ผูกรักท่านประธานพันล้าน นิยาย บท 69

ไม่เชื่อแน่นอน!

เส้าซือจ้องไปที่แผ่นหลังของอวี้หนานเฉิง ใบหน้าอ่อนเยาว์ของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกไม่พอใจ

เขาเป็นถึงประธานของเซิ่งถังกรุป มีอะไรที่เขาต้องการแล้วไม่ได้บ้าง ?ดันอยากจะมาลองใช้ชีวิตในอพาร์ตเมนต์เล็กๆแบบนี้เนี่ยนะ? ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะว่าเขามีแผนการอื่นซ่อนอยู่ เส้าซือไม่เชื่อคำพูดของเขาอย่างเด็ดขาด

เซิ่งอันหรานทำความสะอาดห้องและเปลี่ยนผ้าปูเตียงอย่างรวดเร็ว ตอนที่เธอเดินออกมาจากห้อง เธอได้หยิบผ้าเช็ดตัวและเครื่องใช้ในห้องน้ำชิ้นใหม่ส่งให้กับอวี้หนานเฉิง

ในตอนค่ำ ขณะที่เซิ่งเสี่ยวซิงและอวี้หนานเฉิงกำลังแปรงฟันอยู่ในห้องน้ำ เซิ่งเสี่ยวซิงเหยียบอยู่บนม้านั่งตัวเล็ก ๆ แปรงฟันฟองเต็มปากไปหมด ใบหน้าของเด็กน้อยเต็มไปด้วยความสุข

“หนูยิ้มอะไร” อวี้หนานเฉิงถาม

เซิ่งเสี่ยวซิงบ้วนปาก จากนั้นก็ยื่นมือออกไปคล้องแขนของอวี้หนานเฉิง

อวี้หนานเฉิงเข้าใจได้และค่อยๆตัวก้มตัวลงมา

เสี่ยวซิงซิงตบเบาๆไปที่ไหล่อวี้หนานเฉิง "หนูจะบอกอะไรคุณลุงนะคะหม่าม้าของหนูเป็นคนที่เก่งมาก และคนที่ไล่ตามจีบเธอต้องยืนต่อแถวรอคิวยาวไปถึงไปอเมริกานูน"

เมื่อนึกถึงเส้าซือ อวี้หนานเฉิงก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาในทันที เขาจึงถามขึ้นว่า

“แล้วคิดว่าฉันควรทำยังไงล่ะ?”

“ก็จะต้องพยายามค่ะ คุณลุงก็พยายามเข้าหาหม่าม้าหน่อยสิคะ” เซิ่งเสี่ยวซิงยืดหลังขึ้น พร้อมกับยักคิ้วให้กับอวี้หนานเฉิง

“ถ้าตอนนี้คุณลุงพยายาม มันยังทันนะคะ คุณลุงยังจะได้ลูกสาวที่น่ารักอย่างหนูด้วย แต่ถ้าหากว่าคุณลุงไม่พยายามล่ะก็ ต่อไปคุณลุงก็จะได้แต่งงานกับคุณป้าเกา ซึ่งพี่จิ่งซีไม่ชอบเธอเอามากๆ อีกอย่างต่อให้พวกคุณได้ลูกสาวคนใหม่กัน ก็คงจะไม่น่ารักเท่ากับหนูแน่นอน”

คำพูดเหล่านี้ทำให้อวี้หนานเฉิงยิ้มอย่างปฏิเสธไม่ได้ เขาหยิบผ้าเช็ดตัวขึ้นมาเช็ดปากให้กับเซิ่งเสี่ยวซิง แล้วลูบไปที่ศีรษะของเธอ "เอาล่ะ ลุงเข้าใจแล้ว เราไปนอนกันเถอะ"

“โอเคค่ะ คุณลุงจะต้องพยายามเข้านะคะ หนูจะเป็นกำลังใจให้”

เซิ่งเสี่ยวซิงหอมแก้มเขา จากนั้นก็กระโดดลงมาจากม้านั่งและมุ่งหน้าไปที่ห้องนอนของเธอ

“เด็กคนนี้จริงๆเลย ?เมื่อกี้เธอพูดอะไรกับคุณคะ ?”

เซิ่งอันหรานเดินเข้ามาในห้องน้ำหลังจากที่เธอตากผ้าเสร็จ เธอยื่นมือออกไปหยิบแก้วน้ำบ้วนปากและถามขึ้นอย่างเป็นกันเอง

อวี้หนานเฉิงมองเงาของทั้งสองคนยืนเคียงข้างกันสะท้อนในกระจก แปรงสีฟันแก้วน้ำสีชมพูและสีฟ้า ผู้หญิงที่ยืนอยู่ทางข้าง เธอถามเรื่องลูกของตัวเองด้วยท่าทางและน้ำเสียงที่เป็นธรรมชาติ มันชั่งเป็นความรู้สึกที่ดีเกินจะบรรยายออกมาได้

เขารู้สึกใจสั่น และขาดสติไปสักพัก

เซิ่งอันหรานที่ยังไม่ได้รับคำตอบจากอวี้หนานเฉิง เธอมองอวี้หนานเฉิงผ่านทางกระจกโดยไม่ได้ตั้งใจ เป็นฉากที่ประจวบเหมาะ เพราะดูเหมือนว่าเขาก็กำลังมองเธอผ่านกระจกอยู่เช่นกัน เซิ่งอันหรานชะงักไปชั่วครู่ เธอกัดแปรงสีฟันและพูดขึ้นอย่างคลุมเครือ“คุณเป็นอะไรหรือเปล่า?”

อวี้หนานเฉิงได้สติกลับมา "ไม่เป็นไร แปรงสีฟันมันแข็งเกินไป"

“จริงเหรอ?”เซิ่งอันหรานมองไปที่แปรงสีฟันในมืออย่างงุ่มง่าม “มีร้านสะดวกซื้ออยู่ชั้นล่าง คุณต้องการอันใหม่ไหม เดี๋ยวฉันจะลงไปซื้อให้? ปกติแล้วฉันไม่ค่อยได้ให้ความสำคัญกับเรื่องแบบนี้สักเท่าไหร่ ฉะนั้นจึงมักจะซื้อแปรงสีฟันแบบถูกๆมา "

“ไม่ต้องหรอก มันก็พอใช้ได้”

สีหน้าของอวี้หนานเฉิงดูค่อนข้างเป็นกันเอง หลังจากที่แปรงฟันเสร็จอวี้หนานเฉิงก็กลับไปที่ห้องนอน

อวี้จิ่งซีขยับตัวพลิกไปมาบนเตียง ดูเหมือนว่ากำลังผวา

“จิ่งซี นอนเถอะ”

อวี้หนานเฉิงตบเบาๆที่ไหล่ของเขา จากนั้นก็ดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มให้กับจิ่งซี

อวี้จิ่งซีค่อยๆมุดเข้าไปในอ้อมแขนของอวี้หนานเฉิง หลังจากหาตำแหน่งที่นอนสบายได้แล้ว เขาก็สงบนิ่งไป

เมื่อนึกถึงความรู้สึกพิเศษของเขาที่มีต่อเซิ่งอันหราน อวี้หนานเฉิงก็ขมวดคิ้วเล็ก เขามองขึ้นไปบนเพดานพร้อมกับคิดทบทวนต่างๆนานา หรือว่าความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูกนี้เป็นเพราะความรักและห่วงใยที่เขามีต่ออวี้จิ่งซี มันเป็นเรื่องยากที่จิ่งซีจะยอมรับและพร้อมที่จะอยู่ใกล้ชิดกับคนอื่นแบบนี้

หลังจากที่ได้รู้จักเซิ่งอันหราน อารมณ์ของจิ่งซีก็ดีขึ้นเรื่อยๆ เขาร่าเริงมากขึ้นด้วย

การตัดสินใจแต่งงานกับเกาหย่าเหวินก่อนหน้านี้ ก็เป็นเพราะว่าเขาคำนึงถึงความรู้สึกของจิ่งซี แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าอวี้จิ่งซีจะชอบเซิ่งอันหรานซะมากกว่า บางทีเขาอาจไม่ได้อยากจะมีแม่อย่างคนทั่วๆไป และไม่แน่ว่าตอนนี้ในใจของเขาอาจจะตัดสินใจเลือกให้เซิ่งอันหรานมาเป็นแม่จริงๆแล้วก็ได้ ?

เมื่อคิดได้อย่างนี้แล้ว คำถามที่เขามีอยู่ก่อนหน้านี้ก็สามารถหาคำตอบได้แล้ว

“จิ่งซี ลูกต้องการมีแม่แบบเซิ่งอันหรานจริง ๆ ใช่ไหม ?”

เดิมที่อวี้จิ่งซีหลับตาลงแล้ว แต่ทันทีที่ได้ยินคำพูดประโยคนี้ของอวี้หนานเฉิง เขาก็ค่อยๆลุกขึ้นมาจากอ้อมแขนของผู้เป็นพ่อ จิ่งซีค่อยๆหยิบกระดานวาดภาพขึ้นมา จากนั้นก็เขียนตัวหนังสืออย่างลวกๆออกมาหนึ่งบรรทัด แล้ววางไว้บนท้องของอวี้หนานเฉิง

“ต่อให้ผมหวังแบบนั้น แต่มันจะมีประโยชน์อะไร ในเมื่อคุณพ่อไม่สามารถตามจีบเธอได้ วันนี้ผมเห็นหมดแล้วว่า เธอไม่ได้สนใจคุณพ่อเลยแม้แต่น้อย เป็นเพราะเธอเห็นแก่หน้าของผม เธอจึงยอมให้เราค้างที่นี่” ซิงซิงบอกว่า คุณลุงเส้าซือมีความสัมพันธ์ค่อนข้างดีกับหม่าม้าของเธอ”

อวี้หนานเฉิงรู้สึกหดหู่ใจเล็กน้อย เพราะโดนเด็กสองคนสงสัยในเสน่ห์และความสามารถของตัวเอง

“นี่ลูกไม่เชื่อใจพ่อขนาดนั้นเลยเหรอ? ”

อวี้จิ่งซีเขียนลงบนกระดานวาดภาพอีกครั้ง"พ่อเคยตามจีบผู้หญิงหรือเปล่า?"

อวี้หนานเฉิงแตะที่จมูกของเขาอย่างเขินอาย

คิดว่าไม่เคย

อวี้จิ่งซีมองดูการแสดงออกของเขาอยู่ครู่หนึ่ง ราวกับว่าเขาพอจะเดาใจของชายผู้เป็นพ่อได้ อวี้จิ่งซีถอนหายใจอย่างแรง จากนั้นเขาก็ยื่นมือออกไปดึงผ้าห่มแล้วนอนหลับไป อวี้จิ่งซีขี้เกียจจะมาสนใจอวี้หนานเฉิง

ไม่มีแม้แต่ประสบการณ์การลงสนามแข่งขัน ตั้งแต่เล็กจนโตล้วนแล้วแต่ถูกผู้หญิงตามขายขนมจีบ แล้วเขาจะไปรู้วิธีจีบผู้หญิงได้ยังไง หากไม่ใช่เป็นเพราะความช่วยเหลือของเสี่ยวซิงซิง เขาคงจะไม่มีโอกาสเลยแม้แต่น้อย

เมื่อเห็นท่าทางของลูกชายเช่นนี้ อวี้หนานเฉิงยิ่งรู้สึกหดหู่มากขึ้นเรื่อยๆ แม้จะปิดไฟในห้องแล้ว แต่เขาก็ยังคงนอนไม่หลับ อวี้หนานค่อยๆหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วส่งข้อความ

เช้าวันรุ่งขึ้น เซิ่งอันหรานยังคงนอนหลับอยู่ ทางด้านนอกมีเสียงเอะอะดังขึ้น เซิ่งเสี่ยวซิงเปิดประตูและวิ่งเข้ามา เธอสวมชุดนอนกระต่ายกระโดดขึ้นไปบนเตียงจากนั้นก็ปลุกเซิ่งอันหราน

"หม่าม้า เกิดเรื่องแล้ว เกิดเรื่องแล้ว มีคนจำนวนมากรออยู่ที่ประตูหน้าบ้านของเรา"

เซิ่งอันหรานรู้สึกงุนงง เธอหาวหนึ่งครั้ง

“อะไรนะ?”

"ทุกคนถือกล้อง ประตูหน้าบ้านของเราถูกปิดล้อมไปหมดแล้ว "

“อะไรนะ?”ครั้งนี้เซิ่งอันหรานรู้สึกตัวแล้วจริงๆ เธอพลิกตัวและลุกขึ้นนั่งบนเตียง “กล้องอะไรกัน ?มีกี่คน?”

"มีเยอะเลยค่ะ"

เซิ่งอันหรานที่ยังคงอยู่ในชุดนอนเดินออกมาจากห้อง ส่วนอวี้หนานเฉิงก็ดูเหมือนว่าจะเพิ่งตื่นเพราะเสียงเอะอะ เขาเปิดประตูออกมาและยืนอยู่ที่ประตูห้องนอน อวี้หนานเฉิงมองไปยังประตูหน้าบ้าน ด้วยความสงสัย

“เกิดอะไรขึ้น?” อวี้หนานเฉิงถาม

“ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ”เซิ่งอันหรานรีบเดินไปที่ประตูหน้าบ้าน “ซิงซิงบอกว่ามีคนมากมายยืนรอที่หน้าประตู เดี๋ยวฉันจะลองไปดู”

มีตาแมวอยู่ที่ประตู และยังมีม้านั่งเล็ก ๆ ตั้งอยู่ตรงนั้นด้วย เซิ่งเสี่ยวซิงเพิ่งวางมันไว้เพื่อส่องดูสถานการณ์ทางด้านนอก

เซิ่งอันหรานยกตาแมวขึ้น แต่มองได้เพียงแค่แวบเดียว เธอรู้สึกตกใจมาก

"แม่เจ้า!"

เธอเซถอยหลังสองก้าวและเกือบจะล้มลง แต่โชคดีที่มือและสายตาของอวี้หนานเฉิงนั้นไวมาก เขาสามารถรับเธอไว้ได้ทัน

"ไม่เป็นไรใช่ไหม?"

“ไม่เป็นไรค่ะ” สีหน้าของเธอดูซีดเซียว เซิ่งอันหรานค่อยๆถอนหายใจออกมาเบาๆ “เมื่อกี้เหมือนมีคนกำลังมองที่ตาแมวจากทางด้านนอกเหมือนกันกับฉัน มันจึงทำให้ฉันรู้สึกตกใจ ”

“ขอผมดูหน่อย” อวี้หนานเฉิงเดินไปที่ประตูและมองออกไปผ่านตาแมวอยู่ครู่หนึ่ง

“เป็นยังไงบ้าง? คุณเห็นอะไร?”

"ที่ทางเดินด้านนอกมีคนเต็มไปหมด แต่เขาไม่ได้มาหาพวกเราหรอก"

“ไม่ได้มาหาพวกเราอย่างนั้นเหรอ?” เซิ่งอันหรานถอนหายใจด้วยความโล่งอก ดูเหมือนว่าเธอจะนึกอะไรบางอย่างออก จึงถามขึ้นว่า “ไม่ใช่สิ? ชั้นนี้มีเพียงบ้านของฉัน”

อวี้หนานเฉิงเคลื่อนสายตาไปมองอีกห้องหนึ่งอย่างไม่รีบร้อน

“นอกจากพวกเราแล้ว ในบ้านหลังนี้ยังมีใครอาศัยอยู่อีกล่ะ ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน