“หนูไม่ไป หนูไม่อยากไปบ้านหลังนั้น...”
เสียงละเมอจากความฝันดังสะท้อนออกมาจากในอ้อมอกเป็นระยะๆ ท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก ใบหน้าที่เคร่งขรึมของอวี้หนานเฉิงเต็มไปด้วยร่องรอยแห่งความสงสาร
ตอนที่คุณพ่อของเขาเสียชีวิต ตอนนั้นเขาเพิ่งมีอายุเพียง 13 ปีเท่านั้น แม่ก็ไม่อยู่ มีเพียงแค่คุณปู่เป็นคนเลี้ยงดูเขามา จนกระทั่งถึงทุกวันนี้ คุณปู่ยังแข็งแรงดี และมักเป็นคู่ปรับค่อยต่อต้านเขาอยู่เสมอ
แต่เซิ่งอันหรานกลับแตกต่างออกไป เพราะตอนที่เธอเกิดมาคุณแม่ก็ไม่อยู่แล้ว แม้ว่าคุณพ่อจะยังมีชีวิตอยู่ แต่ก็มีครอบครัวใหม่ไปแล้ว เธออาศัยอยู่กับคุณตาของเธออยู่หลายปี เมื่อคุณตาจากไปอย่างกะทันหัน เธอก็ถูกคุณพ่อพาตัวกลับไปที่บ้านตระกูลเซิ่ง ไม่ว่าจะดูยังไงตำแหน่งหรือฐานะที่เธอยืนมันก็ทำให้เธอรู้สึกแปลกๆ จากคนที่เคยเป็นเจ้าของบ้าน ต้องกลายมาเป็นเพียงคนนอก
เกาจ้านเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวของอวี้หนานเฉิงมาตั้งแต่เด็กและคอยให้คำแนะนำกับเขาอยู่เสมอ ถ้าย้อนกลับไปในมุมมองของเขาแล้ว สภาพแวดล้อมอันเลวร้ายที่เขาเคยหวาดระแวงมันเกิดจากคน แต่กับเซิ่งอันหรานนั้น เธอเติบโตมาในสภาพแวดล้อมที่เลวร้าย มันดูน่าหวาดกลัวกว่าสิ่งที่เขาเคยเจอมา
แม้ว่าเธอจะใช้ชีวิตอย่างอิสระ ไม่ต้องการเป็นคุณหนูรองของบ้านตระกูลเซิ่ง และมาทำงานในฐานะผู้จัดการโรงแรม
ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าตัวเองได้พิจารณาเธออย่างละเอียดถี่ถ้วนดีแล้ว เธอเป็นคนที่ตั้งใจทำงาน แต่การในแง่ของการใช้ชีวิตเธอเป็นเพียงแค่หญิงธรรมดาๆคนหนึ่งเท่านั้น หลังจากที่รู้จักกันมานาน เขาถึงได้รู้ว่า มีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่เขายังไม่เข้าใจในตัวเธอ
ในขณะที่ฝนเริ่มตกแรงขึ้น อวี้หนานเฉิงขมวดคิ้ว เขามองดูทะเลหมอกที่อยู่รอบๆตัว และถามคนขับเรือขึ้นว่า
“อีกไกลแค่ไหนจึงจะถึงฝั่ง?”
“อีกไม่นาน ใกล้จะถึงแล้ว อย่าเพิ่งกังวลไป ที่นี่ปกติแล้วฝนจะตกประมาณห้าถึงสิบนาที เดี๋ยวก็หยุดแล้ว ”
คนขับเรืออธิบายพร้อมกับบังคับเรือ เขาใช้ความเร็วสูงสุดในการบังคับเรือกลับเข้าฝั่ง
ครึ่งชั่วโมงต่อมา อวี้หนานเฉิงพาทั้งสองคนกลับไปที่โรงแรม ทางด้านนอกยังคงมีฝนตกหนักอยู่ สถานีตรวจอากาศประกาศเตือนภัยพายุฝนชั่วคราว เรือหาปลาในทะเลทั้งหมดต้องถูกอพยพเข้าฝั่งโดยด่วน มีเรือเล็กหลายลำพลิกคว่ำลงทะเล และทีมกู้ภัยก็ได้ออกไปทำการช่วยเหลือแล้ว
“ประธานอวี้ นี่คือ...”
ในโรงแรมมีผู้ดูแลและรับผิดชอบรายการอยู่หลายคน ซึ่งพวกเขากำลังนั่งรอข่าวของเส้าซืออยู่ที่ล็อบบี้ เมื่อเห็นอวี้หนานเฉิงกลับมาพร้อมเซิ่งอันหรานพวกเขาจึงรู้สึกตกใจ
"ตามหมอมาหน่อย"
อวี้หนานเฉิงดูรีบร้อน เขาพูดทิ้งท้ายประโยคอย่างกระชับ ท่ามกลางความตะลึงงันของผู้รับผิดชอบรายการ จากนั้นตัวเองก็อุ้มเซิ่งอันหรานขึ้นไปที่ชั้นบน
“เธอแค่เมาเรือ ตอนนี้ไม่ได้อยู่บนเรือแล้ว ไม่จำเป็นต้องทานยา แต่อาจจะเป็นเพราะตากฝนมา จึงทำให้มีไข้เล็กน้อย แค่ทานยาลดไข้แล้วนอนพักผ่อนมากๆก็จะดีขึ้นเอง"
หลังจากที่แพทย์วินิจฉัยแล้วว่าไม่มีอันตรายร้ายแรง ผู้รับผิดชอบรายการก็พาคุณหมอออกไปจากห้องผู้ป่วย
อวี้หนานเฉิงก็เดินตามพวกเขาออกไปด้วยเช่นกัน
หลังจากที่ส่งคุณหมอกลับไปแล้ว ผู้รับผิดชอบรายการก็เดินกลับมา แต่ทันทีที่เขาเห็นอวี้หนานเฉิง เขาก็ชะงักไปครู่หนึ่ง “ประธานอวี้”
อวี้หนานเฉิงพยักหน้า
“คืนนี้หาคนมาดูแลเธอด้วย”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ผู้รับผิดชอบรายการก็แสดงสีหน้าลำบากใจขึ้นมาในทันที
“ประธานอวี้ คุณไม่ทราบหรือว่า ที่นี่ไม่ได้มีฝนตกหนักแบบนี้มาหลายปีแล้ว มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นมากมาย สถานพยาบาลเดิมบนเกาะก็มีไม่เพียงพอ และยังได้ยินมาว่าเรือสำราญท่องเที่ยวลำหนึ่งเกิดพลิกคว่ำ มีคนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก ขณะนี้โรงพยาบาลขาดแคลนเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์และพยาบาล ส่วนจะให้หาคนมาดูแลก็ทำได้ยากมากเช่นกัน"
เมื่อได้ยินเช่นนี้ อวี้หนานเฉิงก็หรี่ตาลงเล็กน้อย “เรือสำราญพลิกคว่ำ?"
เซิ่งเสี่ยวซิงยังไม่ได้กลับมา จู่ๆเขาก็นึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาได้
ผู้รับผิดชอบรายการคิดว่าอวี้หนานเฉินกังวลว่าเส้าซือจะเกิดอุบัติเหตุ ดังนั้นเขาจึงรีบอธิบาย
“ไม่ต้องห่วง ไม่ใช่เรือที่เส้าซือนั่งไป เส้าซือกับเสี่ยวซิงซิงเดินทางไปถึงที่เกาะจุดหมายอย่างปลอดภัย เพียงแค่ตอนนี้พวกเขายังไม่สามารถเดินทางกลับมาได้ พวกเขาเพิ่งจะบอกกับเราว่าพวกเขาปลอดภัยดี”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน