“จัดการเสร็จแล้วครับ เขาเซ็นสัญญากับEnlightโดยตรงเลย สัญญาห้าปี ถ้าผิดสัญญา ค่าผิดสัญญาสามารถทำให้เขาล้มละลายได้”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ โจวฟังก็อยากจะหัวเราะ
เส้าซือคนนี้หลอกง่ายเกินไปแล้ว อวี้หนานเฉิงเพียงแค่ตี ก็สามารถจับเหยื่อได้ทันที ที่แท้ก็ยังอายุน้อยอยู่นี่เอง ถึงไม่รู้อารมณ์เจ้านายของพวกเขาเลย
“ผมอยากให้เขาผิดสัญญาไปทำไม ”? อวี้หนานเฉิงโต้กลับอย่างเงียบๆ “เก็บเขาไว้ช่วยทำให้เงินผมดีกว่า”
เมื่อได้ยินแบบนี้ โจวฟังก็ผงะไปครู่หนึ่ง หลังจากได้สติกลับมาเขาก็ยิ่งรู้สึกเห็นใจเส้าซือมากขึ้น
เจ้านายต้องการให้ลิ้มลองการโกรธจนทนไม่ได้ !
ลองคิดภาพคนที่คุณเกลียดมากคนหนึ่ง แต่คุณยังต้องทำงานใต้บังคับบัญชาของเขา ยังต้องหาเงินให้เขา ไม่สามารถหาเงินเลี้ยงตัวเองได้ และยังต้องเอาเงินที่หาได้มากกว่าครึ่งหนึ่งให้กับเขา แบบนี้มันจะเจ็บปวดขนาดไหนกันนะ?
——
วิลล่าตระกูลเซิ่ง
เซิ่งอันหรานจงใจเลือกตอนเที่ยงวันจันทร์กลับมาเอากุญแจ
เซิ่งอันหรานต้องไปทำงานที่บริษัท แม้ว่าอวี๋ซู่ซินแม่เลี้ยงของเธอจะเป็นคนไม่ดี แต่ภายนอกยังแสดงท่าทีสุภาพกับเธอได้ ไม่ได้ทำให้เธอลำบากใจ มาเอากุญแจแล้วจากไป น่าจะเป็นไปอย่างราบรื่น
“คุณหนูรอง”
เมื่อป้ากู้คนรับใช้เก่าแก่ของตระกูลเห็นเซิ่งอันหราน น้ำตาเธอแทบจะไหล “คุณหนูรอง คุณกลับมาได้อย่างไร ? หลายปีมานี้ คุณไปอยู่ที่ไหนมา ?”
ป้ากู้เป็นคนรับใช้ที่ติดตามแม่ของเซิ่งอันหรานมาตั้งแต่ยังเด็ก ตั้งแต่แม่เสียเธอได้อยู่ดูแลข้างกายเซิ่งอันหรานมาตลอด จากนั้นก็ตามเธอมาที่ตระกูลเซิ่ง
ดวงตาของเซิ่งอันหรานมีน้ำตาเล็กน้อย จับมือของป้ากู้ และพูดอย่างตะกุกตะกักว่า “กลับมาได้ระยะหนึ่งแล้วค่ะ แต่ไม่ได้กลับมาที่นี่เลย ทำให้ป้ากู้เป็นห่วงซะแล้ว”
“ฉันเป็นห่วงอะไรได้ คุณอยู่ข้างนอกยังไม่รู้เหรอว่าลำบากขนาดไหน ถ้าหากแม่ของคุณรู้ เกรงว่าฉันจะโดนตำหนิได้ว่าดูแลคุณได้ไม่ดี”
“ฉันสบายดีค่ะ อาสะใภ้กู้”
“อันหราน ?”
ขณะที่พูด เสียงผู้หญิงคนหนึ่งก็ดังขึ้นขัดจังหวะการสนทนาของทั้งสอง
อวี๋ซู่ซินยืนอยู่บนบันไดด้วยชุดกี่เพ้าสีเทาอมฟ้า ใบหน้าที่ได้รับการดูแลอย่างดี มองดูราวกับอายุสามสิบปี ที่ดูมีเสน่ห์ เมื่อเห็นเซิ่งอันหราน ใบหน้าของเธอตกตะลึง แต่ก็เปลี่ยนเป็นปกติอย่างรวดเร็ว เธอเดินลงบันได พลางพูดอย่างกระตือรือร้น
“อันหราน เธอกลับมาได้ยังไง ? ไม่บอกล่วงหน้าเลย ฉันจะได้ให้ห้องครัวเตรียมอาหารที่คุณชอบ”
เซิ่งอันหรานปล่อยมือจากป้ากู้ ฉันแค่กลับมาเอาของนิดหน่อยค่ะ ได้แล้วก็จะไป ไม่รบกวนอะไรหรอกค่ะ คุณป้า
หลายปีมานี้ เธอเรียกอวี๋ซู่ซินว่าคุณป้ามาตลอดไม่เคยเปลี่ยน
หลายปีก่อนเธอแอบได้ยินอวี๋ซู่ซินบ่นกับพ่อเซิ่ง ด้วยท่าทางที่เศ้ราโศกและพูดว่า เธอปฏิบัติดีต่อลูกสาวคนนี้ แต่เธอไม่เห็นค่าเลย แม้แต่คำพูดยังไม่เปลี่ยนเลย
แต่กลับถูกพ่อเซิ่งพูดว่า เดิมทีคุณก็ไม่ใช่แม่ของเธอ เธอเรียกคุณว่าคุณป้าก็สุภาพพอแล้ว เธอถูกตอกกลับ
ในตอนนั้นต่อหน้าพ่อเซิ่ง อวี๋ซู่ซินไม่กล้าพูดอะไร แต่หลังจากที่พ่อเซิ่งจากไป เธอก็ปาของทิ้งไม่น้อย คนรับใช้ที่อยู่ในห้องนอนก็ถูกด่า เธอพูดออกมาว่า ‘เดิมทีเธอก็ไม่ใช้ลูกสาวของฉัน ทำไมไม่บอกว่าฉันไม่ต้องทำดีกับเธอล่ะ ?
ต่อหน้าและลับหลังคนมีสองหน้า ผู้หญิงแบบนี้ เซิ่งอันหรานเคยเห็นมาก่อนตอนยังเด็ก เธอไม่เข้าใจว่าทำไมหลายปีมานี้พ่อของเธอถึงมองไม่ออก ตาบอดไปแล้วเหรอ ?
หลังจากทักทายกันไม่กี่ประโยค อวี๋ซู่ซินไม่ได้ห้ามเซิ่งอันหรานขึ้นไปข้างบน
ห้องของเธอยังคงเหมือนเดิม ไม่มีอะไรขยับ ตามความทรงจำแล้วเธอดึงลิ้นชักขวามือของโต๊ะหนังสือออก เซิ่งอันหรานขมวดคิ้ว กุญแจไม่ได้อยู่ที่นี่
หลังจากที่เธอได้รับของขวัญชิ้นนี้ในปีนั้น จำได้ว่าเธอวางกุญแจเอาไว้ตรงนี้ มีคนย้ายมันไป
“หาจอไหม ?”
เมื่อเห็นเซิ่งอันหรานลงมาชั้นล่าง อวี๋ซู่ซินก็ลุกขึ้นยืนจากโซฟา และถามด้วยใบหน้าที่อ่อนโยน
“ไม่ค่ะ ”เซิ่งอันหรานพูดอย่างตรงไปตรงมา “คุณป้า กุญแจบ้านของฉันไม่ได้อยู่ในลิ้นชัก มีคนมาย้ายของฉันเหรอคะ ?”
สีหน้าของอวี๋ซู่ซินหยุดนิ่ง “กุญแจบ้าน ? กุญแจบ้านอะไร ?”
“วิลล่าที่พ่อของฉันให้เมื่อหกปีก่อน จินสุ่ยย่วน”
“ฉันไม่รู้จริงๆ ”อวี๋ซู่ซินปฏิเสธอย่างเด็ดขาด ด้วยท่าทางที่ไร้เดียงสา “ฉันไม่เคยเข้าไปในห้องของคุณ ปกติแล้วป้ากู้จะเข้าไปทำความสะอาดให้คุณ และพ่อคุณเข้าไปนั่งบ้างบางครั้ง ทำไมไม่ลองไปถามพ่อคุณดูล่ะ”
“ค่ะ ฉันรู้แล้ว”
เซิ่งอันหรานก็ไม่ได้พูดอะไรกับเธอมากมาย และทำทีว่าจะจากไป
“อันหราน อยู่ทานข้าวกลางวันเถอะ”
อวี๋ซู่ซินพูดต่อว่า “ฉันให้แม่ครัวเตรียมอาหารแล้ว ทำปลาผัดเปรี้ยวหวานที่คุณชอบ”
เซิ่งอันหรานหันหลัง ทันใดนั้นก็รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย
“ถ้าหากว่าฉันอยู่ทานข้าว เกรงว่าคุณจะไม่มีโอกาสได้ทานอะไรเลย”
“อันหรานคุณกำลังพูดเรื่องอะไร ? ฉันจะ.........”
“ทำไมจะไม่ได้ล่ะ ?”เซิ่งอันหรานหันกลับมามองเธออย่างหนักแน่น “ที่นี่ไม่มีคนอื่น พ่อฉันก็ไม่อยู่บ้าน คุณไม่จำเป็นต้องเสแสร้งแล้ว พวกคุณแม่ลูกเป็นคนอย่างไร พ่อฉันมองไม่ออก แต่ฉันมองออกอย่างชัดเจน”
เมื่อพูดแบบนี้ เซิ่งอันหรานก็จากตระกูลเซิ่งไปโดยไม่หันกลับมามอง
อวี๋ซู่ซินเอนหลังพิงโซฟา สีหน้าเคร่งขรึมลง แววตาของเธอค่อยๆหันไปมองป้ากู้ที่ประตู
“ฉันถามหน่อย คุณพูดอะไรกับเธอไปบ้าง ?”
ป้ากู้แสดงท่าทีไม่แยแส ก้มศีรษะลง “ทั้งตอนเข้ามาและออกไปนับดูแล้วคุณหนูรองมาไม่ถึงสิบนาที ฉันจะไปพูดอะไรกับเธอได้คะ”
“ที่ฉันถามก็คือ เมื่อก่อน เมื่อก่อนคุณเคยพูดอะไรกับเธอไปบ้าง ?”
“เมื่อก่อน ?”
ป้ากู้เงยหน้าขึ้น สายตาของเธอเป็นประกาย อวี๋ซู่ซินตกใจจนตัวสั่น “เรื่องเมื่อก่อน คุณผู้หญิงคุณยังจำได้เหรอ ? ฉันคิดว่าคุณจะลืมไปแล้วซะอีก”
ทันทีที่พูดแบบนี้ มือของอวี๋ซู่ซินก็ไม่สามารถหยุดสั่นได้
ความหมายก็คือ เจ้าเด็กคนนั้น เธอรู้เรื่องทุกอย่างแล้ว ไม่แปลก ไม่แปลกใจเลยที่หลายปีมานี้เธอไม่กลับมาเลย !ไต่เต้าขึ้นไปหาอวี้หนานเฉิง และในวันนี้เธออยากจะทำอะไรอีก ?
อีกด้านหนึ่ง เซิ่งอันหรานเรียกแท็กซี่ออกจากวิลล่าตระกูลเซิ่ง ด้วยท่าทางที่ไม่สบายใจ
ในตอนนั้นแม่ของเธอคลอดก่อนกำหนด และเนื่องจากเลือดออกเยอะเกินไปไม่กี่วันเธอก็ตายไป จนกระทั่งเธอสอบเข้ามหาวิทยาลัยการแพทย์จินหลิงในปีนั้น ป้ากู้ถึงบอกความจริงกับเธอ
ถ้าไม่ใช่เพราะอวี๋ซู่ซินจงใจมายั่วยุ เธอจะคลอดก่อนกำหนดได้อย่างไร ?
ดังนั้นการตายของแม่ ต้องเกี่ยวข้องกับผู้หญิงสองหน้าคนนี้แน่นอน
หลังจากเรียนมหาวิทยาลัยมาสองปี และแม้ว่าจะเรียนอยู่ที่เมืองเดิม เธอก็แทบไม่ได้กลับบ้าน
เรื่องมันก็ผ่านมานานมากแล้ว จะไล่ตามก็ไม่มีประโยชน์ แต่ถ้าไม่ตาม เธอก็จะได้รับรู้ความรู้สึกเจ็บปวดของแม่เธอ ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เธอเพียงแค่เลือกที่จะไม่เผชิญหน้ากับคนหน้าซื่อใจคดของตระกูลเซิ่งพวกนี้
หลังจากขจัดเรื่องวุ่นวายในใจไปแล้ว เซิ่งอันหรานก็หยิบโทรศัพท์ออกมาอยากจะโทรหาพ่อ แต่ไม่รู้ทำไม ทันใดนั้นเธอก็คิดถึงท่าทางที่อวี๋ซู่ซินหลบสายตา และทันใดนั้นในหัวก็เหมือนจะคิดอะไรได้
“ลุงคะ ไม่ไปอวี้ย่วนแล้วค่ะ เปลี่ยนไปวิลล่าเขตจินสุ่ยย่วนแทนค่ะ”
ของเธอที่อยู่ห้องหนังสือไม่เปลี่ยน ราวกับมันเป็นคำสั่งของพ่อเธอ สองวันก่อนเพิ่งพูดกับพ่อเรื่องไปเอากุญแจ เขาไม่มีทางที่จะไปห้องของเธอและจงใจหยิบกุญแจไป ดังนั้นกุญแจหายไป มีเพียงแค่มันถูกย้ายไปเท่านั้น
บางครั้งเมื่อถึงตอนกลางคืนแล้วก็อยากแย่งเอาของคนอื่นไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน