บทที่ 547 เบาะแส (2)
กลางดึกในคืนเดียวกัน จวนตระกูลเหวินเหรินที่เมืองเหลยโจวห่างออกไป
ภายในห้องส่วนตัวของคุณหนูเหวินเหรินเชี่ยนโหรว ถ่านไฟกำลังลุกโชน ทำให้ห้องอบอุ่นราวกับฤดูใบไม้ผลิ เหวินเหรินเชี่ยนโหรวผู้มีดวงหน้าโสภาจนไร้ที่ติ นอกจากตีนผมที่ยกตัวสูง กำลังนอนห่มผ้าห่ม ลมหายใจสม่ำเสมอ
“แม่นางคือเหวินเหรินเชี่ยนโหรวใช่หรือไม่?”
น้ำเสียงราบเรียบติดเย็นชา ปลุกเหวินเหรินเชี่ยนโหรวจากห้วงนิทรา
นางดีดตัวลุกขึ้นทันที พร้อมกวาดตามองรอบห้องอย่างหวาดระแวง แล้วตะโกนออกมา “เด็กๆ!”
ขณะตะโกนเรียกคน นางก็ได้เห็นแขกที่ไม่ได้รับเชิญในห้องทั้ง 3 คน ได้แก่ นักบวชวัยกลางคนสวมชุดคลุมเต๋าสีตุ่น นักบวชหญิงในชุดขนนก สวมมงกุฎดอกบัว เดาอายุไม่ได้ ทว่ารูปงามราวกับเทพเซียน
และหญิงสาวในวัยยี่สิบ ดูมีสง่าราศี สวยงามสะดุดตา
มือทั้งสองข้างของหญิงสาวถูกมัดด้วยเชือก ปลายเชือกอยู่ในมือข้างหนึ่งของนักพรตหญิงที่สวมมงกุฎดอกบัว
‘ไฉนข้าต้องถูกอาจารย์มัดในฝันผู้อื่น…’ หลี่เมี่ยวเจินบ่นอุบอิบ
“พวกเจ้าเป็นใคร?”
เหวินเหรินเชี่ยนโหรวเลิกตะโกนปลุกสาวใช้และยามเวร ขณะนี้นางรู้แล้วว่าบุคคลสามคนที่ยืนข้างโต๊ะไม่ธรรมดา
“อาตมามีนามว่าเสวียนเฉิง ผู้ดูแลยอดเขาอู๋วั่งในนิกายสวรรค์ แม่นางรู้จักหลี่หลิงซู่หรือไม่?” นักบวชเต๋าวัยกลางคนเอ่ยเสียงเรียบ
นักพรตหญิงอีกสองคนข้างๆ ยังคงสำรวมวาจา
“เจ้าคือ…” สีหน้าเหวินเหรินเชี่ยนโหรวผันเปลี่ยนเล็กน้อย
“หลี่หลิงซู่เป็นศิษย์ของข้า” นักบวชเต๋าเสวียนเฉิงกล่าวเสียงเรียบ
เหวินเหรินเชี่ยนโหรวตกใจจนหน้าซีด เลิกผ้านวมออกแล้วลุกขึ้นคุกเข่าหมอบคำนับ “ลูกศิษย์เหวินเหรินเชี่ยนโหรว คารวะท่านอาจารย์เจ้าค่ะ”
เหวินเหรินเชี่ยนโหรวรู้ว่าหลี่หลิงซู่เป็นเทพบุตรนิกายสวรรค์
‘จิ๊ นี่ถือว่าเรียกลูกสะใภ้ได้หรือยังนะ…’ หลี่เมี่ยวเจินหันมองปฏิกิริยาของอาจารย์ลุง ทว่าไร้ปฏิกิริยาใดๆ
นักบวชเต๋าเสวียนเฉิงยังคงไร้สีหน้าเอ่ยถาม “เมื่อครึ่งเดือนก่อน หลี่หลิงซู่เดินทางมาเหลยโจว แล้วตอนนี้เขาอยู่ที่ใด?”
เหวินเหรินเชี่ยนโหรวส่ายหัว แล้วตอบว่า “คุณชายหลี่เกรงว่าจะทำให้ข้าเหนื่อย เขาเลยไม่ได้บอกข้าว่าจะไปที่ใด”
เพราะกลัวว่านักบวชเต๋าเสวียนเฉิงจะไม่เข้าใจสถานการณ์ นางจึงเล่าทุกอย่างตั้งแต่ต้นจนจบ
นักบวชเต๋าเสวียนเฉิงและเทพธิดาปิงอี๋อดทนฟังจนจบ แม้ก่อนเดินทางมาที่นี่ พวกเขาตรวจสอบทุกอย่างจนกระจ่างแล้ว
หลังจากรอให้เหวินเหรินเชี่ยวโหรวพูดจบ นักบวชเต๋าเสวียนเฉิงจึงถามว่า “แม่นางเหวินเหรินรู้ตัวตนของสวีเชียนหรือไม่?”
เหวินเหรินเชี่ยนโหรวส่ายหัว แล้วพูดว่า “ตัวตนของผู้อาวุโสลึกลับซับซ้อน แม้แต่คุณชายหลี่ก็ไม่ได้รู้จักเขาดีนัก เขารู้เพียงว่าผู้อาวุโสมีอายุหลายร้อยปีและสนิทสนมกับท่านโหราจารย์แห่งสำนักโหราจารย์”
“สนิทสนมกับท่านโหราจารย์งั้นหรือ?”
นักบวชเต๋าเสวียนเฉิงพลันขมวดคิ้ว เรื่องนี้เขาไม่เคยตรวจสอบมาก่อนเลย
เหวินเหรินเชี่ยนโหรวพยักหน้า พร้อมอธิบายต่อ “คุณชายหลี่บอกว่า ผู้อาวุโสไม่เพียงแต่มีความสัมพันธ์ไม่ธรรมดากับท่านโหราจารย์ แต่ยังเป็นคู่แข่งหมากรุกกับท่านโหรจารย์ ซ้ำยังชนะท่านโหราจารย์ด้วยตั้งหนึ่งรอบ เขาเป็นยอดฝีมือแท้จริง ยิ่งไปกว่านั้น ยอดฝีมือผู้นั้นสามารถอัญเชิญดวงวิญญาณซุนเสวียนจี ลูกศิษย์คนที่สองของท่านโหราจารย์ได้ จนเป็นที่ประจักษ์แก่สายตา”
‘ชนะท่านโหราจารย์หนึ่งรอบ…’ นักบวชเต๋าเสวียนเฉิงและเทพธิดาปิงอี๋สบตากันครู่หนึ่ง ภายใต้ความเฉยเมยของพวกเขา ยังอดแปลกใจไม่ได้
ชนะท่านโหราจารย์หนึ่งรอบ ยอดฝีมือที่มีอายุหลายร้อยปี…นั่นคือเขา ต้องเป็นเขาไม่ผิดแน่ วิถีที่น่าคุ้นเคยเช่นนี้…หลี่เมี่ยวเจินเกือบยกมือปิดหน้า
‘ไอ้คนระยำสวี่ชีอัน คุยโวโอ้อวดไม่เคยเปลี่ยน หากหลี่หลิงซู่รู้ตัวตนที่แท้จริงในภายหลัง จะมองเขาเป็นคนยังไง…ไม่สิ เทียบกับความร้ายกาจของเขาแล้ว หลี่หลิงซู่คงคาดเดาจาก ‘ช่องโหว่’ นั้นแล้ว หลังจากตัวตนที่แท้จริงเปิดเผย หลี่หลิงซู่คงไม่มีหน้าไปพบใครเป็นแน่…’ เมื่อนึกถึงสิ่งที่ตนพบเจอ หลี่เมี่ยวเจินก็โมโห
นักบวชเต๋าเสวียนเฉิงถามต่อ “เจ้ารู้อะไรอีกบ้าง”
เหวินเหรินเชี่ยนโหรวคิดอยู่พักหนึ่งแล้วเอ่ยขึ้น “ได้ยินคุณชายหลี่บอกว่าผู้อาวุโสสวีใจดีกับเขา และผู้อาวุโสคนนี้ ช่วยชีวิตเขาจากพี่น้องตงฟาง ทำให้เขาหลุดพ้นจากชีวิตที่เหมือนตกนรกทั้งเป็น”
นักบวชเต๋าเสวียนเฉิงพยักหน้าเบาๆ หลังจากถามต่ออีกสองสามประโยค เขาก็กล่าวเรียบๆ ว่า “อภัยให้พวกข้าด้วย ที่มารบกวนความฝันแม่นาง”
พูดจบ ทั้งสามก็หายวับไปจากห้อง
เหวินเหรินเชี่ยนโหรวลืมตาตื่น นางพบว่าตนยังคงนอนอยู่บนเตียง จนผ่านไปพักหนึ่งก็ยังบอกไม่ได้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่เป็นความฝันหรือเรื่องจริง
…
โรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง เมืองเหลยโจว
นักบวชเต๋าเสวียนเฉิงนั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียงขนาดใหญ่ ส่วนหลี่เมี่ยวเจินกับอาจารย์นั่งขัดสมาธิอยู่บนตั่งไม้เล็กๆ ทั้งสามคนลืมตาขึ้นพร้อมกัน
“ศิษย์น้องเคยได้ยินมาก่อนหรือไม่ว่า ในระดับบรรลุธรรม มีคนชื่อสวีเชียน” นักบวชเต๋าเสวียนเฉิงขมวดคิ้วถามขึ้น
เทพธิดาปิงอี๋ส่ายหัว “ข้าละทางโลกแล้ว โปรดอย่าถามถึงโลกมนุษย์ พวกข่าวต่างๆ ย่อมถูกปิดกั้น แต่บนโลกใบนี้ไม่มีใครชนะท่านโหราจารย์ได้…”
นางคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วเอ่ยว่า “เกรงว่าแม้แต่ นิกายสวรรค์ก็ไม่กล้าพูดว่าเป็นไปได้”
นักบวชเต๋าเสวียนเฉิงขานรับ “อืม” หนึ่งเสียง แล้วพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“อาจเป็นเพราะว่าท่านโหราจารย์ไม่ได้ลงแรงมากนัก เหตุนี้ดูมีความเป็นไปได้มากกว่า อย่าถือสาเลย ตามแผนตอนนี้คือตามรอยคนผู้นี้ เพื่อหาหลี่หลิงซู่ให้เจอ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง