ผูกรักท่านประธานพันล้าน นิยาย บท 85

“หนูไม่ไป หนูไม่อยากไปบ้านหลังนั้น...”

เสียงละเมอจากความฝันดังสะท้อนออกมาจากในอ้อมอกเป็นระยะๆ ท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก ใบหน้าที่เคร่งขรึมของอวี้หนานเฉิงเต็มไปด้วยร่องรอยแห่งความสงสาร

ตอนที่คุณพ่อของเขาเสียชีวิต ตอนนั้นเขาเพิ่งมีอายุเพียง 13 ปีเท่านั้น แม่ก็ไม่อยู่ มีเพียงแค่คุณปู่เป็นคนเลี้ยงดูเขามา จนกระทั่งถึงทุกวันนี้ คุณปู่ยังแข็งแรงดี และมักเป็นคู่ปรับค่อยต่อต้านเขาอยู่เสมอ

แต่เซิ่งอันหรานกลับแตกต่างออกไป เพราะตอนที่เธอเกิดมาคุณแม่ก็ไม่อยู่แล้ว แม้ว่าคุณพ่อจะยังมีชีวิตอยู่ แต่ก็มีครอบครัวใหม่ไปแล้ว เธออาศัยอยู่กับคุณตาของเธออยู่หลายปี เมื่อคุณตาจากไปอย่างกะทันหัน เธอก็ถูกคุณพ่อพาตัวกลับไปที่บ้านตระกูลเซิ่ง ไม่ว่าจะดูยังไงตำแหน่งหรือฐานะที่เธอยืนมันก็ทำให้เธอรู้สึกแปลกๆ จากคนที่เคยเป็นเจ้าของบ้าน ต้องกลายมาเป็นเพียงคนนอก

เกาจ้านเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวของอวี้หนานเฉิงมาตั้งแต่เด็กและคอยให้คำแนะนำกับเขาอยู่เสมอ ถ้าย้อนกลับไปในมุมมองของเขาแล้ว สภาพแวดล้อมอันเลวร้ายที่เขาเคยหวาดระแวงมันเกิดจากคน แต่กับเซิ่งอันหรานนั้น เธอเติบโตมาในสภาพแวดล้อมที่เลวร้าย มันดูน่าหวาดกลัวกว่าสิ่งที่เขาเคยเจอมา

แม้ว่าเธอจะใช้ชีวิตอย่างอิสระ ไม่ต้องการเป็นคุณหนูรองของบ้านตระกูลเซิ่ง และมาทำงานในฐานะผู้จัดการโรงแรม

ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าตัวเองได้พิจารณาเธออย่างละเอียดถี่ถ้วนดีแล้ว เธอเป็นคนที่ตั้งใจทำงาน แต่การในแง่ของการใช้ชีวิตเธอเป็นเพียงแค่หญิงธรรมดาๆคนหนึ่งเท่านั้น หลังจากที่รู้จักกันมานาน เขาถึงได้รู้ว่า มีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่เขายังไม่เข้าใจในตัวเธอ

ในขณะที่ฝนเริ่มตกแรงขึ้น อวี้หนานเฉิงขมวดคิ้ว เขามองดูทะเลหมอกที่อยู่รอบๆตัว และถามคนขับเรือขึ้นว่า

“อีกไกลแค่ไหนจึงจะถึงฝั่ง?”

“อีกไม่นาน ใกล้จะถึงแล้ว อย่าเพิ่งกังวลไป ที่นี่ปกติแล้วฝนจะตกประมาณห้าถึงสิบนาที เดี๋ยวก็หยุดแล้ว ”

คนขับเรืออธิบายพร้อมกับบังคับเรือ เขาใช้ความเร็วสูงสุดในการบังคับเรือกลับเข้าฝั่ง

ครึ่งชั่วโมงต่อมา อวี้หนานเฉิงพาทั้งสองคนกลับไปที่โรงแรม ทางด้านนอกยังคงมีฝนตกหนักอยู่ สถานีตรวจอากาศประกาศเตือนภัยพายุฝนชั่วคราว เรือหาปลาในทะเลทั้งหมดต้องถูกอพยพเข้าฝั่งโดยด่วน มีเรือเล็กหลายลำพลิกคว่ำลงทะเล และทีมกู้ภัยก็ได้ออกไปทำการช่วยเหลือแล้ว

“ประธานอวี้ นี่คือ...”

ในโรงแรมมีผู้ดูแลและรับผิดชอบรายการอยู่หลายคน ซึ่งพวกเขากำลังนั่งรอข่าวของเส้าซืออยู่ที่ล็อบบี้ เมื่อเห็นอวี้หนานเฉิงกลับมาพร้อมเซิ่งอันหรานพวกเขาจึงรู้สึกตกใจ

"ตามหมอมาหน่อย"

อวี้หนานเฉิงดูรีบร้อน เขาพูดทิ้งท้ายประโยคอย่างกระชับ ท่ามกลางความตะลึงงันของผู้รับผิดชอบรายการ จากนั้นตัวเองก็อุ้มเซิ่งอันหรานขึ้นไปที่ชั้นบน

“เธอแค่เมาเรือ ตอนนี้ไม่ได้อยู่บนเรือแล้ว ไม่จำเป็นต้องทานยา แต่อาจจะเป็นเพราะตากฝนมา จึงทำให้มีไข้เล็กน้อย แค่ทานยาลดไข้แล้วนอนพักผ่อนมากๆก็จะดีขึ้นเอง"

หลังจากที่แพทย์วินิจฉัยแล้วว่าไม่มีอันตรายร้ายแรง ผู้รับผิดชอบรายการก็พาคุณหมอออกไปจากห้องผู้ป่วย

อวี้หนานเฉิงก็เดินตามพวกเขาออกไปด้วยเช่นกัน

หลังจากที่ส่งคุณหมอกลับไปแล้ว ผู้รับผิดชอบรายการก็เดินกลับมา แต่ทันทีที่เขาเห็นอวี้หนานเฉิง เขาก็ชะงักไปครู่หนึ่ง “ประธานอวี้”

อวี้หนานเฉิงพยักหน้า

“คืนนี้หาคนมาดูแลเธอด้วย”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ผู้รับผิดชอบรายการก็แสดงสีหน้าลำบากใจขึ้นมาในทันที

“ประธานอวี้ คุณไม่ทราบหรือว่า ที่นี่ไม่ได้มีฝนตกหนักแบบนี้มาหลายปีแล้ว มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นมากมาย สถานพยาบาลเดิมบนเกาะก็มีไม่เพียงพอ และยังได้ยินมาว่าเรือสำราญท่องเที่ยวลำหนึ่งเกิดพลิกคว่ำ มีคนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก ขณะนี้โรงพยาบาลขาดแคลนเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์และพยาบาล ส่วนจะให้หาคนมาดูแลก็ทำได้ยากมากเช่นกัน"

เมื่อได้ยินเช่นนี้ อวี้หนานเฉิงก็หรี่ตาลงเล็กน้อย “เรือสำราญพลิกคว่ำ?"

เซิ่งเสี่ยวซิงยังไม่ได้กลับมา จู่ๆเขาก็นึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาได้

ผู้รับผิดชอบรายการคิดว่าอวี้หนานเฉินกังวลว่าเส้าซือจะเกิดอุบัติเหตุ ดังนั้นเขาจึงรีบอธิบาย

“ไม่ต้องห่วง ไม่ใช่เรือที่เส้าซือนั่งไป เส้าซือกับเสี่ยวซิงซิงเดินทางไปถึงที่เกาะจุดหมายอย่างปลอดภัย เพียงแค่ตอนนี้พวกเขายังไม่สามารถเดินทางกลับมาได้ พวกเขาเพิ่งจะบอกกับเราว่าพวกเขาปลอดภัยดี”

สีหน้าของอวี้หนานเฉิงดูผ่อนคลายขึ้น

“แล้วเรื่องหาผู้ดูแลล่ะ” ผู้รับผิดชอบรายการถามขึ้นด้วยความกังวล

"เรื่องนั้น ช่างมันเถอะ"

อวี้หนานเฉิงโบกมือไปมาและเดินกลับไปที่ห้องผู้ป่วย

ใบหน้าของหญิงสาวผู้นอนอยู่บนเตียงซึ่งปูด้วยผ้าปูที่นอนสีฟ้าขุ่นดูซีดเซียวลงเรื่อยๆ ก่อนที่เธอจะหมดสติไปเธอไม่ได้เป็นแบบนี้ อวี้หนานเฉิงนั่งลงตรงขอบเตียงและค่อยๆมองหน้าเธอ เขานึกถึงครั้งนั้นที่พบเธอในลิฟต์ เธอพูดอย่างไม่ละอายว่าเขาเป็นแฟนหนุ่มของเธอ สายตาของอวี้หนานเฉิงค่อยๆดูอบอุ่นและอ่อนโยนขึ้น

ผู้หญิงคนนี้บทจะเอาจริงก็ดูน่าเกรงขาม แต่พออ่อนแอลงก็ทำให้คนที่เห็นรู้สึกใจอ่อนได้

เขาค่อยๆโน้มตัวลงไปและพยายามมองดูใบหน้าของเธออย่างระมัดระวัง แต่ปรากฏว่ายิ่งเขาเข้าไปใกล้เธอมากเท่าไหร่ เขากลับควบคุมตัวเองไม่ได้ อวี้หนานเฉิงค่อยๆจูบลงบนริมฝีปากของเซิ่งอันหราน

ด้านนอกหน้าต่างยังคงมีฝนตกหนัก ผ้าม่านปลิวไปตามสายลม เม็ดฝนโปรยปรายลงมา เงาของชายร่างสูงก้มลงจูบหญิงสาวที่กำลังนอนหลับหมดสติสะท้อนอยู่บนกำแพง

เซิ่งอันหรานรู้สึกหน่วงๆที่หัว ราวกับว่าเธอจมลงไปในน้ำ เธอค่อยๆจมลงไปเรื่อยๆ เธอยังรู้สึกราวกับว่ามีใครคอยห่มผ้าให้กับเธอ คอยเปลี่ยนผ้าเย็นๆมาวางไว้บนหน้าผากเพื่อลดไข้ให้กับเธอ

เธอรู้ว่ามีคนอยู่ข้างๆ แต่เธอก็ยังอดไม่ได้ที่จะฝันถึงเรื่องเมื่อหลายปีก่อน

ตอนนั้นคุณตาเกิดหัวใจล้มเหลวและกำลังเสียชีวิต เธอปีนขึ้นไปบนเตียงของโรงพยาบาล ตอนนั้นเธอยังเด็กมาก มือที่เหี่ยวเฉาราวกับกิ่งไม้ของคุณตากุมมือเธอไว้แน่น ดวงตาของท่านเต็มไปด้วยความกังวล แถมยังพูดเตือนสติเธอถึงสามครั้ง

“หรานหราน ถ้ากลับบ้านไปจะต้องเป็นเด็กดี ต้องเชื่อฟัง แต่ก็อย่าไปยอมคนอื่นในทุกๆเรื่อง ในใจของคุณพ่อยังมีหนูอยู่ ถ้ามีเรื่องอะไรให้รีบบอกท่าน เพราะยังไงท่านก็จะต้องช่วยหนู"

“คุณตา หนูไม่อยากไป หนูจะเชื่อฟัง หนูจะไม่กินลูกอมเยอะๆอีกแล้ว ”

เธอเหมือนเป็นคนที่กำลังยืนดูเหตุการณ์ เซิ่งอันหรานได้ยินเด็กสาวผมเปียสองข้างกำลังร้องไห้ด้วยความโศกเศร้า ดูเหมือนว่าเด็กคนนั้นจะไม่เข้าใจคุณตาของเธอในตอนที่ท่านจะต้องจากไป เด็กน้อยคิดว่าคุณตาไม่ต้องการเธอแล้ว และต้องการส่งเธอไปอยู่ที่อื่น

จู่ๆก็เกิดเสียงเอะอะขึ้นในโรงพยาบาล มีผู้ชายและผู้หญิงสามถึงสี่คนบุกเข้ามาในห้องผู้ป่วย ผู้หญิงอ้วนคนนั้นแต่งกายด้วยเสื้อโค้ตสีม่วงดูหรูหรา เธอตะคอกใส่เซิ่งอันหรานน้อย

“นังตัวซวย ตอนแกเกิดมาก็ทำให้แม่ของตัวเองต้องตาย พอโตขึ้นมาหน่อยอายุยังไม่ทันเท่าไหร่ก็ทำให้คุณตาต้องมาตายอีกคน ยังมีหน้ามาอยู่ที่นี่อีก แกไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้วใช่ไหม ?รีบส่งมันกลับไปหาพ่อของมันโน่น เห็นแล้วมันรู้สึกขยะแขยง”

“หนูไม่ไป คุณตา คุณตา...”

เซิ่งอันหรานถูกผู้ใหญ่สองคนลากออกจากห้องผู้ป่วย ก่อนที่เธอจะถูกลากออกไป อันหรานน้อย หันกลับมามองดูคุณตาของเธอ ชายชราที่นอนอยู่บนเตียงจ้องมองหลานสาวตัวน้อยถูกลากออกไป โดยที่ตัวเองไม่สามารถช่วยหรือพูดอะไรได้ สาวน้อยร้องไห้ด้วยความเศร้าโศกเสียใจ จนในที่สุดมือที่เหี่ยวเฉาของชายชราก็ค่อยๆร่วงหล่นลงมาที่ข้างเตียง

“แม่เจ้า นังหนูนี่มันตัวซวยจริงๆ?”

“ดวงแกร่งตั้งแต่เกิด ก็คือนังหนูคนนี้แหละ”

“ไม่ผิดแน่ เธอนี่แหละ”

พอเธอโตขึ้นมาหน่อย เซิ่งอันหรานก็ค่อยๆเข้าใจในสิ่งที่คนรอบข้างพูดเกี่ยวกับเธอ ไม่รู้ว่าเป็นเวลานานแค่ไหนที่เธอต้องถูกบีบให้จนมุม จนในที่สุดเธอก็ค่อยๆร้องตะโกนออกจากในลำคอจนสุดเสียงของเธอว่า

"ฉันไม่ใช่ตัวอัปมงคล!"

ครั้งหนึ่งมีไอ้เจ้าอ้วนมาถุยน้ำลายใส่หน้าของเธอ สุดท้ายเขาก็ถูกเธอเหวี่ยงอย่างแรงจนลงไปนอนกองกับพื้น

"แกกล้าดียังไงมาทำร้ายคนอื่น?นังตัวอัปมงคล!นังตัวซวย!”

"ฉันไม่ใช่!"

เซิ่งอันหรานกรีดร้องและตื่นขึ้นมาจากฝันร้าย ความอบอุ่นที่หลังมือของเธอค่อยๆ ทำให้เธอสงบลงอีกครั้ง เมื่อเธอลืมตาขึ้นมาก็พบกับอวี้หนานเฉิงที่กำลังนอนอยู่ทางด้านข้าง เซิ่งอันหรานรู้สึกตกใจมาก

“เอ๊ะ!” เสียงร้องดังขึ้นในคืนที่ฝนตก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน