…ไม่ใช่ เกิดอะไรขึ้นกับเจ้าน้องชาย สองสามประโยคไม่ออกจากหัวข้อที่จักรพรรดิหยวนจิ่งขึ้นสวรรค์เลย เขากินข้าวสารของเจ้าหรือขโมยเงินของเจ้า
สวี่ชีอันติดฉลากวัยรุ่นขี้โมโหให้ ‘หมายเลขสอง’ ในใจ
วัยรุ่นขี้โมโหเวอร์ชันโบราณ
‘เก้า: เมื่อวานเมืองชั้นในกับเมืองชั้นนอกถูกปิดผนึก ห้ามประชาชนทุกคนเข้าออก ข้าจึงคิดว่าเกิดเรื่องขึ้นแน่ๆ’
นักบวชเต๋าจินเหลียนยังคงซ่อนตัวอยู่ในเมืองหลวง และรักษาอาการบาดเจ็บอย่างเงียบๆ
สวี่ชีอันเก็บข้อความ และเขียนเพียงแค่ครึ่งเดียว หมายเลขหนึ่งที่เฝ้าหน้าจอตามปกติชิงโอ้อวดก่อน และโยนความจริงที่ทำให้เหล่าผู้ครอบครองชิ้นส่วนหนังสือปฐพีตกตะลึง
‘หนึ่ง: ซังผอถูกระเบิด วัดหย่งเจิ้นซานเหอถูกทำลาย ของที่ถูกผนึกไว้ในซังผอหายไป’
ข่าวที่น่าทึ่งเช่นนี้แลกมากับความเงียบ
กลุ่มแชทหนังสือปฐพีตกอยู่ในความเงียบงันไปสามนาที ไม่มีใครส่งข้อความ และไม่มีใครแสดงความตกใจออกมา
‘สอง: เจ้าว่าอะไรนะ ซังผอถูกระเบิดหรือ วัดหย่งเจิ้นซานเหอถูกทำลายแล้วหรือ หมายเลขหนึ่ง เจ้าแน่ใจนะว่าไม่ได้ล้อพวกข้าเล่น’
หมายเลขสองตอบสนองเช่นนี้ย่อมมีเหตุผล นี่ก็เหมือนกับจักรพรรดิหยวนจิ่งถูกสังหารโดนคนธรรมดาคนหนึ่งที่บุกเข้าไปในพระราชวังเพียงลำพัง
มันไม่น่าเชื่อ
มันก็แค่การหารือของขันที เรื่องไร้สาระ
หมายเลขสี่ก็ไม่อยากเชื่อเหมือนกัน เขารู้ดีกว่าหมายเลขสองว่าซังผอเป็นสถานที่อย่างไร และรู้ว่าการคุ้มกันของที่นั่นแน่นหนาเพียงใด
แต่หมายเลขหนึ่งคงไม่พูดจาซี้ซั้ว
‘สี่: หมายเลขสาม เรื่องที่เจ้าอยากพูดคือเรื่องนี้ใช่หรือไม่’
‘สาม: ใช่ ซังผอถูกทำลาย สิ่งที่ถูกปิดผนึกอยู่ใต้วัดหย่งเจิ้นซานเหอก็หายไป’
ด้วยการรับรองของหมายเลขสาม แม้ว่าจะไม่น่าเชื่อ แต่นี่ก็เป็นความจริงที่เกือบจะแน่นอน
หมายเลขหนึ่งกับหมายเลขสามอยู่ที่เมืองหลวง พวกเรารู้เรื่องในเมืองหลวงต้าฟ่งดีที่สุด
‘เก้า: เป็นข่าวที่น่าเหลือเชื่อจริงๆ มีเบาะแสที่เกี่ยวข้องหรือไม่ หมายเลขหนึ่ง’
น่าสนใจ นักบวชเต๋าจินเหลียนไม่ถามข้าที่เป็นหน่วยลาดตระเวนยามวิกาล แต่ถามหมายเลขหนึ่งโดยตรง นี่ก็อธิบายแล้วไม่ใช่หรือว่า เขาคิดว่าในความลับระดับสูงเช่นนี้ หมายเลขหนึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะรู้เบาะแสที่เกี่ยวข้องมากกว่าข้า แต่การพูดออกมาเช่นนี้ก็ประมาทเกินไป…จงใจหรือ หรือเพราะผลกระทบจากเหตุการณ์ที่ซังผอถูกระเบิดมากเกินไป ทำให้เขาไตร่ตรองไม่รอบคอบพอ
‘หนึ่ง: คดีนี้ถูกมอบให้ที่ทำการหน่วยลาดตระเวนยามวิกาล กรมอาญากับที่ว่าการเมืองจัดการ ข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงข้าไม่รู้’
ทุกคนในกลุ่มแชทหนังสือปฐพีปิดความรู้สึกผิดหวังไว้ไม่อยู่ หมายเลขหนึ่งที่มีตำแหน่งสูงมากในราชสำนักก็ไม่รู้รายละเอียดเฉพาะเจาะจง เช่นนั้นหมายเลขสามก็คงไม่รู้เช่นกัน
‘สาม: ช่างบังเอิญนัก สำนักของพวกเรารู้ความลับมากมายผ่านช่องทางที่เกี่ยวข้อง น่าจะลำดับบริบทของคดีให้ได้คร่าวๆ’
หมายเลขสามรู้หรือ
หมายเลขสามรู้!
เมื่อสักครู่นี้เขาพูดว่าเป็นข้อมูลที่รู้ผ่านช่องทางที่เกี่ยวข้อง ดูเหมือนสำนักอวิ๋นลู่จะมีสายลับมากมายแทรกซึมอยู่ในที่ทำการปกครองแต่ละแห่งในเมืองหลวง
เมื่อเห็นหมายเลขสามพูดเช่นนี้ หมายเลขห้าที่เดิมไม่ค่อยสนใจเรื่องที่เกิดขึ้นในเมืองหลวงต้าฟ่ง เวลานี้ก็กระโดดออกมาผสมโรงเช่นกัน
‘ห้า: หมายเลขสาม มือของสำนักพวกเจ้ายืดไกลเกินเอื้อมเล็กน้อย เรื่องที่หมายเลขหนึ่งไม่รู้ สำนักกลับรู้ จะว่าไปแล้ว ในสำนักเจ้าอยู่ตำแหน่งอะไร’
นักเรียนธรรมดาๆ จะรู้ความลับที่สำคัญเช่นนี้ได้จริงๆ หรือ
‘สาม: ข้ามีวิธีของข้า’
สวี่ชีอันไม่อธิบาย ความสำคัญของการฝากข้อความคือ คนที่ยิ่งฉลาดยิ่งคิดมากเกินไปได้ง่าย
พวกเขาไม่เพียงสงสัยตัวตนของนักเรียนธรรมดาๆ อย่างหมายเลขสามเท่านั้น แต่ยังสงสัยว่าหมายเลขสามมีตัวตนอื่นอีกหรือไม่ ภายใต้สถานการณ์ที่ขาดพยานผู้แข็งแกร่ง ยิ่งคิดกลับจะยิ่งวุ่นวาย
อืม หมายเลขหนึ่งคือปัญหา เขาหรือนางหลอกล่อไม่เก่งขนาดนั้น ไม่สำคัญแล้ว ข้ากับหมายเลขหนึ่งจะไม่ปะทะกันชั่วคราว อีกทั้งข้าก็รู้ตัวตนของเขาหรือนางมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วเช่นกัน อย่างน้อยก็กำหนดขอบเขตได้
‘สาม: เช่นนั้นพวกเจ้าจะใช้อะไรมาแลกกับข้อมูลของข้าล่ะ’
เมื่อเห็นประโยคนี้ ทุกคนก็รู้สึกแปลกๆ ในใจ และรู้สึกอธิบายไม่ถูก หนี้ที่ติดก็มากขึ้นเรื่อยๆ
หากหมายเลขสามทำธุรกิจ เขาจะต้องเป็นพ่อค้าที่ประสบความสำเร็จแน่นอน…หมายเลขสี่ถอนหายใจ และตอบกลับว่า ‘ระยะนี้ข้าหมกมุ่นอยู่กับการฝึกฝน ไม่ได้รับข้อมูลที่มีค่าเลย ข้าขอติดหนี้ไปก่อน’
‘สอง: ข้ายุ่งอยู่กับการปราบปรามโจร อืม รอข้ารู้อำนาจที่ควบคุมหมู่บ้านต่างๆ อยู่เบื้องหลังในอวิ๋นโจวแน่ชัดก่อน ข้าจึงจะชำระหนี้ของหมายเลขสามได้’
เมื่อพูดถึงตรงนี้ หมายเลขสองก็รู้สึกเศร้ากับการเป็นหนี้ที่อธิบายไม่ได้ของตัวเอง
‘ห้า: เมื่อเร็วๆ นี้ข้ามีข้อมูลสำคัญ แต่ข้อมูลนี้จะเปิดเผยตัวตนของข้า’
‘สี่: อืม เจ้าเป็นคนของซินเจียงตอนใต้สินะ’
‘หนึ่ง: น่าจะเป็นขุนนางในเผ่าพันธุ์กู่บางเผ่า’
‘สอง: ดูเหมือนจะชอบทำสงครามนิดหน่อยอีกด้วย’
‘ห้า: …พวก พวกเจ้ารู้หรือ’
นี่ไม่ชัดเจนอีกหรือ เจ้ารู้ประวัติศาสตร์ของอาณาจักรหมื่นปีศาจเป็นอย่างดี แทนตัวเองว่าข้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า และก่อนหน้านี้เจ้าก็เปิดเผยเองว่า ตำแหน่งของพ่อเจ้าค่อนข้างสูง! ดูเหมือนหมายเลขห้าจะไม่ค่อยฉลาดสักเท่าไหร่…ระดับเดียวกับแม่นางไฉ่เว่ยของข้า…สวี่ชีอันคาดเดาในใจ
เขาให้คำจำกัดความบุคคลในกลุ่มแชทหนังสือปฐพีในใจอีกครั้ง
หมายเลขหนึ่งมีตำแหน่งภายในราชสำนัก เป็นสัตว์ประหลาดคลั่งที่ชอบเฝ้าหน้าจอ
หมายเลขสองเป็นวัยรุ่นขี้โมโหแต่ฉลาดมาก ในวันนั้นก็เป็นเขาหรือนางที่หยั่งเชิงตนกับหมายเลขหนึ่งในพิธีบวงสรวงบรรพบุรุษ
หมายเลขสี่มีสัมพันธไมตรีที่ไม่เลวกับผู้นำเต๋านิกายมนุษย์ เคยเป็นขุนนางในราชสำนัก ตอนนี้เร่ร่อนไปทั่วโลก
หมายเลขห้าเป็นสตรี คนของเผ่าพันธุ์กู่ในซินเจียงตอนใต้ ไม่ค่อยฉลาดเท่าไหร่
หมายเลขหกคือหลู่จื้อเซินเวอร์ชันต้าฟ่ง ระดับการฝึกสูงมาก
หมายเลขเจ็ดหลบหนีไปแล้ว ชิ้นส่วนหนังสือปฐพีจึงอยู่ในมือของหมายเลขสอง และความสัมพันธ์ของหมายเลขสองกับหมายเลขเจ็ดก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง