บทที่ 578 สวีเชียนก็คือสวี่ชีอัน
สำหรับการปรากฏตัวของซุนเสวียนจี เมืองเฉียนหลงและสำนักพุทธต่างไม่รู้สึกประหลาดใจทั้งสองฝ่าย เนื่องจากนี่เป็นเรื่องที่คาดคิดไว้นานแล้ว
จีเสวียนบีบหยกสื่อสารในมือไว้แน่นอย่างเงียบๆ มองโหรชุดขาวที่อยู่ไกลออกไปด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย
คนฉลาดจะไตร่ตรองอย่างละเอียดรอบคอบ จากการสันนิษฐานของพวกเขา มีความเป็นไปได้สูงว่าซุนเสวียนจีจะฉวยโอกาสตอนที่พวกเขาไม่ทันระวังตัว ใช้ค่ายกลลำเลียงในการชิงตัวคนไป
สวีเชียนคิดจะชิงผู้ถูกปราณมังกรอาศัย ก็จะต้องใช้ความได้เปรียบของฝ่ายตัวเองให้เหมาะสม เพื่อให้บรรลุจุดประสงค์ในการใช้ความอ่อนโยนชนะความแข็งแกร่ง แย่งอาหารจากปากเสือ
จากการคาดคะเนของจีเสวียนและคนอื่นๆ สิ่งที่เขาใช้ได้มีเพียงฝีมือวิชากู่ที่คาดเดายากของตัวเอง และความสามารถที่หลากหลายของซุนเสวียนจีโหรท่านนี้
ดังนั้น พวกเขาจึงเตรียมวิธีการรับมือไว้แต่เนิ่นๆ แล้ว รอเพียงสวีเชียนแสดงฝีมืออย่างเต็มที่ จากนั้นจึงทำให้พ่ายแพ้แล้วปราบความอหังการของเขา
แต่สิ่งที่เหนือความคาดหมายก็คือ ซุนเสวียนจีกลับปรากฏตัวขึ้นอย่างสง่าผ่าเผย ปรากฏตัวอยู่ด้านหลังกลุ่มดาวมังกรเจ็ดดวง “หึ!”
ในขณะส่งเสียงหึอย่างเย็นชานั้น ชังหลงหันกลับมาพร้อมกับฟันดาบยาว คนสวมเสื้อคลุมเจ็ดคนที่อยู่ข้างๆ เขา ก็ทำท่าทางเหมือนกันโดยไม่ต้องเอ่ยถ้อยความใด
ลำแสงของดาบรูปโค้งพุ่งออกมาจากคมดาบ อากาศระเหยออกจากปราณดาบบูดเบี้ยว
ซุนเสวียนจีไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย ยกเท้าขึ้นเหยียบ ปรากฏลายบูดเบี้ยวลอยขึ้นเบื้องหน้า กลายเป็นกำแพงอากาศ ลำแสงของดาบฟันลงบนลายที่กลายเป็นกำแพงอากาศ แต่มันกลับกลายเป็นวัวดินตกสู่ทะเล ไม่รู้ว่าหายไปไหน
ค่ายกลลำเลียง!
โหรเชี่ยวชาญค่ายกลทุกชนิด สามารถแสดงการควบคุมได้มากมาย
ถึงอย่างไร ไม่ว่าผีหรือคนก็สามารถควบคุมได้ มีเพียงทหารเท่านั้นที่ต้องต้านทาน
ซุนเสวียนจีสะบัดมือเหวี่ยงม้วนภาพออกมาหนึ่งภาพ ม้วนภาพคลี่ออกเหนือศีรษะทุกคน จากนั้นกลายเป็นพายุหมุนพัดอย่างรุนแรง ต้องการดูดคนด้านล่างทุกคนเข้ามา
“ฝีมือระดับขี้ปะติ๋ว!”
คนสวมเสื้อคลุมเจ็ดคนที่นำโดยชังหลงเขย่าเสื้อคลุม พลังปราณเชื่อมต่อกัน รวมตัวกันเป็นพลังระดับเหนือมนุษย์
ดาบยาวของชังหลงชูขึ้น ลำแสงของดาบอันเจิดจ้าฟันลงไปในพายุหมุน
“ชิ้ง!”
ม้วนภาพแตกละเอียด กลายเป็นแสงสว่างกระจัดกระจายตกลงสู่พื้น
ซุนเสวียนจีไม่รีบร้อน ยกมือขึ้น แล้วคว้าไว้ทันที
แสงสว่างเหล่านี้บูดเบี้ยว เลื้อยคลาน กลายเป็นลวดลายสลับซับซ้อน
ตรงกลางลวดลายเป็นรูปกลุ่มดาวมังกรเจ็ดดวง
ทันทีที่แสงสว่างส่องแสง กลุ่มดาวมังกรเจ็ดดวงและซุนเสวียนจีก็อันตรธานไปพร้อมกัน พวกเขาถูกโหรระดับสามจับตัวไปไอรีนโนเวล
เวลานี้ สถานการณ์ในสนามคือ เทพอารักษ์ระดับสามสององค์ล้อมสวี่ชีอันไว้ สายตาทุกคู่จับจ้องมาที่สวี่ชีอัน หากจะพูดว่าเมื่อครู่ยังมีความระมัดระวังและความกลัวอยู่บ้าง เช่นนั้นตอนนี้ แม้แต่นักพรตเฒ่าเจียวเยี่ยที่สุขุมหนักแน่นที่สุด มีประสบการณ์มากที่สุด ก็ยังไม่คิดว่าสวีเชียนจะสามารถบันดาลให้เกิดคลื่นอะไรได้อีก
เทพอารักษ์สององค์ ขั้นสี่มากกว่าห้าคน และภิกษุจำนวนมาก แต่เวลานี้สวีเชียนมีแค่ตัวคนเดียว
“เขาน่าจะยังมีวิธี” จู่ๆ จีเสวียนก็พูดขึ้นมา
ในเวลานี้ จิ้งซินพูดเสียงดังว่า
“อาจารย์อาทั้งสอง จะให้เขาปลดปล่อยเจดีย์พุทธะออกมาไม่ได้เด็ดขาด”
พูดจบ ก็เห็นชาวเมืองเฉียนหลงส่งสายตาตั้งคำถาม จิ้งซินจึงอธิบายว่า “ก่อนหน้านี้เป็นเพราะสวีเชียนหลบเข้าไปในเจดีย์พุทธะ จึงหลบหนีการตามสังหารของท่านอาจารย์อาตู้หนานไปได้ เจดีย์นี้เป็นของวิเศษของพระโพธิสัตว์ฝ่าจี้แห่งสำนักพุทธของพวกเรา”
จีเสวียนและคนอื่นๆ เข้าใจในทันที พวกเขารู้แต่เพียงว่าสวีเชียนเคยรอดตายจากการตามสังหารของเทพอารักษ์ตู้หนาน แต่ไม่รู้รายละเอียด
สวี่หยวนไหวขมวดคิ้ว “หากเขาเข้าไปซ่อนตัวในเจดีย์พุทธะ เทพอารักษ์ทั้งสองจะสามารถดึงตัวออกมาได้หรือไม่?”
นักพรตเฒ่าเจียวเยี่ยพูดช้าๆ ว่า “มิน่าเล่าเขาจึงไม่สะทกสะท้าน”
ในระหว่างการสนทนา ก็เห็นสวี่ชีอันปลดปล่อยเจดีย์พุทธะออกมาจริงๆ เจดีย์ขนาดเล็กสีทองดำลอยออกมาจากหน้าอกเขา ก่อนจะเปลี่ยนเป็นขนาดใหญ่อย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นก็กลายเป็นเจดีย์สูงหกสิบเมตรในทันที
เทพอารักษ์เผ่าอสูรตู้ฝานดีดนิ้วปล่อยพลังปราณออกมา เสียงดัง ‘ตึง’ ยิงโดนเจดีย์พุทธะ จนทำให้มันลอยเฉียงๆ ออกไป แล้วตกลงบนพื้นอยางแรง
จิ้งหยวนส่ายหน้าเบาๆ
“คิดจะปล่อยเจดีย์พุทธะออกมาต่อหน้าเทพอารักษ์ทั้งสององค์ ดูถูกกันเกินไปแล้ว”
คราวนี้คงหมดหนทางแล้วล่ะสิ
หลิ่วหงเหมียนพูดด้วยท่าทางงดงามว่า “ของล้ำค่าไม่น้อยเลยจริงๆ ผู้ชายน่าสนใจเช่นนี้ บวชเป็นภิกษุช่างน่าเสียดายจริงๆ”
ชาวเมืองเฉียนหลงต่างมองดูเงียบๆ ราวกับเห็นสวีเชียนถูกเทพอารักษ์ทั้งสององค์ปราบได้โดยง่าย
ส่งเขาไปสำนักพุทธก็ดี เมืองเฉียนหลงจะได้หมดมหันตภัยไปอีกหนึ่งคน…จีเสวียนไม่ได้กำหยกสื่อสารแน่นอีก
เทพอารักษ์ตู้หนานเดินไปหาสวี่ชีอันช้าๆ ทุกก้าวที่ก้าวออกไป จะมี ‘พลัง’ ที่เข้มแข็งเกิดขึ้น ดุจกรงขังที่ขังสวี่ชีอันไว้ข้างใน
พอจะคาดการณ์ได้ว่า เมื่อเขาเดินไปถึงเบื้องหน้าสวี่ชีอัน กรงขังก็จะมัดคนเจ้าหนุ่มคนนี้ไว้อย่างแน่นหนา จนไม่สามารถขยับเขยื้อนได้แม้แต่น้อย
เทพอารักษ์เผ่าอสูรไม่ได้ขยับ เอียงคอจ้องมองเจดีย์พุทธะ เพื่อป้องกันไม่ให้มันหนีไปโดยไม่ทันตั้งตัว ถือเป็นตัวแปรเดียวในสนาม
‘แม้ของวิเศษนี้จะมีพลังโจมตีไม่รุนแรง แต่กลับยุ่งยากเป็นอย่างยิ่ง แขนที่ขาดของเสินซูยังถูกปิดผนึกไว้ด้านใน จะได้ฉวยโอกาสนี้เอาคืนมา…’
เทพอารักษ์เผ่าอสูรกำลังคิดอยู่ในใจ ทันใดนั้น เขาซึ่งคอยจ้องมองเจดีย์พุทธะไว้ตลอดเวลาก็เห็นประตูเจดีย์เปิดออก มีผู้ชายหนึ่งคนและผู้หญิงหนึ่งคนเดินออกมา ผู้หญิงสวมชุดคลุมยาวสีขาว เส้นผมดำใช้ปิ่นหยกรวบไว้ ที่หหน้าอกปักลายสัญลักษณ์หยินหยางสีขาวดำ ผู้ชายเครายาวถึงหน้าอก สวมเสื้อคลุมนักบวชเต๋าสีดำ สวมรองเท้าหุ้มข้อเท้าสีดำ ศีรษะสวมหมวกดอกบัว ดวงตาเฉียบแหลมเย็นชา
นักพรตเครายาวยกมือขึ้น ฝ่ามือเล็งไปที่เทพอารักษ์ตู้หนาน แล้วออกแรงกำ
เทพอารักษ์ตู้หนานถูกโจมตีอย่างฉับพลันจึงหยุดเดิน จีวรที่สวมอยู่เริ่มทรยศเขา รัดแน่นอย่างแรง จนร่างสูงใหญ่แข็งแกร่งถึงกับขนลุกชูชัน ลูกประคำที่เขาแขวนไว้ตรงคอก็ทรยศเขา กระตุกไปด้านหลังหมายจะรัดคอเขาให้ตาย โชคดีที่เทพอารักษ์ไม่ต้องใช้อาวุธ มิเช่นนั้นอาวุธก็คงจะทรยศแทงเจ้าของเช่นเดียวกัน
ใบหน้าของเทพอารักษ์ตู้หนานแดงก่ำ คล้ายจะขาดใจ หน้าผากของเขามีเส้นเลือดปูดโปน คำรามอย่างหนักหน่วงครั้งหนึ่ง ทันใดนั้นจีวรก็ระเบิดออกเป็นชิ้นๆ ลูกประคำกระเด็นกระจัดกระจาย
“แกร๊งๆๆ!”
เนื่องจากสวี่ชีอันอยู่ใกล้ จึงได้รับผลกระทบไปด้วย มองลูกประคำที่แตกกระจายซึ่งพุ่งเข้ามาอย่างใจเย็น
เกิดอะไรขึ้น?
จีเสวียน สวี่หยวนซวง สวี่หยวนไหว จิ้งซิน จิ้งหยวน ผู้คอยปกป้องเหมียวโหย่วฟางที่ถูกปราณมังกรอาศัย ทั้งสองฝ่ายต่างหันไปมองเจดีย์พุทธะโดยพร้อมเพรียงกัน มองไปยังขั้นสามนิกายสวรรค์สองคนที่จู่ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้น
“อาตมาเสวียนเฉิงแห่งนิกายสวรรค์”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง