“เจ้ารับเขาไปอยู่ใต้บังคับบัญชา จริงๆ ก็ควรรู้ระดับของเขา” เว่ยกงเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “แต่ไม่ต้องคิดมาก อย่าใส่ใจมากนัก ทำจิตใจให้เป็นปกติ และแน่นอนจำไว้ว่าอย่าป่าวประกาศให้ผู้ใดรู้”
ประโยคแรกยังดีๆ แต่ประโยคหลังทำให้หลี่อวี้ชุนงุนงงเล็กน้อย
เว่ยกงหมายความว่าอย่างไร ทำจิตใจให้เป็นปกติ อย่าใส่ใจมากนัก…จะบอกว่าระดับของสวี่ชีอันต่ำเกินไป ขอให้ข้าอย่าเกิดความรู้สึกเบื่อหน่ายและดูถูกเขาหรือ แต่ทำไมถึงเตือนข้าว่าอย่าป่าวประกาศ ด้วยฐานะของเว่ยกง ไม่น่าจะทะนุถนอมฆ้องทองแดงตัวเล็กๆ เช่นนี้…
หลี่อวี้ชุนขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่อาจคาดเดาความคิดของขันทีใหญ่ได้
เวลานี้ เว่ยเยวียนพลิกเปิดทะเบียนบ้าน และดันไปที่ขอบโต๊ะ “เจ้าดูเองเถิด”
สายตาของหลี่อวี้ชุนจับจ้องอยู่ที่ทะเบียนบ้าน และเห็นตัวอักษรสีแดง ระดับเหนือเจี่ย!
…ศิษย์พี่ชุนเกือบจะสูญเสียความสามารถในการจัดการสีหน้า และเอ่ยอย่างประหลาดใจ “เว่ยกงขอรับ”
ระดับเหนือเจี่ย!
จะเป็นระดับเหนือเจี่ยได้อย่างไร
ข้าอยู่หน่วยลาดตระเวนยามวิกาลมานานสิบกว่าปี ไม่เคยเห็นใครที่มีผลการประเมินระดับเหนือเจี่ยเลย แม้แต่ฆ้องทองคำ คุณสมบัติก็เพียงแค่ระดับเจี่ยเท่านั้นเอง
ระดับเหนือเจี่ยนี่มันคืออะไร
ไม่แปลกที่ต้องห้ามปากของข้า เรื่องนี้หากป่าวประกาศออกไปจะเป็นการยกยอเจ้าเด็กน้อยสวี่ชีอัน
หน่วยลาดตระเวนยามวิกาลคนไหนจะรับได้
ในเวลาเดียวกัน หลี่อวี้ชุนก็สังเกตเห็นจุดที่ผิดปกติ การทดสอบคุณสมบัติมีสามด่าน แบ่งเป็น ‘ปัญญา’ ‘กำลัง’ และ ‘ถามใจ’
สวี่ชีอันอยู่ระดับหลอมจิต จึงไม่มีคุณสมบัติที่จะทดสอบด่านพลังต่อสู้
หรือกล่าวได้ว่า เขาอาศัยเพียงแค่การทดสอบสองด่าน ก็ได้รับผลประเมินคุณสมบัติระดับเหนือเจี่ยแล้ว
เช่นนั้น หากบวกกับพรสวรรค์ด้านการหลอมปราณของเขาอีก ผลประเมินจะเพิ่มขึ้นหรือไม่ ทะลวงระบบการประเมินที่เว่ยกงตั้งไว้… เช่นนั้นเว่ยกงจะประเมินระดับอีกครั้งไหม หรือคงไว้เหมือนเดิม
เมื่อคิดถึงตรงนี้ จิตใจของหลี่อวี้ชุนก็ร้อนรุ่มขึ้นเล็กน้อย
เว่ยเยวียนปิดทะเบียนบ้าน และกล่าวตามใจ “จำไว้ว่าจงปิดปากเงียบ แล้วเจ้ามีเรื่องอะไรจะรายงานข้า”
หลี่อวี้ชุนถอนหายใจ เขากำลังเลือกคำ และพูดว่า “ข้าเปิดประตูสวรรค์ให้สวี่ชีอันแล้ว ตามกฎจึงเก็บเขาสี่ร้อยตำลึงขอรับ”
เว่ยเยวียนพูดว่า “คืนกลับไปเถิด”
อัจฉริยะที่มีคุณสมบัติระดับเหนือเจี่ย เดิมทีก็มีความเอนเอียงทางทรัพยากร และจะเปิดประตูสวรรค์ยังต้องเรียกเก็บค่าธรรมเนียม เช่นนั้นระดับจะมีความหมายอะไร
หลี่อวี้ชุนพยักหน้า
เว่ยเยวียนมองเขา และหัวเราะ “พรสวรรค์ไม่เลวหรือ กี่รอบถึงค้นหาความรู้สึกของลมปราณเจอเล่า”
ชายผู้มีบุคลิกคล้ายสตรีกับหยางเยี่ยนที่ค้นหาความรู้สึกของลมปราณเจอด้วยตัวเองในสามรอบ ต่างก็ค่อนข้างสนใจเรื่องนี้ และมองหลี่อวี้ชุน
“หนึ่งรอบขอรับ…” ตอนที่พูดหลี่อวี้ชุนก็พินิจพิเคราะห์สีหน้าของข้าราชการระดับสูงสามคนไปด้วย
สีหน้าของทั้งสามคนแตกต่างกันไป หยางเยี่ยนที่ใบหน้าไร้การตอบสนองตลอดแสดงสีหน้าตกใจอย่างหาได้ยากออกมา
ชายผู้มีบุคลิกคล้ายสตรีเดินจากศาลาสังเกตการณ์เข้าไปในห้องน้ำชา สายตาเยือกเย็นมองไปที่หลี่อวี้ชุนชั่วขณะ และเย้ยหยัน “เป็นไปไม่ได้”
ปฏิกิริยาของเขารุนแรงที่สุด
เว่ยเยวียนผู้สง่างามและอ่อนโยนเสมอตกอยู่ในภวังค์ไปครู่หนึ่ง
หลี่อวี้ชุนก้มหน้าลงเงียบๆ และพึงพอใจอย่างมากกับปฏิกิริยาของทั้งสามคน
“เจ้าไปได้!” เว่ยเยวียนมองส่งหลี่อวี้ชุนจากไป และมองลูกบุญธรรมทั้งสองคน “คิดเห็นอย่างไร”
หยางเยี่ยนครุ่นคิด “ต้องดูแลเป็นพิเศษหรือขอรับ”
เว่ยเยวียนส่ายหน้า “ไม่ต้องฝืนกฎเกณฑ์ธรรมชาติ ดูต่อไปเถิด”
จากนั้น เขาก็มองไปที่ชายผู้มีบุคลิกคล้ายสตรี และยิ้ม “เจ้ากับเขาอายุต่างกันไม่มาก ตอนนี้เขายังไม่อาจเทียบกับเจ้าได้ ทว่าในอนาคตก็ไม่แน่ ดียิ่ง ทำให้เจ้ามีแรงจูงใจขึ้นมาบ้าง”
บุรุษรูปงามผู้มีบุคลิกคล้ายสตรีพยักหน้า
หลี่อวี้ชุนออกมาจากหอเฮ่าชี่ ระหว่างทางเจอฆ้องเงินสองสามคน
“ใต้เท้าหลี่ เกิดเรื่องอะไรขึ้นถึงยิ้มเช่นนี้”
หลี่อวี้ชุนลูบหน้าโดยไม่รู้ตัว และพบว่ามุมปากของตัวเองแทบจะฉีกถึงใบหูแล้ว
“เรื่องเล็กน้อยๆ…” หลี่อวี้ชุนโบกมือ และหัวเราะไปพลางเดินไปพลาง
…
สวี่ชีอันฝากบอกข่าวคราวให้ครอบครัวว่าตัวเองอยู่ที่ที่ว่าการหน่วยลาดตระเวนยามวิกาล ฝึกลมหายใจซ้ำๆ และโคจรพลังปราณ
เขาสังเกตเห็นประโยชน์ที่เกิดจากการเคลื่อนไหวของพลังปราณในร่างกายอย่างชัดเจน มันทำให้เซลล์กระฉับกระเฉงมากขึ้น และทำให้จิตใจฮึกเหิมมากขึ้น
ในสภาพที่ร่างกายกับพลังพุ่งทะยานอย่างไร้ขีดจำกัดทำให้คนมีความสุข
สภาพเช่นนี้ดำเนินต่อไปจนถึงพลบค่ำจึงหยุดชะงัก หมายความว่าประโยชน์จากการก้าวเข้าสู่ระดับหลอมปราณของเขาสิ้นสุดลงแล้ว
“สภาพของข้าในตอนนี้ รู้สึกเหมือนสามารถเอาชนะคนสิบคนได้ เดิมทีอารองไม่ได้จริงจังเลยเวลาประลองกับข้า และยังแสร้งทำเป็นเอาใจเสียอีก หากเขาทุ่มสุดกำลัง เกรงว่าข้าคงตายในที่เกิดเหตุ…”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง