ผูกรักท่านประธานพันล้าน นิยาย บท 76

“ไม่มีนะ ลองเข้าป๋ายตู้()หาเว็บไซต์นี้ดู ”เซิ่งอันหรานมองดูใบหน้าที่ศัลยกรรมเหมือนคนดัง“คุณเห่าคิดว่าพวกเราลืมเรื่องอะไรไปเหรอคะ ?”

“พวกคุณถีบหัวส่งเหรอ ?”ใบหน้าที่ศัลยกรรมเหมือนคนดังฟื้นคืนสติทันที เธอชี้ไปที่เซิ่งอันหรานพลางด่าว่า “ไร้ยางอายเกินไปแล้ว เรื่องเมื่อวาน พวกคุณจะทำแบบนี้นะเหรอ ?”

กลุ่มคนค่อยๆรวมตัวกันที่ห้องโถง

เซิ่งอันหรานไม่รอช้า และพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า “เมื่อคืนมีแมลงสาบอยู่ในห้องของคุณเห่า พวกเรารีบจัดการโดยทันที แล้วเปลี่ยนห้องให้ เราสัญญาว่าถ้ามันเป็นเรื่องจริงเราจะจะชดใช้ให้คุณอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้ พวกเรารู้สึกว่าแมลงสาบพวกนั้นไม่เกี่ยวข้องกับพวกเรา”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าบนใบหน้าที่ศัลยกรรมเหมือนคนดังก็ซีดลงทันที

“เคยเจอคนไร้ยางอาย แต่ไม่เคยเจอคนไร้ยางอายแบบโรงแรมเซิ่งถังของพวกคุณแบบนี้มาก่อน นี่เป็นโรงแรมใหญ่ที่รังแกลูกค้าเหรอ ? ฉันจะแจ้งสำนักอุตสาหกรรมและการพาณิชย์กับกรมอนามัยเดี๋ยวนี้”

“คุณสามารถโทรได้เลยค่ะ”เซิ่งอันหรานพูดด้วยสีหน้าสงบ และไม่รีบร้อน

“แมลงสาบในห้องของคุณเมื่อคืนนี้ได้ส่งไปตรวจที่มหาวิทยาลัยการแพทย์แล้ว และผลออกมาว่า แมลงสาบนี้ตายมาห้าวันแล้ว ร่างกายของมันแห้งไปหมดแล้ว แต่คุณกลับบอกว่าคุณตีมันตายหลังจากเข้าเช็คอินโรงแรมของพวกเราครึ่งชั่วโมง แปลกจริงๆ”

ทันทีที่พูดออกมา รอบๆก็เกิดความโกลาหล

ซึ่งเหมือนกับการจงใจโยนแมลงลงจานอาหารหลังจากทานเสร็จเพื่อทำลายร้านอาหาร

เห็นได้ชัดว่ามาเพื่อแบล็กเมล์

เมื่อใบหน้าที่ศัลยกรรมเหมือนคนดังเห็นว่ารอบข้างกำลังว่าตัวเองฝ่ายเดียว ในตอนนั้นตัวเธอก็ไม่สามารถพูดโต้แย้งได้สักคำ จึงรีบก้มศีรษะวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว

หลังจากจัดการกับเรื่องนี้ ทุกคนในโรงแรมก็ต่างชื่นชมเซิ่งอันหรานมากยิ่งขึ้น

โดยเฉพาะผู้ช่วยเสี่ยวจัง เพราะว่าแมลงสาบสองตัว ทำให้เซิ่งอันหรานกลายเป็นคนที่น่าชื่นชม

“ผู้จัดการเซิ่ง ฉันคิดไม่ถึงจริงๆ คุณจะกล้าเอาของน่ากลัวแบบนั้นไปห้องแล็บ วันนั้นฉันเอามันใส่ไว้ในกระเป๋า ฉันใช้ชีวิตของตัวเองไปครึ่งหนึ่งเลยนะ”

“ดังนั้นคุณยังต้องมีประสบการณ์ ตอนนี้ไปคิดหาวิธีแก้ไขเรื่องรีวิวแย่ๆก่อนเถอะ”

เซิ่งอันหรานตบไหล่ของเสี่ยวจังเบาๆ จากนั้นก็เดินเชิดกลับไปที่ห้องทำงาน หลังจากปิดประตู เธอก็เอนตัวพิงประตูแล้วถอนหายใจด้วยความโล่งอก

อันที่จริงสำหรับแมลงสาบสองตัวที่ตายไป ตั้งแต่เมื่อคืน ตัวเธอก็รู้สึกคลื่นไส้ ดื่มน้ำไม่ได้ ยังดีไม่เท่าเสี่ยวจังเลย ทั้งหมดนี้ล้วนแสดงผ่านสีหน้าหมดแล้ว

หนึ่งสัปดาห์หลังจากนั้น เรื่องรีวิวแย่ๆของโรงแรมก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข

เซิ่งอันหรานตรวจสอบห้องพักทุกห้องในโรงแรมด้วยตัวเอง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไม่มีปัญหาอะไร เธอก็เดินกลับห้องทำงานมาด้วยความมึนงง ดูจากสถานการณ์ในปัจจุบันยังคงห่างไกลกับสัญญาการพนัน และเห็นว่ามันยังจะมีแนวโน้มลดลงไปจนสุด เธอก็ถอนหายใจออกมาอย่างเศร้าๆ

เจอปัญหาเข้าแล้ว หรือว่าในช่วงนี้มีคนมาประณามโรงแรมเซิ่งถัง ? และคนที่อยู่เบื้องหลังจงใจทำ ?

ก่อนเลิกงานไม่กี่นาที เซิ่งอันหรานรับโทรศัพท์จากพ่อของตัวเอง และนัดเจอกันที่ร้านกาแฟใกล้ๆบริษัท

เมื่อเธอมาถึง พ่อเซิ่งก็มาถึงแล้ว เห็นได้ชัดว่ารู้สึกอึดอัดเล็กน้อย

“สั่งนมร้อนให้คุณไปแก้วหนึ่ง ดื่มกาแฟเยอะเกินไปตอนดึกจะนอนไม่หลับ แต่ถ้าหากว่าไม่ชอบ คุณก็สั่งอย่างอื่น”

เซิ่งอันหรานส่ายศีรษะ “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันดื่มอะไรก็ได้”

พ่อเซิ่งถอนหายใจแล้วยิ้มออกมา

“อันหราน คุณโทรศัพท์หาฉัน ฉันรู้สึกแปลกใจและดีใจมาก”

เซิ่งอันหรานก้มศีรษะลง ใช้ช้อนคนนมในแก้ว โดยไม่มองหน้าพ่อ เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดออกมาว่า “พ่อ ที่ฉันมาหาคุณ อันที่จริงมีเรื่องหนึ่งอยากให้คุณช่วย”

“เรื่องอะไร คุณว่ามา”

เซิ่งอันหรานพูดขอให้เขาช่วยน้อยมาก เมื่อได้ยินเช่นนี้ เขากลับรู้สึกพอใจ

“หกปีที่แล้วในวันเกิดอายุสิบแปดปีของฉัน คุณให้ห้องฉันไว้ห้องหนึ่งใช่ไหม ? คุณคิดว่า เรื่องนี้ยังนับอยู่ไหม ?”

ถึงแม้ว่าช่วงนี้ที่บริษัทจะมีเรื่องมากมายและยุ่งมาก แต่เธอก็ยังคิดเรื่องที่จะย้ายออกจากบ้านของอวี้หนานเฉิง การที่ตัวเองพาซิงซิงน้อยไปอยู่ที่บ้านเขานั้นก็ดูจะไม่ค่อยเหมาะสม เมื่อคิดดูแล้ว ก็ไม่มีทางอื่นอีก เธอจึงนึกถึงห้องที่พ่อของตัวเองมอบให้เธอในตอนนั้น

“นับแน่นอนสิ ”พ่อเซิ่งเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย แสดงอาการดีใจออกมา “ในใบรับรองอสังหาริมทรัพย์เขียนชื่อของคุณ ก็หมายความว่ามันคือห้องของคุณ”

“ขอบคุณค่ะพ่อ”เซิ่งอันหรานดูอึดอัดเล็กน้อย ถึงแม้ว่าจะพยายามทำให้ตัวเองดูสุภาพ แต่น้ำเสียงของเธอก็แปลกไป ไม่เหมือนคุยกับพ่อ

“ตอนที่ฉันไปฉันไม่ได้เอากุญแจไปด้วย ถ้าคุณอยู่บ้านเมื่อไหร่ ฉันสามารถกลับไปเอาได้ไหม ? ”

“คุณกลับบ้านยังจะต้องมาวุ่นวายว่าฉันอยู่ไม่อยู่บ้านอีกเหรอ ? จะมาเมื่อไหร่ก็ได้ เพียงแต่ถ้าจะมาก็บอกฉันก่อนละกัน ฉันจะให้ป้าคุณเตรียมอาหารไว้ คนในครอบครัวจะได้ทานข้าวด้วยกัน”

“ไม่ต้องวุ่นวายหรอก พ่อ”

“ไม่วุ่นวาย”น้ำเสียงของพ่อเซิ่งหนักแน่น เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งและพูดว่า “พาลูกสาวของคุณกลับไปด้วย อย่างไรซะก็เป็นหลานสาวของฉัน ฉันก็อยากเจอ และอยากให้คนในบ้านเจอด้วย”

เมื่อพูดถึงเซิ่งเสี่ยวซิง เซิ่งอันหรานกัดริมฝีปากแน่น “คงไม่ละค่ะ เด็กยังเล็กอยู่ ไม่สามารถฟังเรื่องซุบซิบของคนอื่นได้มากนัก รอให้โตกว่านี้อีกหน่อย ฉันจะพาเธอไปเยี่ยมคุณ”

พ่อเซิ่งขมวดคิ้ว ราวกับว่ายังอยากจะยื้อไว้ แต่สุดท้ายก็ถอนหายใจแล้วยอมแพ้

หลังจากออกจากร้านกาแฟ พ่อเซิ่งก็ขึ้นรถ และอดไม่ได้ที่จะไอออกมาอย่างรุนแรง เขาไอเป็นเวลานานโดยใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดปากไว้ เมื่อดึงออกมา ก็มีคราบเลือดติดออกมาอย่างมาก

“คุณผู้ชาย เป็นอะไรไหมครับ ?” คนขับรถมองกระจกหลัง แล้วถามด้วยความกังวล

พ่อเซิ่งโบกมือปัด และกำผ้าเช็ดหน้าแน่น “ไม่เป็นไร โรคคนแก่น่ะ ออกรถเถอะ”

——

ที่เซี่ยงไฮ้ อวี้หนานเฉิงเจรจาจนดึกดื่นถึงแยกย้าย หลังจากลับมาถึงโรงแรมเขาก็เอนกายลงบนโซฟา และเหลือบมองอาหารค่ำที่โรงแรมส่งมา จากนั้นเขาก็คิดถึงอาหารที่เซิ่งอันหรานทำ

“ประธานอวี้ คนที่ส่งไปเมืองกูซีเพิ่งโทรศัพท์มาหาผมครับ”

โจวฟังนำจานผลไม้ออกมา จากนั้นรินชาบนโต๊ะสองสามแก้ว แววตามีความสับสนเล็กน้อย “บอกว่าเหล่าหลู่ตายแล้ว”

อวี้หนานเฉิงขมวดคิ้ว “เกิดอะไรขึ้น ?”

“เพลิงไหม้ คืนก่อนที่พวกเราจะส่งคนไป ห้องทั้งห้องโดนเผาไม่เหลืออะไร แม้แต่คนก็กลายเป็นกระดูกครับ”

เมื่อพูดถึงตรงนี้ โจวฟังก็ถอนหายใจ

“เสี่ยวหลี่ส่งภาพเหตุการณ์มาให้ผม ไม่เพียงแต่บ้านของเหล่าหลู่ แต่เพื่อนบ้านทั้งสองข้างก็ถูกเพลิงไหม้ สองครอบครัวนี้มีใครอยู่ในบ้าน และเป็นเพราะว่าไม่มีคนอยู่ บ้านของเหล่าหลู่ถูกเพลิงไหม้จนถึงเช้าตรู่ถึงมีคนมาเจอ และตอนที่รถดับเพลิงมาดับไฟ ทุกอย่างก็ถูกเผาไปหมดแล้ว”

อวี้หนานเฉิงขมวดคิ้วลึกขึ้น “อะไรจะบังเอิญขนาดนี้ ?”

ในขณะที่เขาส่งคนไปสืบเรื่องการตั้งครรภ์ในตอนนั้น เหล่าหลู่ก็เกิดเรื่องขึ้นพอดี ? มีเรื่องบังเอิญแบบนี้ด้วยเหรอ ?

“คุณคิดว่ามีคนทำ ?” สีหน้าของโจวฟังเคร่งขรึมขึ้นมา “ไม่หรอกมั้ง นี่เป็นการฆาตกรรมนะ”

“คุณไม่เคยได้ยินเรื่องการฆาตกรรมเลยเหรอ ?”

อวี้หนานเฉิงเหลือบมองเขา “เรื่องนี้มันแปลกๆ รอให้เรื่องที่เซี่ยงไฮ้จบลงแล้ว คุณไปที่นั่นด้วยตัวเอง และตรววจสอบเหตุการณ์ก่อนและหลังเกิดเพลิงไหม้มาให้ผมอย่างละเอียด”

อย่างแรก ในตอนนั้นมีเพียงเหล่าหลู่ที่รู้เรื่องการตั้งครรภ์ เขาต้องการที่จะถาม อย่างที่สอง เหล่าหลู่ก็เป็นพ่อบ้านเก่าแก่ของตระกูลอวี้ เขาอยู่กับคุณปู่มาหลายปีแล้ว ถ้าหากมีอะไรผิดแปลกไปจริงๆ เขาก็ต้องรับผิดชอบในการสืบหาความจริง

“ครับ”

“แล้วก็เรื่องของเหล่าหลู่ ไม่ต้องบอกคุณปู่นะ”

“เข้าใจแล้วครับ”

อวี้หนานเฉิงพยักหน้า จากนั้นก็คิดเรื่องอื่น

“เรื่องของเส้าซือจัดการไปถึงไหนแล้ว ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน