ผูกรักท่านประธานพันล้าน นิยาย บท 84

“หา? ฉัน... ฉันไม่ไป"

เมื่อคิดถึงการออกทะเล สายตาของเซิ่งอันหรานสัมผัสได้ถึงความรู้สึกต่อต้าน เธอโบกมืออย่างรวดเร็วพร้อมกับพูดขึ้นว่า “ฉันไปไม่ได้”

ทันทีที่เซิ่งอันหรานพูดจบ เธอก็สัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างมาสะกิดที่แขนเสื้อ เซิ่งอันหรานก้มหน้าลงไปเห็นอวี้จิ่งซีกำลังจับที่แขนเสื้อของเธอด้วยท่าทางที่น่าสงสาร ใบหน้าของเขาเฝ้ารออย่างมีความหวัง อีกมือหนึ่งถือกระดาษโน้ตขึ้นมา ซึ่งก็ไม่รู้ว่าไปเขียนตั้งแต่เมื่อไหร่

“ผมอยากให้คุณไปด้วย”

เซิ่งอันหรานชะงักไปชั่วครู่ เธอยื่นมือออกไปลูบศีรษะของอวี้จิ่งซี และรู้สึกใจอ่อนขึ้นทันที

“ก็ได้ๆ ถ้าจะต้องไปล่ะก็ ฉันขอกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องก่อนนะ”

เป็นเพราะอวี้จิ่งซีไม่มีแม่ และอวี้หนานเฉิงก็ไม่ใช่พ่อที่ละเอียดรอบคอบสักเท่าไหร่ ก่อนหน้านี้ก็พาจิ่งซีไปเล่นตากแดดจนผิวไหม้ ถ้าไปทะเลล่ะจะเป็นยังไง? ยิ่งได้ยินว่าอวี้จิ่งซีว่ายน้ำไม่เป็นด้วย เธอจึงรู้สึกเป็นห่วง

“ได้สิ”อวี้หนานเฉิงตอบด้วยสีหน้าที่สงบนิ่ง แต่อันที่จริงแล้วในใจของเขารู้สึกมีความสุขอย่างอธิบายไม่ถูก

ตั้งแต่เช้าตรู่ เห็นเธออยู่ที่ทางเข้าของร้านกาแฟทานกาแฟคนเดียว พอไปถาม หัวหน้าทีมงานการถ่ายทำรายการ จึงรู้ว่าเส้าซือพาเสี่ยวซิงออกไปข้างนอกแล้ว พอรู้อย่างนี้แล้วมันทำให้อวี้หนานเฉิงอารมณ์ดีตั้งแต่เช้า

ถ้าจะต้องไปเที่ยวตามเกาะจะต้องนั่งเรือสปีดโบ๊ทไป หลังจากที่สวมเสื้อชูชีพเสร็จ เซิ่งอันหราน ก็รู้สึกเวียนหัวเล็กน้อย เธอพยายามกัดฟันทน จากนั้นก็ย่อตัวลงนั่งและพยายามไม่มองลงไปในน้ำ

“คนขับค่ะ ขับเรือช้าๆหน่อยนะคะ”

เสียงของเธอสั่นเล็กน้อย และแม้แต่อวี้หนานเฉิงฟังแล้วก็ยังรู้สึกว่ามันดูแปลก ๆ

"คุณโอเคไหม?"

“ฉันไม่เป็นไร” เธอยิ้มอย่างฝืนๆ เมาเรือขนาดนี้แล้ว เซิ่งอันหรานก็ยังไม่ลืมที่จะกำชับอวี้หนานเฉิง “รัดให้จิ่งซีแน่นๆด้วย เพราะถ้าลมแรง หมวกอาจจะปลิวได้”

อวี้หนานเฉิงพยักหน้า จากนั้นก็ช่วยอวี้จิ่งซีปรับหมวกให้แน่นขึ้น อวี้หนานเฉิงเหลือบมองไปเห็นเซิ่งอันหรานพยายามติดกระดุมของหมวกกันแดดอยู่เป็นเวลานาน อีกทั้งมือของเธอก็สั่นอยู่ตลอด

“คุณโอเคจริงๆ ใช่ไหม?”

อวี้หนานเฉิงขมวดคิ้ว “ถ้าหากว่าคุณรู้สึกไม่สบายล่ะก็ เราไม่ไปก็ได้”

"ไม่เป็นไร ฉันโอเค เรือมันแกว่งไปหน่อย ฉันเลยติดมันไม่ค่อยถนัด"

อวี้หนานเฉิงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะโน้มตัวลงและจับมือของเซิ่งอันหราน "มา เดี๋ยวผมช่วย"

หลังมือของเธอถูกห่อหุ้มด้วยความอบอุ่นจากมือของเขา เธอก็ตกตะลึงไปชั่วครู่ ราวกับว่าในขณะนั้น เธอลืมความรู้สึกเมาเรือของเธอไปเลย เซิ่งอันหรานมองอวี้หนานเฉิงที่กำลังช่วยติดกระดุมหมวกกันแดดให้กับเธอ , จู่ๆตรงกรามเล็กๆของเธอก็รู้สึกชาๆ และรู้สึกว่าหายใจไม่สะดวกไปพักหนึ่ง

“เสร็จแล้ว”

น้ำเสียงทุ้มต่ำดังก้องในหูของเซิ่งอันหราน ทำให้เธอได้สติกลับมา เธอรีบเคลื่อนสายตาออกไปด้านข้าง "เอ่อ ขอบคุณค่ะ ขอบคุณ"

"ไม่เป็นไร"

อวี้หนานเฉิงจ้องไปที่เธอ "คุณร้อนเหรอ?"

"เปล่าค่ะ ฉันโอเค"

“แล้วทำไมหน้าถึงได้แดงล่ะ?”

"อะไรนะ?"

เซิ่งอันหรานรีบยกมือขึ้นมาปิดแก้มของตัวเอง และพูดตอบอย่างติดๆขัดๆไปว่า “ไม่ ไม่หรอกมั่ง บางที บางทีอาจจะเป็นเพราะแดดมันร้อนเกินไป”

เซิ่งอันหรานพูดพลางชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้า “แดดแรงจริงๆ คุณอย่าลืมติดกระดุมเสื้อกันแดดให้จิ่งซีด้วยล่ะ ”

อวี้หนานเฉิงหรี่ตาลงเล็กน้อย เขามีความรู้สึกแปลกๆ แต่ก็ไม่สามารถอธิบายถึงการกระทำเมื่อกี้ของเธอได้

อวี้จิ่งซีรู้สึกแปลกใจกับทุกอย่าง ชี้ไปทางนู้นที ทางนั้นที และถามไม่หยุด

เซิ่งอันหรานช่วยอธิบายและตอบคำถามจิ่งซีด้วยความอดทน แต่ก็มีบางสิ่งที่เธอไม่เข้าใจและไม่สามารถอธิบาย อย่างเช่นตอนที่จิ่งซีถามเกี่ยวกับอุปกรณ์และกลไกบนเรือ โดยพื้นฐานแล้วเธอไม่รู้อะไรเกี่ยวกับมันเลย ซึ่งเรื่องนี้อวี้หนานเฉิงจะเป็นคนคอยอธิบายและตอบคำถามให้

“ประธานอวี้ มีใครเคยบอกคุณไหมว่า ตอนที่คุณอยู่บนเรือคุณดูเป็นมืออาชีพมากๆเลย”

ตอนแรกอวี้หนานเฉิงคิดว่านี่เป็นคำชม แต่ใครจะรู้ว่าประโยคต่อไปที่ตามมาก็คือ "ถ้าไม่รู้จักคุณมาก่อน ฉันคงคิดว่าคุณทำงานอยู่ในอู่ต่อเรือ"

อวี้หนานเฉิงแสยะยิ้มอย่างฝืนๆ

เขาไม่รู้ว่าจะพูดอะไรกับเธอต่อไปดี วันนี้ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ดูเหมือนว่าเขาจะไม่มีการตอบโต้กับเซิ่งอันหรานเลย มันทำให้เซิ่งอันหรานดูอารมณ์ดีขึ้นมาก แม้แต่ความรู้สึกเมาเรือก็ดูเหมือนว่าจะค่อยๆจางหายไป จู่ๆเธอก็นึกอะไรขึ้นมาได้

"เอ่อ ว่าแต่ ทำไมจู่ๆถึงพาจิ่งซีมาที่มัลดีฟส์ล่ะ? เพราะก่อนหน้านี้จิ่งซีก็ไม่ได้บอกอะไรกับฉัน เพราะถ้ารู้ว่าจะมาที่นี่ น่าจะมาด้วยกันดีกว่า "

"จิ่งซีอยากมา"อวี้หนานเฉิงกล่าวด้วยสีหน้าที่นิ่งสงบ

อวี้จิ่งซีจ้องไปที่คุณพ่อของเขา จากนั้นก็เขียนลงบนกระดานวาดภาพขนาดเล็กที่เขาพกติดตัวมาว่า "คุณพ่ออยากจะทำให้คุณประหลาดใจ"

เมื่อเห็นคำพูดประโยคนี้ หัวใจของเซิ่งอันหรานก็เต้นแรงขึ้น เธอหันมองไปที่อวี้หนานเฉิงโดยไม่รู้ตัว และเขาก็กำลังมองมาที่เธออยู่เช่นกัน ทั้งคู่สบตา บรรยากาศรอบๆตัวราวกับว่าหยุดนิ่งไปชั่วขณะ

เซิ่งอันหรานคิดว่าการที่อวี้หนานเฉิงดูแลและดีกับเธอนั่นเป็นเพราะว่าเธอสามารถเข้ากับจิ่งซีได้ดี หากคืนนั้นไม่ใช่เพราะในคืนนั้นดื่มสุราจนหมดสติ ก็คงไม่เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดแบบนั้น เธอทำทุกอย่างเพื่อที่จะให้ลืมเรื่องนั้นไป และเธอก็ไม่เคยคิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขา นั้นมันจะเป็นเรื่องที่เป็นไปได้

แม้ว่าเธอจะเคยคิด แต่มันก็เป็นเหมือนกับเปลวไฟที่มอดดับลงอย่างรวดเร็ว เพราะอวี้หนานเฉิงมีคู่หมั้นอยู่แล้ว แล้วแบบนี้มันจะเป็นไปได้อย่างไร?

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เซิ่งอันหรานก็รีบหลบสายตาของอวี้หนานเฉิงในทันที เธอจงใจยิ้มอย่างฝืนๆ

“เด็กตัวแค่นี้ รู้จักพูดเอาใจคนนะเรา”

อวี้จิ่งซีมองไปที่อวี้หนานเฉิง เขาหวังว่าคุณพ่อจะพูดอะไรออกมาบ้าง แต่อวี้หนานเฉิงกลับเมินและไม่เข้าใจความหมายที่ส่งผ่านดวงตาของเด็กน้อย เขาเคลื่อนสายตาไปมองเกาะเล็กๆน้อยๆที่อยู่ทางด้านข้าง

ตอนนี้อวี้จิ่งซีรู้สึกโมโหมาก เขาก้มหน้าลงและเขียนบนกระดานวาดภาพอย่างรวดเร็ว “ที่คุณบอกว่าผมพูดเพื่อให้คุณมีความสุข นั่นหมายความว่าสิ่งที่คุณพ่อของผมอยากทำให้คุณประหลาดใจ มันทำให้คุณมีความสุขจริง! ใช่ไหม?”

เมื่อเซิ่งอันหรานเห็นคำพูดประโยคแบบนี้อีกครั้ง เธอถึงกับชะงัก จิ่งซีน้อยถามจี้ได้ตรงจุดจริงๆ

เธอปฏิเสธไม่ได้ว่า ในตอนที่เธอเห็นอวี้หนานเฉิงและอวี้จิ่งซีสองพ่อลูกปรากฏตัว เซิ่งอันหรานดีใจและมีความสุขมาก แม้กระทั่งตอนที่เธอเห็นเงาของคนที่ระเบียงเมื่อคืนนี้ เธอยังคิดว่าตัวเองตาฝาดไป แต่ตอนนี้เธอก็รู้สึกมีความสุขเช่นกัน

เมื่อเห็นเธอกำลังครุ่นคิดอย่างตั้งใจ อวี้หนานเฉิงก็มีคำถามที่ต้องการจะถามเธอ แต่จู่ๆเรือก็เกิดโคลงเคลงอย่างรุนแรง

เซิ่งอันหรานกรีดร้อง เธอไถลไปทางด้านหน้า แต่โชคดีที่อวี้หนานเฉิงตาไวคว้าขาของเธอได้เสียก่อนที่เธอจะล้มลง เรือโคลงเคลงอีกครั้ง

ใบหน้าของอวี้หนานเฉิงดูตึงเครียด เขาพยายามจับเธอไว้ จากนั้นก็ดึงตัวเธอเข้ามาอยู่ในอ้อมแขน อวี้หนานเฉิงตะโกนถามคนขับเรือว่า "เกิดอะไรขึ้น?"

แก้มของเซิ่งอันหรานกระแทกเข้ากับเสื้อชูชีพที่อยู่ตรงหน้าอกของอวี้หนานเฉิง ทำให้เธอรู้สึกเจ็บมาก แต่ทว่าเซิ่งอันหรานก็ไม่ได้แสดงอาการอะไร และวิวทิวทัศน์ทางด้านข้างมันหมุดไปอย่างรวดเร็ว เซิ่งอันหรานรู้สึกเวียนศีรษะและมีอาการมวนท้องเป็นพักๆ

เสียงของชายคนขับเรือดังขึ้นมาจากทางหัวเรือด้วยความรีบร้อนว่า

“คุณผู้ชาย มีคลื่นมา เราขับไปไม่ได้ไกลแล้ว และดูเหมือนว่าข้างนอกฝนกำลังจะตก ตอนนี้พวกเราขึ้นเกาะ หรือจะกลับกันดี?”

อวี้หนานเฉิงมองไปที่เซิ่งอันหรานที่กำลังดูเหมือนว่าจะเป็นลมอยู่ในอ้อมแขนของเขาแล้ว ทันใดนั้นใบหน้าของเขาก็ดูเคร่งขรึมขึ้น

เห็นได้ชัดว่าผู้หญิงคนนี้เมาเรือ ตอนที่มาก็รู้สึกว่าเธอมีบางอย่างผิดปกติ แล้วเธอยังจะดื้อรั้นอีก โดนคลื่นแค่ไม่กี่ลูกก็กลายเป็นแบบนี้ซะแล้ว แล้วจะไปขึ้นเกาะที่ไหนได้อีกล่ะ?

“กลับเรือ?”

หลังจากที่อวี้หนานเฉิงออกคำสั่งเสร็จ เขาก็เหลือบมองไปที่จิ่งซี "จิ่งซี นั่งคนเดียวได้ไหม?"

อวี้จิ่งซีพยักหน้าอย่างเอาจริงเอาจัง มือข้างหนึ่งจับมืออวี้จิ่งซีไว้ ส่วนมืออีกข้างก็โอบเซิ่งอันหรานไว้ในอ้อมแขนของเขา

ท้องฟ้าเริ่มค่อยๆเปลี่ยนสีในพริบตา และเม็ดฝนขนาดใหญ่ก็ตกกระทบลงบนเรืออย่างรวดเร็ว บนเรือไม่มีของที่สามารถนำมากันฝนได้ ทำให้ทุกคนที่อยู่บนเรือเปียกโชกอย่างรวดเร็ว

อวี้หนานเฉิงขมวดคิ้ว ทันใดนั้นก็มีเสียงคร่ำครวญดังออกมาจากในอ้อมแขนของเขา

“คุณตา อย่าไปนะ อย่าไป...”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน