ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง นิยาย บท 6

“นี่” หญิงสาวในชุดกระโปรงเหลืองที่ชื่อไฉ่เวยกะพริบตาคู่งาม “เหตุใดเกลือจึงกลายเป็นตำลึงเงินได้”

เมื่อนางพูดจบก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่งและหยิบอ้อยออกมาส่งให้สวี่ชีอัน “อะ นี่ให้เจ้ากิน”

นี่กำลังซื้อข้าเหรอ…

ขุนนางชั้นผู้ใหญ่สองคนจากไปแล้ว สวี่ชีอันถอนสายตากลับ ครุ่นคิดสักครู่จึงตอบว่า “ข้าน้อยเคยเห็นเคล็ดลับการเล่นแร่แปรธาตุที่สามารถเปลี่ยนเกลือเป็นตำลึงเงินในคัมภีร์โบราณ”

หญิงสาวในชุดกระโปรงเหลืองเบิกตากว้าง “คัมภีร์โบราณอยู่ที่ใด ผู้ใดเขียนขึ้นมา”

ชื่อของมันคือ ‘เคมีระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย’ ส่วนผู้เขียน…อืม สำนักพิมพ์เพื่อการศึกษาของประชาชนเหรอ

สวี่ชีอันตอบว่า “คัมภีร์โบราณถูกทำลายไปนานแล้ว แต่ข้าน้อยยังจำเนื้อหาในนั้นได้”

หญิงสาวในชุดกระโปรงเหลืองหายใจเร็ว “เร็ว บอกข้ามาเร็วๆ”

สวี่ชีอันถอนหายใจ “ข้าน้อยกำลังตกอยู่ในอันตราย ไม่มีอารมณ์มาเป็นอาจารย์ให้ผู้ใดหรอก”

หญิงสาวในชุดกระโปรงเหลืองกลอกตาใส่เขาและพูดอย่างโกรธๆ

“เจ้าคนเจ้าเล่ห์ สำนักโหราจารย์ของพวกเราไม่แทรกแซงกิจของราชสำนัก จะลงโทษเจ้าอย่างไรขึ้นอยู่กับฝ่าบาทจะทรงตัดสิน ผู้อื่นก็ต้องทำตาม ซื้อขายกับข้าไปก็ไม่มีความหมายอันใด”

“พวกท่านเก็บข้าไว้ก็พอแล้วนี่ ด้วยตำแหน่งของหัวหน้าขุนนางชั้นผู้ใหญ่ในราชสำนัก ช่วยนักโทษที่ติดร่างแหคนหนึ่งคิดว่าคงไม่มีปัญหาอันใด” สวี่ชีอันเอ่ย

เขาต้องเพิ่มหลักประกันให้ตัวเองเผื่อในกรณีที่หาเงินภาษีไม่เจอ

หญิงสาวในชุดกระโปรงเหลืองหันขวับและมองพินิจตั้งแต่หัวจรดเท้า “เห็นชัดว่าเจ้าเป็นทหาร เหตุใดจึงอยากเป็นโหร”

การฝึกควรทำแต่เนิ่นๆ ผู้ฝึกตนส่วนใหญ่ล้วนวางรากฐานมาตั้งแต่เด็ก ทหารจะเปลี่ยนเป็นโหรตอนนี้ก็สายเกินไปแล้ว

“จะประจบประแจงอย่างไรก็ได้ ที่สำคัญคือชื่นชมท่วงท่าของท่านโหราจารย์” สวี่ชีอันพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“เจ้าบอกเนื้อหาภายในคัมภีร์เล่นแร่แปรธาตุโบราณให้ข้าฟังก่อน” นางใคร่ครวญ ดวงตาของหญิงสาวสดใสและเป็นประกาย ดวงตากลมโต แต่รูม่านตาสีดำขลับตัดกันอย่างชัดเจน

สวี่ชีอันเคยเห็นดวงตาที่สดใสและสวยงามเช่นนี้แค่บนร่างของเด็กๆ ในชาติก่อนเท่านั้น

“เนื้อหาค่อนข้างยากและลึกซึ้ง เพียงแค่คำบอกเล่าเกรงว่าท่านอาจจะไม่เข้าใจ จำเป็นต้องอธิบายอย่างละเอียดถึงจะหยั่งรากลึกได้” สวี่ชีอันล่อลวง

ฉู่ไฉ่เวยกลอกตาและพูดอย่างไม่พอใจ “ทั่วทั้งใต้หล้าโหรของสำนักโหราจารย์ของเราเป็นผู้นำด้านการเล่นแร่แปรธาตุ”

“ไฮโดรเจน ฮีเลียม ลิเธียม เบริลเลียม โบรอน คาร์บอน ไนโตรเจน ออกซิเจน ฟลูออรีน นีออน โซเดียม แมกนีเซียม อะลูมิเนียม ซิลิคอน ฟอสฟอรัส…” สวี่ชีอันท่องออกมาอย่างไหลลื่น

“???”

เขากำลังพูดอะไร หญิงสาวมึนงงอยู่นานและเลิกคิ้วขึ้น “เจ้าหยอกล้อข้า สำนักโหราจารย์ของพวกข้ารับศิษย์ แต่รับเพียงแค่เด็กผู้ชายเท่านั้น”

นางคว้าอ้อยในมือของสวี่ชีอันกลับมา เดินออกไปเงียบๆ กระโปรงปลิวไสว

ข้าก็เป็นเด็กผู้ชาย…สวี่ชีอันอ้าปากค้าง จากนั้นก็เข้าใจว่าการรับศิษย์ของสำนักโหราจารย์คือคัดเลือกตั้งแต่ยังเป็นทารก

ใช่ เขาไม่อาจเดินไปในเส้นทางนี้

สองวันผ่านไปในชั่วพริบตา สวี่ชีอันใช้เวลาสองวันในห้องขังด้วยความหวาดหวั่น

เขากลัวว่าจะกู้คืนเงินภาษีกลับมาได้ไม่ทันเวลา หากเป็นหลังจากที่เขาถูกเนรเทศไปแล้ว แม้ว่าจะกู้คืนเงินภาษีกลับมาได้ แต่ผลลัพธ์ก็คงไม่เปลี่ยนแปลง

และถ้าหากข้าหลวงเฉินทำตัวเป็นหนอนใจดำรับความดีความชอบแต่เพียงผู้เดียวก็ยังคงเป็นสถานการณ์สิ้นหวังอยู่ดี

แต่มันก็ไม่มีวิธีอื่น เขาทำได้เพียงแค่วิธีนี้เท่านั้น เขาเป็นนักโทษ เขาจะทำอะไรได้

สวี่ชีอันรู้สึกถึงความน่ากลัวของสังคมศักดินาอีกครั้ง

“ปล่อยให้เป็นเรื่องของโชคชะตาเถอะ…” สวี่ชีอันถอนหายใจ

‘เคร้ง!’

ประตูเหล็กที่สุดทางเดินเปิดออก ผู้คุมถือคบไฟเดินเข้ามาและหยิบกุญแจออกมาเปิดประตู “สวี่ชีอัน เจ้าไปได้แล้ว”

สวี่ชีอันปีติยินดี เขากำมัดแน่น “นำเงินภาษีกลับมาได้แล้วเหรอ”

“ตามข้าไปลงชื่อ แล้วเจ้าก็ออกไปได้” ผู้คุมมองพินิจเขา “เจ้านี่โชคดีจริงๆ”

“ท่านอารองของข้าล่ะ” สวี่ชีอันถามต่ออย่างร้อนใจ

“อย่ามัวแต่พูดจาเหลวไหล ตามมาก็พอ” ผู้คุมอารมณ์ฉุนเฉียวมาก เขาใช้คบไฟฟาดไปที่สะโพกของสวี่ชีอันเพื่อไล่เขาออกจากห้องขัง

ภายใต้การจัดการของเจ้าหน้าที่ เขาลงชื่อและจากนั้นก็ได้รับเสื้อผ้าที่ถูกถอดออกตอนเข้าคุกของตัวเองคืนจากผู้คุม

เจ้าหน้าที่พาเขาออกจากที่ว่าการเมืองจิงจ้าวโดยออกทางประตูหลัง

เวลานี้ทิศตะวันออกแดดยังไม่แรง บนถนนเย็นยะเยือก

‘เคร้ง!’

สวี่ผิงจื้อถูกเสียงเปิดประตูเหล็กปลุกให้ตื่น เขาลืมตาขึ้น ดวงตาแดงก่ำ

สวี่ผิงจื้อที่ผมเผ้ายุ่งเหยิงหน้าตาสกปรก มีใบหน้าคล้ายคลึงกับสวี่ชีอันนิดหน่อย แต่สวี่ซินเหนียนลูกชายแท้ๆ ของเขา หน้าตาหล่อเหลามาก แตกต่างกับพวกเขาสองคนโดยสิ้นเชิง

ภายในห้องขังฝั่งตรงข้ามของทางเดิน หลี่หรูที่กำลังหลับใหลสะดุ้งตื่นขึ้น ใบหน้าของนางซีดเผือด บนใบหน้าแสดงความตื่นตระหนกสุดขีดออกมา

สามีภรรยามองหน้ากันโดยมีทางเดินกั้น หลี่หรูพูดอย่างกระวนกระวาย “ท่านพี่ แม้ว่าข้าจะต้องตาย ข้าจะไม่ยอมเข้าสำนักสังคีต”

ปีนี้นางอายุสามสิบห้า นางเป็นสาวสวยที่มีเสน่ห์อย่างมากเพราะดูแลตัวเองเป็นอย่างดี แม้ว่าจะอยู่ในคุกมาห้าวันด้วยความหวาดหวั่น แต่ใบหน้าซีดเผือดก็ยังไม่อาจปกปิดความงามบนใบหน้านั้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง