ผูกรักท่านประธานพันล้าน นิยาย บท 97

"คุณกำลังจะทำอะไร?"

เดิมทีเซิ่งอันหรานคิดว่าเขาจะปล่อยเธอไปแล้ว แต่ไม่คิดว่าในขณะที่เขากำลังคลายมือออก และก่อนที่เธอจะยืนทรงตัวได้นิ่งสนิท เธอก็ถูกเขาบีบให้ถอยเข้าไปในห้องประชุมอีกครั้ง จากนั้นก็ถูกผลักลงบนโต๊ะประชุมขนาดใหญ่

'ปัง' เสียงกระแทกปิดประตูดังสนั่นในห้อง

เซิ่งอันหรานเงยหน้าขึ้น ใบหน้าของเธอดูซีดเซียว เธอทั้งรู้สึกเขินอายและรู้สึกโกรธ "คุณจะทำอะไร?"

“ให้ความเคารพคุณอย่างนั้นเหรอ? ” อวี้หนานเฉิงดึงเนคไทออก และใช้มือทั้งสองข้างวางคร่อมร่างกายของเซิ่งอันหรานไว้กับโต๊ะประชุม สีหน้าของเขาดูเคร่งขรึม และคำพูดที่ดูถูกเหยียดหยามก็ดังออกมาจากปากของเขา

"ผมอยากจะถามคุณว่า หลังจากที่ไปนอนกับผู้ชายแล้ว คุณจะพูดกับพวกเขาว่า "กรุณาให้ความเคารพคุณอยู่ไหม? "

เวลาผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว ฉากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคืนนั้น หรือว่าเขารู้สึกเองคนเดียว?

เซิ่งอันหราน เอียงศีรษะ แก้มของเธอกดลงกับโต๊ะในห้องประชุม เธอหลบสายตาของเขา ตอนนี้ในใจของเธอเหลือเพียงความรู้สึกโกรธเท่านั้น

“หากว่าเรื่องในคืนนั้น มันทำให้คุณรู้สึกลำบากใจ ฉันก็ต้องขอโทษด้วยที่ฉันทำให้คุณเข้าใจผิด ฉันไม่เคยคิดเรื่องอะไรที่เกินเลยกับประธานอวี้เลยแม้แต่น้อย เรื่องที่บอกว่าฉันมาเย้ายวนและสุดท้ายกลับไม่ได้คิดอะไรยิ่งไม่จำเป็นต้องมาพูดถึง ปล่อยฉันไปเถอะค่ะ”

“ได้” มือของอวี้หนานเฉิงค่อยๆเลื่อนลงไปที่เอวของเซิ่งอันหราน เขาโกรธจนแทบจะสติหลุด “ทำดีมาก”

ตอนที่มือของเขาเคลื่อนที่ลงมาจับที่เอวของเธอ เซิ่งอันหรานรู้สึกกลัวเป็นอย่างมาก "คุณจะทำอะไร?ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ?"

“คุณบอกว่าไม่ได้ใส่ใจเรื่องนั้นไม่ใช่เหรอ ?อย่างนั้นมากกว่ามันก็คงจะไม่ได้สำคัญอะไรกับคุณจริงไหม?”

เมื่อได้ยินคำพูดประโยคนี้ สมองของเซิ่งอันหรานก็แทบระเบิดออก เธอเริ่มต่อสู้อย่างสุดแรง แต่ก็ไม่สามารถที่จะต่อสู้กับความแข็งแกร่งของอวี้หนานเฉิงที่อยู่ตรงหน้าได้

ความโกรธของเขาถูกจุดไฟอีกครั้ง ศักดิ์ศรีความเป็นชายถูกเหยียบย่ำโดยหญิงสาว และเป็นหญิงสาวที่เขารู้สึกให้ความสนใจเป็นครั้งแรกในชีวิต แต่สิ่งที่เขาได้รับกลับมาจากเธอนั้นคือคำพูดประโยคที่ว่า “เขาเข้าใจผิดไปเอง” สำหรับอวี้หนานเฉิงแล้วนี่คือ ความอัปยศโดยแท้

สายลมเย็นพัดผ่านใต้ระหว่างเขา ดวงตาของเซิ่งอันหรานจ้องเขม็งมาที่เขา และแขนที่เหยียดตรงไม่รู้ว่าโผล่ออกมาตอนไหน

“ เพี๊ยะ ”เสียงตบดังก้องขึ้นในห้องประชุม

การกระทำของอวี้หนานเฉิงหยุดลงอย่างกะทันหัน

ไม่ช้า รอยนิ้วมือเล็กๆก็ค่อยๆปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา มันเห็นได้ชัดเจนมาก

“สารเลว!” เซิ่งอันหรานผลักอวี้หนานเฉิงออกไปอย่างรวดเร็ว และรีบวิ่งออกไปจากห้อง

หลังจากที่เธอออกไปสักพักใหญ่ๆ อวี้หนานเฉิงก็เริ่มยกมือขึ้นมาลูบที่ใบหน้าของเขา เขายื่นมือออกไปดึงเก้าอี้ที่อยู่ทางด้านข้าง และค่อยๆนั่งลงอย่างช้าๆ

นี่ตัวเองกำลังทำอะไรอยู่? บ้าไปแล้วหรือยังไง?

——

หลังจากออกจากบริษัทเซิ่งถังแล้ว เซิ่งอันหรานก็กลับไปที่โรงแรมเพื่อขอลางานครึ่งวัน เธอขังตัวเองอยู่ในห้องมืดๆ แม้ว่าเธออยากจะนอนหลับ แต่ในหัวเธอกลับเต็มไปด้วยภาพการกระทำที่บ้าคลั่งของอวี้หนานเฉิงที่เกิดขึ้นในวันนี้

นอกจากอารมณ์โกรธของเธอแล้ว เธอยังพบว่าตัวเองยังมีความรู้สึกแปลกๆอยู่อีก

ถ้าหากว่าหกปีที่แล้วเธอไม่ได้ขู่ไว้ล่ะก็ บางทีเธออาจไม่กล้าคิดถึงเรื่องนี้ เซิ่งอันหรานตบไปที่แก้มทั้งสองข้างของตัวเองเพื่อบังคับตัวเองให้ลืม จากนั้นเธอก็ค่อยๆผล็อยหลับไป และตื่นขึ้นในช่วงหัวค่ำเพื่อไปรับเซิ่งเสี่ยวซิง

ถานซูจิ้งกำลังนั่งมาส์กหน้าอยู่บนโซฟา "ไปทำงานที่เมืองกูซีอย่างนั้นเหรอ ใครเป็นคนสั่งให้เธอไปทำงานนี้ล่ะ? อวี้หนานเฉิงไม่ใช่กำลังจีบเธออยู่เหรอ?แล้วนี่ เขากำลังคิดจะทำอะไรอยู่?"

เซิ่งอันหรานหลบสายตาของซูจิ้ง ก้มหน้าลงเพื่อเก็บของ

“บริษัทเป็นคนจัดการเรื่องนี้ เธออย่าพูดเหลวไหลเลย ฉันไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับอวี้หนานเฉิงสักหน่อย”

เซิ่งเสี่ยวซิงนั่งยอง ๆ ลงที่ข้างกระเป๋าเดินทางและทานลูกอมยิ้มอย่างเงียบ ๆ

“ช่วงนี้จะต้องให้แม่บุญธรรมเป็นคนดูแลหนูแล้ว หนูจะต้องเชื่อฟัง หากว่าแม่บุญธรรมไปรับหนูไม่ทัน ก็ให้รออยู่ในโรงเรียนอนุบาลเข้าใจไหม?”

“ได้ค่ะ” เซิ่งเสี่ยวซิงพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง “แต่ว่า หม่าม้าค่ะ หนูขอถามอะไรสักอย่างได้ไหม? ”

"ถามมาเถอะ"

“หม่าม้าเลิกกับคุณลุงจริงๆ แล้วใช่ไหม!”

เมื่อเซิ่งอันหรานได้ยินคำพูดประโยคนี้ สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไป "เลิกอะไรกัน ?พวกเราไปคบกันตั้งแต่เมื่อไหร่?

“แต่หม่าม้ากับคุณลุงอยู่ด้วยกันแล้ว! ก็นับว่าคบกันไม่ใช่เหรอ!”

เซิ่งเสี่ยวซิงตาโต

“อยู่ด้วยกัน ?”ถานซูจิ้งตกใจจนมาส์กหน้าแทบหล่น “เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่?”

“ก็ในตอนที่แม่บุญธรรมไปทำงานที่ต่างจังหวัด!”เซิ่งเสี่ยวซิงจำเหตุการณ์ได้อย่างชัดเจน พร้อมทั้งยังบ่นขึ้นอีกว่า “หม่าม้า ถ้าหม่าม้าไม่อยากคบกับคุณลุงแล้วทำไมถึงได้อยู่กับเขาล่ะ และยังมาทำให้หนูดีใจเก้อ!”

เซิ่งอันหรานสายตาล่อกแล่ก"อย่าพูดเหลวไหลน่ะ นั่นก็เป็นเพราะว่าคุณอาเส้าซือของหนูทำให้พวกนักข่าวต้องมาล้อมที่บ้านของเราไว้ จึงทำให้พวกเราไม่มีทางเลือก "

ใบหน้าของถานซูจิ้งดูรู้สึกสงสัยเป็นอย่างมาก

หลังจากอธิบายอยู่เป็นเวลานาน เธอก็พยักหน้าอย่างไม่เต็มใจ “เอาล่ะ แม้ว่าเธอจะไม่มีทางเลือก แต่ฉันก็ยังรู้สึกว่าเธอกับอวี้หนานเฉิงก็ดูแปลกๆนะ เรื่องของพวกเธอสองคนเมื่อหกปีที่แล้วก็...”

“อะแฮ่ม!”

เซิ่งอันหราน ไอขึ้นเพื่อเป็นการขัดจังหวะ

ตอนนั้นเองถานซูจิ้งจึงนึกขึ้นได้ว่าเสี่ยวซิงๆก็อยู่ที่นี่ด้วย เรื่องบางเรื่องเธอก็ไม่ควรที่จะพูดมากไป "เสี่ยวซิงซิง ถึงเวลานอนแล้ว รีบกลับไปที่ห้องเถอะ"

“หนูก็ไม่ได้อยากอยู่ที่นี่มากนักหรอก ! เชอะ” เซิ่งเสี่ยวซิงทำหน้ามุ้ย “ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะมีป่าป๊ารวยแบบนั้น แต่ก็ดันทำให้หลุดมือไปซะได้ โกรธหม่าม้าแล้ว”

เซิ่งเสี่ยวซิงพูดพลางเดินกลับไปที่ห้องด้วยความโมโห

ถานซูจิ้งมองดูเซิ่งเสี่ยวซิง พร้อมกับส่ายหน้าไปมา "เมื่อไหร่เธอจะบอกกับเสี่ยวซิงซิงว่าอวี้หนานเฉิงเป็นพ่อแท้ๆของเขาล่ะ?"

"ฉันยังไม่ได้ตัดสินใจในเรื่องนี้ "

“ขนาดว่าเสี่ยวซิงซิงยังไม่ได้รู้ความจริงเรื่องนี้ เธอยังรู้สึกชอบเขามากขนาดนั้น ถ้าเธอมารู้ทีหลังล่ะก็ เธออาจจะอยากไปอยู่กับอวี้หนานเฉิงก็เป็นได้นะ?”

“เป็นไปไม่ได้ ฉันรู้จักลูกสาวของฉันดี”

“ไม่ใช่”ถานซูจิ้งลอกแผ่นมาส์กหน้าออก

“สมองของเธอมันทำจากไม้หรือยังไงเหรอ? เธอไม่นึกถึงจิตใจของอวี้หนานเฉิงบ้างเหรอ? เขาเป็นถึงท่านประธานผู้สูงส่ง แน่นอนว่าคงจะไม่ได้มาดูแลเธอกับเสี่ยวซิงซิงฟรีๆแบบนี้หรอกจริงไหม ? ถ้าจะให้พูดกันตรงๆแล้วเขาสนใจเธอ ฉันถามเกาจ้านมาแล้ว ตอนนี้อวี้หนานเฉิงได้ยกเลิกงานแต่งงานของเขาแล้ว เขาไม่แต่งงานกับยัยดาราสาวคนนั้นแล้ว นั้นก็ไม่ใช่เป็นเพราะเธอหรอกเหรอ”

“หากเป็นเพราะฉันจริงๆ เขาคงไม่ส่งฉันไปทำงานไกลขนาดนั้นหรอก ?ความรักแบบนี้ฉันรับไม่ไหวจริงๆ”

“ไม่เอาน่า!” ถานซูจิ้งทำหน้าเฉยเมย “เขาทำถึงขนาดล้มเลิกงานแต่งงานของตัวเองเพราะเธอ เธอยังจะมาทำเป็นไม่สนใจเขาอีก ถ้าเป็นฉันละก็นะ คงจะตัดสินใจแต่งงานกับเขาภายในหนึ่งวินาทีเชียวล่ะ”

“ตกลงเธอจะอยู่ข้างใคร?”

“เฮ้ ?นี่เป็นคำถามที่ดี” ถานซูจิ้งหัวเราะออกมา “ข้างไหนดีน๊า?”

"เธอหมายความว่ายังไง?"

“เธอไม่รู้สึกเลยหรือว่า เหมือนตอนนี้เธอกำลังทำประชดอวี้หนานเฉิงอยู่? เหมือนกับคู่รักที่กำลังทะเลาะกันอยู่เลยนะ!”

——

เซิ่งอันหรานชะงัก เธอนิ่งสงบและไม่มีท่าทีปฏิเสธอะไร

“อย่าพูดเหลวไหลหน่อยเลยนะ มันไม่ได้เป็นอย่างนั้นซะหน่อย”

ถานซูจิ้งไม่อยากเถียงกับเธอต่อ "เอาล่ะๆ เรื่องความรักฉันก็สอนอะไรเธอไม่ได้เหมือนกัน มีแต่เธอเท่านั้นที่รู้ใจตัวเองดีที่สุด ฉันจะไปนอนแล้ว เธอก็รีบไปนอนซะ "

หลังจากที่ประตูห้องนอนถูกปิดลง ในห้องรับแขกก็เหลือเพียงแค่เซิ่งอันหราน ที่ถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพัง เธอนั่งอยู่บนพรมและขมวดคิ้วมองดูกระเป๋าเดินทางที่เก็บเกือบจะเสร็จแล้ว

——

กลางดึก ในรถบ้าน เกาหย่าเหวินเพิ่งทำงานเสร็จ หลังจากฟังคำพูดของผู้ช่วย สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไป

“มีแค่ศพของเหล่าหลู่อย่างนั้นเหรอ? แล้วนักสืบคนนั้นอยู่ที่ไหน?”

“มันหายไปแล้ว จนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครพบ”

“ยังไม่รีบหาอีก?” เกาหย่าเหวินหน้าซีด “ถ้าเราปล่อยให้มันหนีไป แล้วมันแจ้งตำรวจ พวกเราจะต้องลำบากกันแน่ๆ”

“ผมกำลังหาอยู่! แต่ผมได้ค้นหาจนทั่วแล้วหนึ่งรอบ แม้กระทั่งโฮสเทลของเขาก็ไปถามมาแล้ว พนักงานบอกว่าเขาไม่ได้กลับมาที่นี่สองเดือนแล้ว”

"..."

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน