อาคารที่สูงที่สุดของที่ทำการหน่วยลาดตระเวนยามวิกาลคือหอเฮ่าชี่ที่อยู่ในลานกว้าง หลังคาทรงแปดเหลี่ยม ชายคาเป็นชั้นๆ ทุกทิศทางสม่ำเสมอกัน
สี่ชั้นล่างมีระเบียงทางเดินอยู่ด้านนอก ระเบียงทางเดินชั้นห้าและชั้นหกเป็นโถงสังเกตการณ์ ซึ่งมองเห็นที่ทำการหน่วยลาดตระเวนยามวิกาลทั้งหมด
ขันทีใหญ่ที่ผู้คนในยุทธภพเรียกว่า ‘เว่ยชิงอี’ คนนั้นก็อาศัยอยู่ในอาคาร
ห้องน้ำชาที่ชั้นเจ็ด ชายสวมชุดสีฟ้าเอนกายครึ่งหนึ่งอยู่บนระเบียง ในมือถือหนังสือ
ชุดสีฟ้าปักลายเมฆซับซ้อน ฝีมือช่างละเอียดและประณีต ผมสีดำขลับมวยด้วยปิ่นหยก จอนผมขาวโพลน ใบหน้าขาวกระจ่างใส นัยน์ตาลุ่มลึก ความปั่นป่วนภายในถูกชะล้างไปตามกาลเวลา
เว่ยเยวียนเป็นบุรุษที่มีกิริยาท่าทางและรูปลักษณ์สมบูรณ์แบบ ทั้งสง่างามและหล่อเหลา ลุ่มลึกและสงบเสงี่ยม
ในห้องน้ำชายังมีอีกสองคนที่มาดื่มน้ำชาและอ่านหนังสือกับเว่ยเยวียน คนหนึ่งเป็นบุรุษเคร่งขรึมหน้าตาจริงจัง ใบหน้าแข็งกระด้างราวกับรูปปั้น ไม่แสดงอารมณ์ออกมาแม้แต่น้อย
อีกคนหนึ่งมีบุคลิกคล้ายสตรี หน้าตาหล่อเหลา ตาเฉี่ยว คิ้วเรียวสวย ริมฝีปากบางและแดงก่ำ มองแวบแรก ทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่าอาจเป็นหญิงที่แต่งตัวเป็นชาย
ชายผู้มีบุคลิกคล้ายสตรีคนนั้นยืนอยู่ในศาลาสังเกตการณ์ อาบแสงอาทิตย์อันอบอุ่น มือข้างหนึ่งจับด้ามดาบที่แขวนตรงเอว และพูดว่า
“แสงแดดส่องสว่าง ท้องฟ้าไร้เมฆเป็นหมื่นลี้ ชมวิวทิวทัศน์ในที่แห่งนี้ไม่น่าสนใจกว่าการอ่านหนังสือภายในห้องหรอกหรือขอรับ”
เว่ยเยวียนวางม้วนตำราในมือลง และยิ้ม “หนังสือที่อ่านได้น้อยลงเรื่อยๆ เมื่อเร็วๆ นี้ข้าได้ยินมาว่าสำนักโหราจารย์มีหนังสือปกฟ้ามากขึ้น ซึ่งบันทึกแก่นแท้ของทุกสรรพสิ่งในโลกไว้ ข้าใคร่รู้นัก”
“หยางเยี่ยน อีกสิบวันจะเป็นวันไหว้บรรพบุรุษขององค์จักรพรรดิ แจ้งลงไปว่าให้ยกระดับการลาดตระเวนที่เมืองชั้นในมากขึ้น และลดการค้าขายที่เมืองชั้นในลง”
ชายใบหน้าแข็งกระด้างส่งเสียง ‘อืม’ ออกมา
ชายผู้มีบุคลิกคล้ายสตรีถอนหายใจ “ท่านพ่อบุญธรรม ท่านไม่ได้วางแผนจะแย่งชิงตำแหน่งรองเจ้ากรมแห่งกรมการคลัง และมอบให้คนของตัวเองหรือขอรับ”
“นี่เป็นการยอมอ่อนข้อที่จำเป็น” เว่ยชิงอีพูดประโยคหนึ่ง สายตาก็มองไปทางประตูห้องน้ำชา เจ้าพนักงานชุดสีฟ้าก้มหัวเดินเข้ามา
“เว่ยกง นี่คือผลการทดสอบคุณสมบัติของฆ้องทองแดงคนใหม่กับทะเบียนบ้าน เชิญท่านตัดสินขอรับ”
เจ้าพนักงานยื่นเอกสารให้
เว่ยเยวียนเปิดทะเบียนบ้านอ่าน ฆ้องทองแดงคนใหม่ชื่อสวี่ชีอัน อดีตมือปราบหน่วยจับกุมอำเภอฉางเล่อ บิดาและอาต่างก็มาจากกองทัพ
ข้อมูลเหล่านี้ทั้งสำคัญและไม่สำคัญ
สำคัญเพราะสถานะของหน่วยลาดตระเวนยามวิกาลนั้นพิเศษ จำเป็นต้องบริสุทธิ์ทั้งกายใจยิ่งกว่าบรรพบุรุษสามชั่วโคตรขึ้นไป สวี่ชีอันเป็นชนพื้นเมืองของเมืองหลวงต้าฟ่ง ดังนั้นสถานะของสวี่ชีอันจึงมีคุณสมบัติ
สิ่งที่ไม่สำคัญคือ หน่วยลาดตระเวนยามวิกาลทุกคนล้วนมีสถานะบริสุทธิ์เหมือนกัน
ผลการทดสอบ ‘สติปัญญา’ อยู่ใต้ทะเบียนบ้าน เว่ยเยวียนเหลือบมอง และมุมปากก็ยกยิ้ม “เชี่ยนโหรว ตอนเจ้าตอบคำถาม เจ้าใช้เวลากี่อึดใจ”
เมื่อชายรูปงามผู้มีบุคลิกคล้ายสตรีได้ยินคำถามนี้ ก็เชิดคางขึ้นเล็กน้อย “สิบห้าอึดใจ หยางเยี่ยนในสิบเก้าอึดใจขอรับ”
“ฆ้องทองแดงคนใหม่คนนี้ใช้เวลาเพียงสิบสองอึดใจ”
‘สิบสองอึดใจ…’ ชายผู้มีบุคลิกคล้ายสตรีเลิกคิ้ว และประเมินอย่างเย่อหยิ่ง “ก็ไม่เลวขอรับ”
บนใบหน้าของชายผู้มีใบหน้าแข็งกระด้างไม่แสดงความรู้สึกใดออกมา และพูดว่า “คลี่คลายคดีเงินภาษีได้ภายในเวลาสั้นๆ สติปัญญาระดับนี้ ไม่แปลกหรอกขอรับ”
เว่ยเยวียนยิ้ม เขาจ้องไปที่หมายเหตุต่อมา และกล่าวเสริม “เจ้าพนักงานที่ถือกล่องชะงักไปประมาณห้าอึดใจ”
“เป็นไปไม่ได้” ชายผู้มีบุคลิกคล้ายสตรีหันกลับทันที และเดินเข้าไปในห้องน้ำชา
หยางเยี่ยนขมวดคิ้ว
หรือกล่าวได้ว่า เวลาคิดมีเพียงเจ็ดอึดใจเท่านั้น ช่างเป็นความคิดที่เฉียบคม
หยางเยี่ยนลุกขึ้น และคำนับ “ท่านพ่อบุญธรรม ยกคนผู้นี้ให้ข้าเถิดขอรับ”
“เขาติดตามฆ้องเงินหลี่อวี้ชุนภายใต้ชื่อของเจ้า” เว่ยเยวียนวางถ้วยชาลง และมองไปทางชายผู้มีบุคลิกคล้ายสตรี “พวกเจ้าก็เคยเจอเขาที่สำนักโหราจารย์ในวันนั้น”
สำนักโหราจารย์…ชายผู้มีบุคลิกคล้ายสตรีบ่นพึมพำสองสามวินาที และยิ้มเยาะ “เขานี่เอง เจ้าเด็กที่พูดจาไร้สาระ”
เมื่อหยางเยี่ยนได้ยินว่าฆ้องทองแดงคนใหม่คนนี้ทำงานภายใต้การบังคับบัญชาของหลี่อวี้ชุน เขาก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจ
ฆ้องทองคำทุกคนล้วนรับผิดชอบฆ้องเงินเจ็ดคน หลี่อวี้ชุนก็เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา
“ท่านพ่อบุญธรรม พลังต่อสู้เป็นอย่างไรหรือขอรับ” หยางเยี่ยนถาม
“ระดับหลอมจิตขั้นสูงสุด ไม่จำเป็นต้องทดสอบ” เว่ยเยวียนหัวเราะ “คนผู้นี้เป็นคนที่องค์หญิงใหญ่เลือก ข้าเห็นความกระตือรือร้นของเขา เขาเป็นคนที่ทำงานได้คนหนึ่ง และเขาจะเข้าร่วมหน่วยลาดตระเวนยามวิกาลเป็นการพิเศษ”
องค์หญิงใหญ่?!
หยางเยี่ยนกับชายผู้มีบุคลิกคล้ายสตรีมองหน้ากัน ข้อมูลนี้เว่ยเยวียนไม่ได้บอกพวกเขา
เว่ยเยวียนอ่านผลการทดสอบของ ‘ด่านถามใจ’ ต่อ สีหน้าอ่อนโยนของเขาค่อยๆ เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม นัยน์ตาลึกเปลี่ยนเป็นเฉียบแหลม
หยางเยี่ยนยืดตัวตรง และมองไปที่กระดาษ
ชายผู้มีบุคลิกคล้ายสตรีเดินไปข้างๆ เว่ยชิงอีอย่างสบายๆ เขายื่นศีรษะไปดู และหัวเราะทันที “เป็นเด็กที่บ้ากว่าข้าอีก ท่านพ่อบุญธรรมจะจัดการอย่างไรขอรับ”
ในรอยยิ้มมีความรู้สึกยินดีปรีดาในความโชคร้ายของผู้อื่นอยู่
เว่ยเยวียนดึงกระดาษแผ่นล่างสุดออกมา บนกระดาษเขียนตัวอักษรน่าเกลียดไว้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง