบบนี้ นี่ไม่ใช่เป็นการเปิดโอกาสให้อวี้หนานเฉิงและอันหรานอยู่ด้วยกันสองต่อสองเหรอ? และเมื่อเขาหันหลังกลับไปมองยังห้องนั่งเล่น ปรากฏว่าทั้ง 2 คนไม่ได้อยู่ในห้องนั่งเล่นแล้ว หายไปไหนล่ะ?

ในห้องนอนของเซิ่งเสี่ยวซิง ผู้ใหญ่สองคนและเด็กๆกำลังนั่งรวมกลุ่มกันอยู่ โดยมีกระดานหมากรุกอยู่ตรงกลาง คนทั้งสี่นั่งเล่นด้วยกันอย่างตั้งใจ

"หนูชนะแล้ว! ทุกคนแพ้แล้ว โดนแปะสติกเกอร์หนึ่งอัน"

เสี่ยวซิงซิงแปะสติกเกอร์สีเหลืองลงบนใบหน้าของอวี้หนานเฉิงด้วยความตื่นเต้น จากนั้นก็แปะสติกเกอร์ให้กับเซิ่งอันหรานและอวี้จิ่งซีตามลำดับ

สักพักใหญ่ๆ ใบหน้าของทั้งสี่คนก็เต็มไปด้วยสติกเกอร์

เส้าซือสวมถุงมือยางสำหรับล้างจาน เขายืนอยู่ที่ประตูพร้อมกับถอนหายใจ "เล่นอะไรกันทำไมถึงไม่เรียกฉันมาเล่นด้วย ให้ฉันล้างจานอยู่คนเดียว มันไม่มากเกินไปเหรอ"

ทั้งสี่คนหันหน้าไปมองที่ประตูพร้อมๆกัน

เซิ่งอันหรานรู้สึกเขินอายเล็กน้อย เพราะเส้าซือเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศเมื่อวานนี้ และต่อให้เป็นคนคุ้นเคยแค่ เธอก็ไม่ควรที่จะปฏิบัติต่อเขาแบบนั้น ดังนั้นเธอจึงเสนอขึ้นว่า "หรือ นายมากับพวกเขาสิ เดี๋ยวฉันจะไปล้างจานเอง?"

“ใครอยากเล่นกับเขาล่ะ?”

เส้าซือขมวดคิ้วคิดทบทวน เขารู้ว่าเซิ่งอันหรานคงจะไม่ยอมให้อวี้หนานเฉิงเป็นคนไปล้างจานแน่ ดังนั้นเขาพูดอย่างไม่เต็มใจขึ้นว่า

“รอให้ฉันล้างจานเสร็จก่อน เดี๋ยวฉันจะกลับมา”

เมื่อพูดจบ เขาก็หันหลังกลับเดินเข้าไปในครัวอีกครั้ง และเริ่มทำการล้างจานอย่างบ้าคลั่ง

เซิ่งอันหรานถึงกับหัวเราะไม่ออก

หลังจากผ่านไปสิบนาที เส้าซือก็เตรียมตัวพร้อมที่จะลงสู่สนามร่วมเกมหมากรุก ในท้ายที่สุดก็เหลือเพียงแค่เส้าซือและอวี้หนานเฉิงต่อสู้กันบนกระดาน

อวี้หนานเฉิงเป็นคนสุขุมรอบคอบ ส่วนเส้าซือก็ไม่ใช่คนที่ใจร้อน เส้าซือวางตำแหน่งหมากรุกได้ดี ส่วนอวี้หนานเฉิงก็สามารถกดดันเขาได้ ตลอดเวลาของช่วงบ่ายทั้งคู่ไม่มีใครสามารถเอาชนะใครได้

ท้องฟ้าค่อยๆมืดลง เซิ่งอันหรานที่อยู่ทางด้านนอกห้องตะโกนเรียกทั้งสองออกไปทานอาหารเย็น

เส้าซือไม่รู้ตัวเลยว่าเซิ่งอันหรานออกไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่นานหลังจากนั้นเขาจึงตระหนักได้ว่าตัวเองเสียเวลาตลอดทั้งช่วงบ่ายไปกับอวี้หนานเฉิง เมื่อคิดได้อย่างนี้แล้วเขาก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาในทันที

ในขณะที่กำลังรับประทานอาหารเย็นกันอยู่ เส้าซือก็ถามกับอวี้หนานเฉิงขึ้นอย่างตรงไปตรงมาว่า

“นี่มันเย็นมากแล้ว เมื่อไหร่คุณจะพาลูกชายของคุณกลับบ้านไป?”

อวี้หนานเฉิงค่อยๆจิบชาอย่างช้าๆ ก่อนที่จะตอบกลับไปว่า "คืนนี้ฉันคงจะไม่กลับไปแล้วล่ะ"

“อะไรนะ” เส้าซือลุกขึ้นทันที “ทำไมคุณถึงไม่กลับไปล่ะ? นี่ไม่ใช่บ้านของคุณนะ”

เซิ่งอันหรานยังมึนงงอยู่เล็กน้อย เธอไม่รู้ว่าอวี้หนานเฉิงกำลังหมายถึงอะไร

เขาคงไม่ได้หมายความว่าจะค้างอยู่ที่นี่สักคืนใช่ไหม? นี่มันก็น่าแปลกเกินไป

“จิ่งซีไม่อยากกลับไป” อวี้หนานเฉิงมองไปทางเซิ่งอันหรานด้วยท่าทางจำยอม “เขาบอกฉันว่าเมื่อก่อนเสี่ยวซิงซิงเคยไปอาศัยอยู่ในบ้านของฉันมาสักพัก ครั้งนี้เขาเลยอยากลองมาอาศัยอยู่บ้านของเสี่ยวซิงซิงบ้าง ”

“ไม่ได้! ฉันไม่เห็นด้วย”

เส้าซือปฏิเสธเสียงแข็ง นอกจากนี้เขายังเพิ่งทราบว่าเซิ่งอันหรานกับลูกสาวเคยไปอาศัยอยู่ที่บ้านของอวี้หนานเฉิงด้วย ไม่อย่างนั้นเมื่อตอนเช้าเขาคงจะไม่เปิดประตูต้อนรับอวี้หนานเฉิงและลูกเข้ามาหรอก ตอนนี้คู่แข่งอันดับหนึ่งในความรักของเขาก็คืออวี้หนานเฉิง

“ที่นี่ไม่ใช่บ้านของคุณ คุณเองก็มาขออาศัยเช่นกัน ความคิดเห็นของคุณมันไม่สำคัญ” อวี้หนานเฉิงเหลือบมองเขาหนึ่งครั้ง จากนั้นก็หันมามองที่เซิ่งอันหราน

เซิ่งอันหรานกุมมือตัวเองด้วยสีหน้าที่ดูลำบากใจ

ถ้าจะให้ค้างคืน มันก็ดูแปลกเกินไปที่มีผู้ชายสองคนมาพักอยู่ที่บ้าน แต่ถ้าจะไม่ให้ค้างคืน อวี้หนานเฉิงพูดถูก เพราะเธอเคยพาเซิ่งเสี่ยวซิงไปพักที่บ้านของเขาเป็นเวลากว่าครึ่งเดือน หากจะปฏิเสธก็คงดูไม่ดี?

หลังจากที่คิดทบทวนสักพัก เซิ่งเสี่ยวซิงก็ออกมาจากห้องและพูดขึ้นว่า

“หม่าม้า พี่จิ่งซีหลับไปแล้ว คืนนี้พี่จิ่งซีกับคุณลุงจะค้างคืนที่บ้านเราหรือเปล่าคะ?”

เซิ่งอันหรานทำได้เพียงแค่พยักหน้า "ก็คงต้องเป็นอย่างนั้นแล้วล่ะ"

“นี่ ไม่ได้นะ!” เส้าซือรีบห้าม “แค่เด็กนอนหลับ อุ้มกลับไปก็ได้นี่นา ตัวไม่ได้โตมาก ทำไมถึงจะต้องมานอนค้างที่นี่ด้วยล่ะ”

“จิ่งซี สุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง ถ้าเขาโดนลมข้างนอกอาจจะเป็นหวัดได้” อวี้หนานเฉิงพูดขึ้นอย่างไม่รีบร้อน

เดิมทีเซิ่งอันหรานก็รู้สึกรักและสงสารอวี้จิ่งซีเป็นทุนเดิมอยู่แล้วดังนั้นแน่นอนว่าเธอคงจะไม่ยอมปล่อยให้เขาออกไปโดนลมทั้งแบบนี้หรอก เธอพยักหน้าเห็นด้วยทันที "ใช่ จะปล่อยให้เขากลับไปตอนนี้ไม่ได้ มันไม่ปลอดภัยกับเด็ก"

“แล้วเขาล่ะ? เด็กให้อยู่ที่นี่ได้ ถ้าเขาจะกลับไปก็คงไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม?” เส้าซือดูเหมือนจะคว้าฟางเส้นสุดท้าย เพราะอย่างไรซะเขาก็ไม่ยอมให้อวี้หนานเฉิงมาพักอยู่ที่นี่ด้วย

"ลูกชายของผมโตมาจนขนาดนี้ ผมไม่เคยอยู่ห่างจากเขาเลย ดังนั้นผมรู้สึกไม่ชิน"

คำพูดประโยคของอวี้หนานเฉิง ทำให้เส้าซือถึงกับพูดไม่ออก

มันน่าโมโหมาก รู้ทั้งรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีเจตนาไม่ดี แต่คำพูดทุกคำของเขามันกลับฟังดูมีเหตุผล เป็นอย่างนี้ไปได้ยังไง?

หลังจากที่ได้ตัดสินใจพักค้างคืนที่นี่ เซิ่งอันหรานก็ทำความสะอาดห้องนอนของเธอ

“เพราะฉันไม่ได้บอกซูจิ้งว่าคุณจะไปนอนที่ห้องของเธอ ดังนั้นคุณก็นอนในห้องของฉันก็แล้วกัน ส่วนฉันจะไปที่ห้องของซูจิ้ง”

อวี้หนานเฉิงไม่ได้คัดค้านใดๆ ส่วนคนที่มีปัญหาก็คงจะหนีไม่พ้นเส้าซือคนเดิม "ไม่ได้! ฉันไม่เห็นด้วย เขาจะมานอนห้องของเธอได้อย่างไร? อันหราน เธอลืมไปแล้วเหรอว่าชายและหญิงมีความแตกต่างกัน เธอจะต้องปกป้องความเป็นส่วนตัวของตัวเองสิ เรื่องนี้ฉันจะไม่เห็นด้วยเป็นอย่างมาก "

“แล้วจะต้องทำยังไง?” เซิ่งอันหรานมองไปที่เส้าซือ “บ้านก็มีห้องอยู่แค่นี้ ”

“ฉันจะนอนกับเขาเอง แม้ว่าฉันไม่เต็มใจก็ตาม!” เส้าซือจ้องไปที่เซิ่งอันหรานด้วยท่าทางลังเลใจ

"ผมไม่ต้องการ"

อวี้หนานเฉิงเหลือบมองเส้าซือ "ฉันไม่ชอบนอนกับผู้ชาย"

"นี่คุณ……"

“เอาล่ะๆ” เซิ่งอันหรานพูดขึ้นขัดจังหวะเส้าซือ “หยุดสร้างปัญหาได้แล้ว เขาจะอยู่ที่นี่หนึ่งคืน นอนที่ไหนก็ไม่สำคัญหรอก อีกอย่างในห้องของฉันก็ไม่มีอะไรที่เป็นความลับ พวกคุณออกมาก่อนเถอะ ฉันจะเข้าไปเปลี่ยนผ้าปูที่นอนให้ ”

เซิ่งอันหรานพูดขึ้นพลางผลักเส้าซือและอวี้หนานเฉิงออกไปจากห้อง จากนั้นก็ปิดประตูห้องและทำความสะอาด

เส้าซือกอดอกแน่น เขาจ้องไปที่อวี้หนานเฉิงด้วยความไม่พอใจ จากนั้นก็พูดออกมาว่า

“เป็นถึงท่านประธานที่สง่างาม แล้วทำไมท่านถึงจะต้องมาอาศัยอยู่ในบ้านแคบๆแบบนี้กับพวกเราด้วยล่ะ? หรือการมีชีวิตที่ดีอยู่ไปวันๆมันน่ารำคาญ ก็เลยอยากจะมาลองสัมผัสกับการใช้ชีวิตแบบนี้ล่ะ?”

“ถ้าผมตอบว่าใช่ คุณจะเชื่อไหม?”

อวี้หนานเฉิงทิ้งประโยคที่มีความหมายครุมเครือไว้ จากนั้นก็เดินไปที่ตู้หนังสือ เขาทำราวกับว่าไม่เห็นเส้าซืออยู่ในสายตาเลย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน