ผูกรักท่านประธานพันล้าน นิยาย บท 98

“มีใครรู้เรื่องนี้อีกบ้าง ”

หลังจากที่สงบลง เกาหย่าเหวินก็กำหมัดแน่น

เธอขมวดคิ้วพร้อมกับถามขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์

“คนในตลาดมืดทำงานได้อย่างเรียบร้อย อีกทั้งไม่ว่าเรื่องเผาอาคารหรือฆ่าคน พวกเขาจะไม่มีทางเปิดปากพูดออกไปแน่ ดังนั้นของเพียงกู้เผยเซินรู้เรื่องนี้ และรู้ว่าพวกเขาได้พลั้งมือลงไป เขาสัญญาว่าเขาจะหาวิธีแก้ไขเรื่องนี้ให้ แต่ผมก็กลัวว่ามันอาจจะสายเกินไป "

“เป็นไปไม่ได้”เกาหย่าเหวินมีสีหน้าเคร่งขรึม “หากว่านักสืบคนนั้นปลอดภัย ฉันว่าเขาก็น่าจะไปแจ้งความนานแล้ว แต่มาจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีข่าวคราวอะไร คิดว่าจะต้องมีอะไรเกิดขึ้นแน่ เตือนพวกเขาด้วยว่า ให้ลองไปหาตามโรงพยาบาลหรือคลินิกที่อยู่ใกล้เคียงดู”

ไฟไหม้แรงขนาดนั้น อาคารที่อยู่รอบข้างก็ไหม้ไปหมด เขาที่ถูกวางยาจนหมดสติจะออกไปโดยไม่ได้รับบาดเจ็บเลยได้ยังไง?

คำพูดนี้เหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นคำพูดที่ใช้ปลอบใจตัวเอง เกาหย่าเหวินค่อยๆคลายมือออก

ฝ่ามือของเธอมีร่องรอยจากการโดนเล็บจิก

——

ในตอนเช้าของวันรุ่งขึ้น เซิ่งอันหรานได้ออกเดินทางไปยัง Youth Hostel สถานที่แรกเพื่อทำการตรวจสอบภาคสนาม เมืองกูซีห่างจากเมืองจินหลิงประมาณสองร้อยกิโลเมตร

Youth Hostel แห่งแรกที่เธอไปสำรวจคือ Youth Hostel จากการจัดอันดับโฮมสเตย์ชั้นนำ ของการแนะนำทางออนไลน์ โดย Youth Hostel แห่งนี้มีชื่อว่าเฟิงถัง

"ขั้นตอนการเช็คอินของคุณเสร็จสมบูรณ์แล้วค่ะ ชั้นสองห้องแรกทางด้านขวามือคือห้องของคุณค่ะ "

หลังจากลงทะเบียนข้อมูลเสร็จแล้ว พนักงานก็คืนบัตรประชาชนให้กับเซิ่งอันหราน "เดี๋ยวฉันจะพาคุณขึ้นไปนะคะ"

"ขอบคุณค่ะ"

พนักงานเป็นหญิงสาวตัวเล็กๆ ดูเหมือนเธอจะอายุยังไม่ถึงสิบปีด้วยซ้ำ ดูร่าเริงและมีชีวิตชีวามาก เสื้อที่เธอสวมคือเสื้อยืดและกางเกงขาสั้นสีเขียวอ่อน คำพูดและท่าทางของเธอทำให้คนที่ได้ฟังรู้สึกได้ถึงบรรยากาศในวัยเยาว์

"โฮลเทลของคุณมีคนดูแลเพียงแค่คนเดียวหรือคะ?แล้วทำคนเดียวไหวเหรอ?"

"ไม่ใช่แค่ฉันคนเดียวค่ะ แต่ยังมีผู้จัดการของที่นี่ด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้เขาได้ออกไปทำธุระ นี่ก็เกือบจะสองเดือนแล้ว แต่ยังไม่เห็นเขากลับมา"

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เซิ่งอันหรานก็ขมวดคิ้วด้วยผิดหวัง

การสำรวจภาคสนามจะต้องดูเรื่องการตกแต่งภายใน ซึ่งในตอนที่เธอเดินเข้ามาถึงที่นี่เธอก็ได้เห็นมันหมดแล้ว มันดูดีกว่าที่เธอคิดไว้มาก เซิ่งอันรู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก ดังนั้นเธอจึงมีความคิดที่อยากจะเชิญผู้จัดการของโฮสเทลเฟิงถังนำแบบแปลนงานก่อสร้างดังเดิมของที่นี่ไปที่โรงแรมเซิ่งถังด้วย เซิ่งอันหรานต้องการให้ผู้จัดการโฮสเทลมีส่วนร่วมในการวางแผนออกแบบ Youth Hostel ซึ่งมันน่าจะเหมาะสมมากกว่าการที่เธอจะต้องมาค่อยๆเรียนรู้และเก็บประสบการณ์เองแบบนี้

“อ้าวเหรอ อย่างนั้นเมื่อไหร่เขาจะกลับมาล่ะคะ?”

“ฉันก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ ผู้จัดการร้านมักก็มักจะเป็นแบบนี้บ่อยๆ ตอนนี้โฮสเทลของเรามีเถ้าแก่เนี้ยเป็นคนดูแลค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ? คุณมีธุระอะไรกับผู้จัดการของเราหรือเปล่า?”

“เอ่อ ไม่มีค่ะ” เซิ่งอันหรานยิ้ม “ฉันแค่รู้สึกแปลกใจนิดหน่อย ว่าคนแบบไหนกันที่สามารถออกแบบไฮสเทลให้มีเอกลักษณ์เช่นนี้ได้ ฉันอยากเจอเขาจริงๆ”

“ถ้าอย่างนั้นคุณลองไปหาเถ้าแก่เนี้ยของเราก็ได้ค่ะ เพราะการตกแต่งภายในโฮสเทลของเราเถ้าแก่เนี้ยและผู้จัดการเป็นคนร่วมกันออกแบบ และโดยส่วนมากเถ้าแก่เนี้ยจะเป็นคนออกไอเดีย”

"จริงหรือเปล่าคะ ?"

ดวงตาของเซิ่งอันหรานเป็นประกายขึ้นมาในทันที “โฮสเทลสาขานี้ไม่ใช่ผู้จัดการเป็นคนดูแล? แต่มีเถ้าแก่เนี้ยเป็นดูแลอย่างนั้นเหรอ ?”

“ใช่ค่ะโฮลเทลแห่งนี้เป็นคนความตั้งใจและความภูมิใจของเถ้าแก่เนี้ยของพวกเรา ”

หลังจากที่พูดคุยสองประโยคสุดท้ายเสร็จ พนักงานสาวก็ลงไปต้อนรับแขกท่านอื่นๆ เซิ่งอันหรานรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก เพราะโดยทั่วไปแล้วการคุยหรือการสนทนากับผู้หญิงด้วยกันน่าจะพูดคุยได้ง่ายกว่า

เวลาใกล้พกค่ำ แสงสีส้มอ่อนๆของพระอาทิตย์ตกดินปกคลุมไปทั่วเมืองกูซี ที่มุมหนึ่งทางด้านล่างของโฮลเทลเฟิงถัง หญิงวัยกลางคนกำลังยืนชงชา ผมยาวสลวยของเธอถูกม้วนเก็บด้วยกิ๊บติดผม หากมองดูไกลๆเดาไม่ออกเลยว่าอายุของเธอประมาณเท่าไหร่ จะบอกว่าเธออายุประมาณ 30 กว่าๆก็อาจเป็นไปได้ หรือจะบอกว่าเธออายุประมาณ 50 ก็เป็นไปได้เช่นกัน

เซิ่งอันหรานเดินเข้าไป

“ชากลิ่นหอมมาเลยค่ะ นี่คือชาขาวหรือเปล่าคะ?”

ผู้หญิงคนนั้นเงยหน้าขึ้นและยิ้มให้เซิ่งอันหรานอย่างอ่อนโยน "ใช่ค่ะ คุณอยากดื่มไหม ?อีกเดี๋ยวก็จะเสร็จแล้ว"

เซิ่งอันหรานพยักหน้ากล่าวขอบคุณ จากนั้นก็นั่งลง

“ที่พักที่นี่เป็นอย่างไรบ้างคะ?” ผู้หญิงคนนั้นเอ่ยปากถามขึ้นก่อน มือของเธอยังคงจดจ่ออยู่กับการชงชา

"ดีมากๆเลยค่ะ ทิวทัศน์บนชั้นสองสามารถมองเห็นเมืองกูซีได้ทั้งหมด มันสวยจริงๆ"

"เชิญดื่มชาก่อน"

ผู้หญิงคนนั้นยื่นถ้วยชาให้กับเธอ เซิ่งอันหรานกล่าวขอบคุณพร้อมกับรับถ้วยชามา จากนั้นก็จิบชาเข้าไปหนึ่งจิบ กลิ่นหอมหวนของชายังคงหอมติดที่ปลายลิ้นของเธอ

“คุณคงไม่ได้มาที่นี่เพื่อมาเที่ยวสินะคะ” ผู้หญิงคนนั้นถาม

เซิ่งอันหรานชะงักเล็กน้อย "คุณรู้ได้อย่างไรคะ ?"

“เพราะคนที่มาเที่ยวที่นี่ คงจะไม่เอาแต่อยู่ในโฮสเทลไม่ออกไปไหนแบบคุณหรอกค่ะ ”

เซิ่งอันหรานยิ้ม “แม้ว่าเจ้าเถ้าแก่เนี้ยจะไม่ลงมาที่ชั้นล่าง แต่เธอก็รู้และเข้าใจแขกที่เข้ามาพักที่โฮลเทลของเธอดี เธอชั่งเป็นคนที่ละเอียดจริงๆ ”

ผู้หญิงคนนั้นยิ้มและไม่พูดไม่จาอะไร

“เถ้าแก่เนี้ยไม่สงสัยหรือว่าฉันมาที่นี่เพื่ออะไร ?”

“ฉันไม่สงสัย ในโลกใบนี้มีเรื่องราวที่ชวนให้น่าสงสัยอยู่มากมาย แต่ถ้าคุณเต็มใจที่จะพูด ฉันก็ยินดีที่รับฟัง”

เซิ่งอันหรานตกตะลึงไปครู่หนึ่ง ตั้งแต่เกิดมาเธอยังไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนที่เหมือนกับผู้หญิงคนที่อยู่ตรงหน้าของเธอมาก่อนเลย เธอดูอ่อนโยนราวกับนางฟ้า

หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เซิ่งอันหรานก็เอ่ยปากพูดขึ้นว่า

"อย่างนั้นฉันขอแนะนำตัวก่อนนะคะ ฉันชื่อเซิ่งอันหราน เป็นผู้จัดการจากโรงแรมเซิ่งถังภายใต้กลุ่มบริษัท เซิ่งถังกรุปค่ะ"

เซิ่งอันหรานส่งนามบัตรให้กับเธอ

เมื่อได้ยินคำว่า 'เซิ่งถังกรุป' สีหน้าที่ดูเฉยเมยของผู้หญิงคนนั้นก็ดูตึงเครียดขึ้น เธอมองไปที่เซิ่งอันหรานด้วยความประหลาดใจ "เซิ่งถัง"

“ใช่ค่ะ เซิ่งถัง” เซิ่งอันหรานถอนหายใจด้วยความโล่งอก แม้ว่าเมืองกูซีจะอยู่ห่างไกล แต่ดูเหมือนว่าเถ้าแก่เนี้ยจะรู้จักเซิ่งถังกรุป ถ้าเป็นอย่างนี้ค่อยพูดคุยกันง่ายหน่อย

“ฉันได้ยินมาว่าโฮสเทลแห่งนี้เถ้าแก่เนี้ยได้มีส่วนร่วมในการออกแบบจนถึงขึ้นตอนสุดท้าย ดังนั้นฉันจึงอยากจะเรียนถามว่าคุณยินดีที่จะเข้ามาร่วมงานและรับผิดชอบในการพัฒนาเครือข่ายโฮลเทลกับกลุ่มบริษัทของเราไหมคะ ? "

เจ้าเถ้าแก่เนี้ยขมวดคิ้วมองดูนามบัตร ดูไม่ออกเลยว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่

เวลาผ่านไปสักพัก

“ที่คุณมาหาฉันเพื่อที่อยากจะให้ฉันไปทำงานในกลุ่มบริษัทของคุณ ในเป็นคนส่งคุณมาล่ะ ?”

“แน่นอนว่าจะต้องเป็นแผนกวางแผนของบริษัท อีกทั้งประธานบริษัทของเราก็ได้เซ็นลงนามยินยอมด้วยตัวเอง”

“ประธานของพวกคุณ อวี้หนานเฉิง?”

“คุณรู้จักประธานอวี้ด้วยหรือคะ?” เซิ่งอันหรานถามอย่างระมัดระวัง

เซิ่งอันหรานรู้สึกว่าปฏิกิริยาของเถ้าแก่เนี้ยคนนี้ดูท่าทางแปลกๆ

“ก็แค่เคยได้ยินมา” เถ้าแก่เนี้ยมองมาที่เธอ “คุณกับประธานอวี้สนิทกันอย่างนั้นเหรอ ?”

เซิ่งอันหรานชะงักอีกครั้ง คำถามนี้มันหมายความว่ายังไงกัน ?

"ก็นิดหน่อยค่ะ "

“เขาเป็นยังไงบ้าง? ฉันได้ยินมาว่าเขามีลูกชาย เขาแต่งงานแล้วอย่างนั้นเหรอ?”

“เขาสุขภาพร่างกายแข็งแรงดีค่ะ ส่วนเรื่องลูกชาย ก็มีจริงๆค่ะ แต่เขายังไม่ได้แต่งงาน แต่ก็อาจจะแต่งเร็วๆนี้ค่ะ ” เมื่อพูดถึงลูกชายของเขา สีหน้าของเซิ่งอันหรานก็ดูหนักใจขึ้นมาเล็กน้อย เหมือนกับว่าเธอกำลังลังเลที่จะพูดถึงเรื่องนี้

“จริงเหรอ? แล้วคุณปู่ของอวี้หนานเฉิงล่ะ?คุณเคยเจอเขาบ้างไหม?”

พอเซิ่งอันหรานได้สติกลับมา เธอก็มองเถ้าแก่เนี้ยด้วยความสงสัย "เถ้าแก่เนี้ย ดูเหมือนคุณจะเป็นห่วงเรื่องครอบครัวของท่านประธาน..."

การแสดงออกของเถ้าแก่เนี้ยดูไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ “อย่างนั้นเหรอ ? ฉันก็แค่สงสัย เพราะข้างนอกมีข่าวลือมากมายเกี่ยวกับเรื่องครอบครัวตระกูลอวี้ แม้ว่าฉันจะอายุมากแล้ว แต่ก็ค่อนข้างชอบฟังคนข้างนอกเขาพูดคุยกัน ”

จริงเหรอคะ ? เซิ่งอันหรานยิ่งรู้สึกสงสัยมากเข้าไปใหญ่

ประโยคแรกที่เธอถามผู้หญิงคนนี้ก็คือ คุณรู้สึกสงสัยไหมว่าฉันมาที่นี่ทำไม ตอนนั้นสีหน้าของเธอยังดูสดใสและสบายๆอยู่เลย เธอทำเหมือนว่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับคนทั้งโลกไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับตัวเธอ แต่พอพูดเกี่ยวกับอวี้หนานเฉิงขึ้นมา เธอกลับดูสนใจขึ้นมาทันที ?

มันน่าแปลกจริงๆ

——

“ฉันได้ยินมาว่าแกส่งอันหรานไปทำงานนอกสถานที่?”

ในคฤหาสน์เก่าแก่ของตระกูลเซิ่ง อวี้หนานเฉิงกำลังรับประทานอาหารเย็นร่วมกับชายชรา และจู่ ๆ ชายชราก็ได้ถามถึงเรื่องเกี่ยวกับเซิ่งอันหราน

อวี้หนานเฉิงที่กำลังใช้ตะเกียบคีบอาหารอยู่หยุดชะงักในทันที เขาเหลือบมองไปที่อวี้จิ่งซีซึ่งนั่งอยู่ทางด้านข้างของชายชรา อวี้จิ่งซีคว้าจับไปที่ชายเสื้อของชายชรา ท่าทางของเขาราวกับว่า 'ใช่ ผมเป็นคนบอกเรื่องนี้เอง แล้วใครกลัวคุณพ่อกันล่ะ '

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน