ผูกรักท่านประธานพันล้าน นิยาย บท 96

"นี่คือคุณเจ้าหยางโปรดิวเซอร์ของ Enlight Media"

โจวฟังยืนหลังเหยียดตรงอยู่หน้าโต๊ะทำงานของอวี้หนานเฉิงด้วยสีหน้าที่ดูเป็นกังวล

“ส่วนนี่คือตัวอย่างรายการเรียลลิตี้โชว์ท่องเที่ยวระยะสั้นที่เปิดตัวโดยความร่วมมือระหว่างเซิ่งถังกรุปและEnlight Media ที่เพิ่งจะปล่อยตัวอย่างไป และกำลังเป็นที่นิยมมากในตอนนี้ โดยตอนของเส้าซือและเซิ่งเสี่ยวซิง แฟนคลับชอบศิลปินชายและเด็กคนนี้เป็นอย่างมาก ดังนั้น Enlight Media จึงตั้งใจที่จะเซ็นสัญญากับเซิ่งเสี่ยวซิงในฐานะดาราเด็กฝึกหัดด้วยอีกคน”

“จริงเหรอ?” อวี้หนานเฉิงขมวดคิ้ว ใบหน้าของเขานิ่งเฉย

“ใช่ครับ วันนี้คุณเจ้าหยางมาที่นี่เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับแผนการที่จะเปิดตัวรายการที่เสร็จสมบูรณ์แล้ว ซึ่งเขาต้องไปคุยกับแผนกการลงทุน นอกจากนี้ เขาน่าจะไปพูดคุยและฟังความคิดเห็นของผู้จัดการเซิ่งด้วย และมองเห็นความสามารถเชิงธุรกิจของเธอ เพราะรายการนี้เดิมทีเธอเป็นคนคิดริเริ่มขึ้น ”

เมื่อ อวี้หนานเฉิงได้ยินเช่นนี้ เขาก็กำปากกาแน่นพร้อมกับเคลื่อนสายตาขึ้นจากหนังสือสัญญา

“เธอตกลงไหม?”

"เรื่องนี้ ไม่ชัดเจนครับ"

น้ำเสียงของโจวฟังดูประหม่าเล็กน้อย เมื่อเร็ว ๆ นี้อารมณ์ของเจ้านายดูผันผวนขึ้นๆลงๆ และเป็นสิ่งที่ซึ่งเข้าใจได้ยากจริงๆ

อวี้หนานเฉิงชะงักไม่พูดอะไรอยู่เป็นสักพัก และโจวฟังกระซิบอย่างระมัดระวังว่า "ประธานอวี้อีกสักพักการประชุมจะเริ่มขึ้นแล้ว และตัวแทนของโรงแรมหลายแห่งก็มาถึงกันครบแล้ว"

โรงแรมในเครือเซิ่งถังกรุปมีแผนที่จะเป็นเครือข่ายของกลุ่มบริษัทท่องเที่ยวสำหรับกลุ่มวัยหนุ่มสาว และเพื่ออำนวยความสะดวกในการรวมสายผลิตภัณฑ์ภายใต้กลุ่มบริษัทท่องเที่ยว ดังนั้น ตัวแทนของโรงแรมเซิ่งถังทั้งหมดในเมืองจินหลิงจึงถูกเรียกเข้าประชุมเพื่อหารือ

เซิ่งอันหรานก็มาที่นี่เพราะงานนี้

อวี้หนานเฉิงวางปากกาลง และพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม

"ไปกันเถอะ"

มีคนจำนวนมากที่นั่งอยู่ในห้องประชุม เซิ่งอันหรานมีความสามารถยังไม่ถึงขั้น ดังนั้นที่นั่งของเธอจึงอยู่ที่ตำแหน่งสุดของมุมห้อง

"เซิ่งถัง เริ่มต้นในฐานะโรงแรมระดับไฮเอนด์ ดังนั้นเป้าหมายในการเจาะผลิตภัณฑ์ระดับล่าง จึงไม่ใช่ปณิธานของเรา การทำเครือข่ายโรงแรมการท่องเที่ยวสำหรับกลุ่มวัยหนุ่มสาวในครั้งนี้ จึงจำเป็นที่จะต้องมีการวิจัยเกี่ยวกับตลาด"

หลังจากที่มีคนแสดงความคิดเห็นเสร็จ อวี้หนานเฉิงที่เงียบอยู่นานก็พูดขึ้นว่า

“การวิจัยตลาดเป็นสิ่งที่จำเป็น แต่ความน่าเชื่อถือของข้อมูลจากบริษัทวิจัยตลาดนั้นไม่ค่อยน่าเชื่อถือมากนัก ดังนั้นในครั้งนี้ ผมมีความคิดเห็นว่า เราไม่จำเป็นที่ต้องไปมอบความไว้วางใจให้กับบริษัทที่ปรึกษาทางการตลาด แต่เราจะให้แต่ละโรงแรมเลือกตัวแทนเพื่อทำการสำรวจภาคสนามด้วยตนเอง "

เซิ่งอันหรานจดจ่ออยู่กับการจดบันทึกโดยไม่รู้ว่าอวี้หนานเฉิงนั้น จ้องมองมาที่เธออยู่

“หลังจากกิจกรรมงานวันเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีเสร็จสิ้นลง ดูเหมือนผู้จัดการเซิ่งจะกำลังว่าง อย่างนั้นงานนี้ผมมอบให้คุณเป็นคนรับผิดชอบ เป็นยังไง?”

เมื่อได้ยินดังนั้นแล้ว สีหน้าของเซิ่งอันหรานก็เปลี่ยนไป เธอรีบเงยหน้าขึ้นมาในทันที

“ฉัน? การสำรวจภาคสนาม?”

หลังจากที่เห็นท่าทางเคร่งขรึมของอวี้หนานเฉิง เธอรับรู้ได้ถึงคำตอบที่แน่ชัดจากเขา "ไม่มีคนอื่นแล้วเหรอ?"

ในทุกๆวันเธอจะต้องไปคอยรับส่งเซิ่งเสี่ยวซิง แล้วเธอจะไปทำงานนอกสถานที่เป็นเวลานานๆได้ยังไง?

การแสดงออกของอวี้หนานเฉิงดูเย็นชามาก เขารู้อยู่แก่ใจดีว่าเธอมีความลำบากใจ แต่เขาก็ยังดันถามเธออีกว่า "ทำไม?ผู้จัดการเซิ่งมีปัญหาอะไรหรือเปล่า? หรือไม่อยากไป?"

หลังจากกลับมาจากมัลดีฟส์ ในคราวที่เธอเห็นหน้าเขาก็จะทำสีหน้าไม่ดีเท่าไหร่ เรื่องนี้เธอรู้แก่ใจดี และกลัวว่าจะทำให้เขาขุ่นเคืองใจอีก ครั้งนี้แม้ว่าเธอจะมีเหตุผลที่ดีมากแค่ไหน ก็คงจะเป็นได้เพียงข้ออ้างสำหรับเขา เซิ่งอันหรานกัดฟันแน่น แล้วตอบกลับไปว่า

"ไม่มี ฉันทำได้ค่ะ"

อวี้หนานเฉิงเหลือบมองไปที่เธออีกครั้ง เขาเห็นเธอมีท่าทางกังวล ราวกับว่าเธอเสียใจที่ตอบรับออกไปอย่างนั้น

หลังเสร็จจากการประชุม ตัวแทนจากโรงแรมหลายๆแห่งค่อยๆทยอยกันออกไปจากห้องประชุมทีล่ะคนๆ เซิ่งอันหรานก็รีบออกไปเช่นกัน แต่ไม่คิดเลยว่าจะเจอกับอวี้จิ่งซีที่กำลังถูกพ่อบ้านของอวี้หนานเฉิงจูงมือเข้ามา

เมื่ออวี้จิ่งซีเห็นเซิ่งอันหราน ดวงตาของเขาก็เป็นประกายขึ้นในทันที อวี้จิ่งซีสะบัดมือของพ่อบ้านและรีบวิ่งเข้ามาหาเซิ่งอันหราน

เซิ่งอันหรานตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง เธอรีบย่อตัวลง "จิ่งซี ทำไมวันนี้ถึงได้ไม่ไปโรงเรียน?"

อวี้จิ่งซีกอดเธอไว้โดยไม่พูดไม่จาอะไร ความเงียบของเขา ยิ่งทำให้คนที่พบเห็นรู้สึกสงสาร

พ่อบ้านอธิบายว่า “สองวันมานี้คุณชายน้อยไม่ค่อยสบาย ไออยู่ตลอด ดังนั้นคุณชายเลยให้เขาพักผ่อนอยู่ที่บ้าน มาวันนี้ดีขึ้นมากแล้ว เขาไม่อยากอยู่บ้าน เอาแต่ร้องอยากออกมาข้างนอก "

“ไออย่างนั้นเหรอ?”เซิ่งอันหรานยกมือขึ้นมาแตะหน้าผากของเขา โชคดีที่ไม่มีไข้ “ยังรู้สึกไม่สบายอยู่หรือเปล่า?”

อวี้จิ่งซีส่ายหน้าไปมา ท่าทางราวกับจะร้องไห้

“เป็นอะไรหรือเปล่า?โดนใครรังแกมา?”

อวี้จิ่งซีพยักหน้า จากนั้นก็หันไปหยิบกระดานวาดภาพจากพ่อบ้านมาเขียนคำว่า 'คุณพ่อ'

“เกิดอะไรขึ้นกับพ่อ? พ่อรังแกเธอเหรอ?”

เซิ่งอันหรานไม่เข้าใจ

อวี้จิ่งซีเขียนอีกครั้ง 'เขาไม่ยอมให้ผมไปเจอคุณ’

เมื่อเห็นคำพูดนี้ เซิ่งอันหรานก็รู้สึกสับสน จมูกเริ่มแสบ และน้ำตาก็กำลังจะไหลลงมา

“ผมอยากอยู่กับคุณ”อวี้จิ่งซีเขียนตัวหนังสือเพิ่มอีกหนึ่ง ประโยคแล้ว จากนั้นก็สะกิดที่มือของเซิ่งอันหรานเพื่อแสดงให้เธอเห็น

เซิ่งอันหรานรู้สึกสงสารเขามากขึ้นเรื่อยๆ

“จิ่งซี มานี่สิ” จู่ๆ เสียงของอวี้หนานเฉิงก็ดังขึ้นมาจากด้านหลัง น้ำเสียงของเขาฟังดูไม่ค่อยพอใจเล็กน้อย

อวี้จิ่งซีจับกางเกงของเซิ่งอันหรานแน่น

เซิ่งอันหรานก้มศีรษะลง สูดน้ำมูก และพยายามกลั้นน้ำตา

“จิ่งซี ฉันยังมีงานต้องไปทำ ไม่สามารถอยู่เล่นกับเธอได้ เธอไปหาพ่อของเธอเถอะ วันหลังป้าจะไปเล่นเป็นเพื่อนบ่อยๆนะ”

อวี้จิ่งซีดึงขากางเกงของเธอไว้ไม่ยอมปล่อย ใบหน้าของเขาดูแข็งกระด้าง

อวี้หนานเฉิงเหลือบมองที่พ่อบ้านและพูดอย่างเย็นชาว่า "ยืนทำอะไรอยู่?พาจิ่งซีไปที่ห้องทำงานสิ"

พ่อบ้านค่อยๆแกะมือของอวี้จิ่งซี และจำใจต้องอุ้มเขาออกไป

เซิ่งอันหรานกลัวว่าเธอจะไม่สามารถทนเห็นเหตุการณ์นี้ต่อไปได้ ดังนั้นเธอจึงรีบลุกขึ้นและเดินออกไปจากตรงนั้น

อวี้จิ่งซีดิ้นรนสุดฤทธิ์ และทันใดนั้นเขาก็ตะโกนไปที่เซิ่งอันหรานเสียงดัง"หม่าม้า!"

นี่เป็นครั้งแรกที่เซิ่งอันหรานได้ยินอวี้จิ่งซีพูด เธอหยุดฝีเท้าอย่างกะทันหัน และอดไม่ได้ที่จะหันกลับไปมองเด็กชายที่ยังคงร้องไห้อยู่ในอ้อมแขนของพ่อบ้าน

“เธอไม่ใช่หม่าม้าของลูก!”

เสียงของอวี้หนานเฉิง ราวกับน้ำที่เย็นยะเยือกสาดลงมา และทันใดนั้นเอง เซิ่งอันหรานก็รู้สึกร้อนรุ่มเหมือนไฟสุมในอก และมันกำลังจะทะลักออกมา

เมื่ออวี้หนานเฉิงสั่งให้พ่อบ้านพาอวี้จิ่งซีกลับไปที่ห้องทำงานแล้ว เซิ่งอันหรานก็เดินเข้ามา ใบหน้าของเธอดูเคร่งขรึมและเย็นชา

ผู้คนที่ยืนมุงอยู่ตรงทางเดินถูกโจวฟังไล่ออกไป ทุกอย่างดูเงียบสงบ

“ประธานอวี้ ”เซิ่งอันหรานเลิกคิ้วขึ้น เธอเก็บเอาความรู้สึกสงสารที่มีต่ออวี้จิ่งซีไว้

“เซิ่งอันหราน เธอต้องการจะทำอะไร?” อวี้หนานเฉิงถาม

เซิ่งอันหรานขมวดคิ้ว “ประธานอวี้ ฉันไม่เข้าใจสิ่งที่คุณพูด”

ทันทีที่เธอพูดจบ จู่ๆไหล่ทั้งสองข้างก็ถูกกดลงอย่างกะทันหัน เซิ่งอันหรานเดินเซไปด้านหลัง เธอร้องอุทานออกมา อวี้หนานเฉิงบีบเธอจนหลังของเธอชนเข้ากับกำแพง จากนั้นเสียงพูดอันเย็นชาก็ดังขึ้นมาข้างๆหูของเซิ่งอันหราน

“คุณปฏิเสธผม แต่คุณกลับทำดีต่อจิ่งซีโดยมอบความรักความอบอุ่นให้เขาราวกับเป็นแม่จิ่งซี แต่สุดท้ายก็ไม่ได้คิดอะไรใช่ไหม?”

“คุณคิดมากไปแล้ว”เซิ่งอันหรานตอบโต้ คิ้วทั้งสองข้างเกือบจะผูกเป็นปม “ฉันแค่รู้สึกว่าจิ่งซีน่ารัก”

“คำพูดไร้สาระแบบนี้ คุณคิดว่าผมจะเชื่อเหรอ ?”

อวี้หนานเฉิงกดที่ไหล่ของเซิ่งอันหรานแรงขึ้น ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชา

“ถ้าคุณต้องการใช้วิธีแบบนี้เพื่อทำให้ได้ความรักและความสำคัญจากจิ่งซีและทำให้ผมรู้สึกเหมือนขาดคุณไม่ได้ ผมขอบอกคุณไว้ตรงนี้เลยนะว่า คุณเล่นผิดคนแล้ว ผมไม่ชอบให้ใครมารังแก ”

ไหล่ของเซิ่งอันหรานเกือบจะถูกเขาหักเป็นท่อนๆ ใบหน้าของเธอซีดเซียวราวกับกระดาษขาว เธอพูดขึ้นด้วยความเจ็บปวดว่า “คุณคิดมากไปจริงๆ ฉันไม่เคยคิดเกินเลยกับคุณจริงๆ ฉันเพียงให้ความเคารพต่อคุณในฐานะเจ้านายกับลูกน้องเท่านั้น ประธาน กรุณาให้ความเคารพฉันด้วย ”

"กรุณาให้ความเคารพฉันด้วย" คำพูดประโยคนี้ดังสะท้อนอยู่ในสมองของอวี้หนานเฉิง เดิมทีในใจของเขาก็ร้อนเป็นฟืนเป็นไฟอยู่แล้ว และพอมาได้ยินคำพูดประโยคนี้ของเธอ ในใจของเขายิ่งดูเหมือนถูกเติมเชื้อเพลิงลงไป แม้แต่สายตาคู่นั้นที่ดูเย็นชายังถูกย้อมกลายเป็นสีแดงเพลิง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน