บทที่ 226-2 คืนชีพในวันไหว้วสันต์ (1)
ระดับกระดูกเหล็กผิวทองแดงเชียวนะ
แต่ละสายการฝึกตนต่างก็จงเกลียดจงชังพวกจอมยุทธ์ คิดว่าพวกเขาเป็นคนหยาบช้า นอกจากศิลปะการต่อสู้ที่น่าเบื่อหน่ายแล้ว พวกนั้นก็ทำเป็นแค่ใช้ความรุนแรง และยังมีอีกสาเหตุคือ พวกจอมยุทธ์ฆ่าให้ตายยาก
พวกเขาสามารถทำผิดได้สิบยี่สิบครั้งหรือมากกว่านั้น แต่เจ้าฆ่าพวกเขาไม่ได้ ทำได้แค่ทรมานซ้ำๆ
แต่ถ้าเจ้าทำผิดครั้งเดียว พวกเขาสามารถระเบิดสมองเจ้าได้เลย
หรืออาจจะฉีกกะโหลกของเจ้าออกเพื่อมองดูสมอง แล้วเดินจากไปด้วยความผิดหวังก็ยังได้
‘ฮึ เจ้าทหารต่ำช้า’
หลังจากวิชาสาปสังหารแสดงผล พ่อมดแห่งความฝันก็พุ่งหลบหนีออกไปอย่างรวดเร็ว
‘ปัง!’ จากนั้นเขาก็ชนเข้ากับกำแพงล่องหน
“หยางเชียนฮ่วน!” พ่อมดแห่งความฝันสบถด่าด้วยความโมโห
“ในบรรดาค่ายกลที่ข้าเชี่ยวชาญ มีหกแบบที่เป็นค่ายกลกักขังศัตรู เจ้าทำลายมันได้ แต่ก็ยังเหลือค่ายกลอีกห้าแบบรออยู่” หยางเชียนฮ่วนปรากฏตัวขึ้นที่ไกลๆ หันหลังให้กับพ่อมดแห่งความฝัน
ในสถานการณ์แบบนี้ เพียงเห็นเงาหลัง ไม่ว่าใครก็คงได้แต่ทอดถอนใจว่า ‘ผู้สูงส่งเหนือแดนมนุษย์’ กันทั้งนั้น!
พ่อมดแห่งความฝันไม่มีโอกาสทำลายค่ายกลแล้ว เขาไม่ใช่ผู้ฝึกยุทธ์ จึงไม่อาจทนทานต่อความเสียหายได้ เจียงลวี่จงไล่ตามมาถึง เมื่อครู่พลังแห่งการต่อสู้ของพ่อมดแห่งความฝันได้พังทลายไปภายใต้หมัดสามรอบนั่นแล้ว ตอนนี้พ่อมดแห่งความฝันจึงไม่ใช่ ‘จอมยุทธ์’ อีกต่อไป
อย่างที่ทราบกันดี เมื่อพูดถึงการต่อสู้ประชิดตัว สายการฝึกตนอื่นๆ ก็เป็นแค่น้องชายตัวน้อยเมื่อเผชิญหน้ากับผู้ฝึกยุทธ์กันทั้งนั้น
‘ผลัวะ!’
เจียงลวี่จงยกมือตบใบหน้าของพ่อมดแห่งความฝันจนกบาลแยกออกจากกัน ปรากฏทั้งสีแดงและสีขาว ปริออกจนกระดูกโผล่
ศพไร้หัวตัวแข็งทื่อในพริบตา จากนั้นก็ตัวอ่อนปวกเปียก
“สารเลว สารเลว…”
เงาร่างลวงตาปรากฏขึ้นกลางอากาศ ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวยามเหลือบมองเจียงลวี่จงและหยางเชียนฮ่วน
นั่นคือจิตเดิมของพ่อมดแห่งความฝัน หลังจากผู้แข็งแกร่งระดับสูงตกตายไปแล้ว จิตเดิมจะยังดำรงอยู่เป็นการชั่วคราวได้อีกหลายวัน ยิ่งไปกว่านั้นในด้านความแข็งแกร่งของจิตเดิมนี้ พ่อมดเป็นรองเพียงแค่ลัทธิเต๋าเท่านั้น
“จะจัดการเจ้านี่อย่างไรดี” หยางเชียนฮ่วนเอ่ย
เจียงลวี่จงส่ายหน้า “ข้าจนปัญญากับจิตเดิม ฆ่าไปก็ไม่ตาย ทั้งยังกักขังไว้ไม่อยู่”
หากเป็นกายเนื้อละก็ แค่หนึ่งหมัดก็สังหารได้แล้ว แต่จิตเดิมนั่นค่อนข้างพิเศษ การโจมตีด้วยกำปั้นทำอะไรมันไม่ได้ พลังปราณที่สั่นสะเทือนสามารถสร้างความเสียหายต่อจิตเดิมได้จริงๆ แต่ผลลัพธ์ของมันก็มีจำกัด ตอนนี้หากจิตเดิมของพ่อมดแห่งความฝันคิดจะหนี เจียงลวี่จงคงไม่มีปัญญาทำอะไร
หยางเชียนฮ่วนกล่าวอย่างเย่อหยิ่ง “ข้ากักขังเขาได้! ในเมืองมีสตรีที่มาจากนิกายสวรรค์ นางมีวิธีหล่อหลอมวิญญาณ”
พูดจบเขาก็กล่าวเสียงแผ่ว “สองมือไขว่คว้าเดือนดารา โลกนี้ยากจะหาใครเทียมเรา…”
‘ตูม!’
พลังของจิตเดิมพลุ่งพล่านอย่างดุเดือด พ่อมดแห่งความฝันระเบิดตัวเองไปแล้ว
เจียงลวี่จงค่อยๆ หันหน้ามามองโหรชุดขาว แล้วเอ่ยออกทีละคำ “เขาระเบิดตัวเองแล้ว”
“ช่างใจร้อนเกินไป” หยางเชียนฮ่วนกล่าวอย่างหดหู่
“ปัญหาสำคัญไม่ใช่เพราะเจ้าพูดมากไร้สาระจนเสียโอกาสไปหรอกหรือ”
“ข้าขอลา!”
“หยางเชียนฮ่วน…” เจียงลวี่จงคำรามลั่น แต่เจ้าโหรชุดขาวกลับอันตรธานไปไม่เห็นแม้แต่เงา ทำให้เขาไม่ทันกล่าวประโยคครึ่งหลังออกไป
สวี่ชีอันสิ้นชีพไปแล้ว
…
ยามดึก บรรยากาศเศร้าสลดแผ่กระจายไปทั่วจุดพักเปลี่ยนม้า แสงเทียนส่องสว่างขับไล่ความมืดมิด แต่กลับไม่อาจขับไล่ความอึมครึมในใจของผู้คนได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง