ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง นิยาย บท 831

บทที่ 831-2 ร่างธรรมจักรพรรดิ (2)

เว่ยเยวียนพยักหน้าและส่งกระแสจิตไป

“ท่านสู้กับเขาสักหน่อย เขาเหมาะที่จะได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จากนั้นท่านก็ไปช่วยท่านราชครูและพวก”

โค่วหยางโจวพูด “อืม” แล้วถามด้วยความสงสัย

“ท่านพูดอะไรกับเขา”

“ข้ากำลังดึงเขาเป็นพวกอยู่”

โค่วหยางโจวตกใจมาก “เขาตกลงแล้ว… ในเมื่อเป็นเช่นนี้ยังต้องแสดงละครอะไรกันอีก พวกเขาสังหารเข้าไปตรงๆ สังหารปรมาจารย์ปราชญ์แห่งวิญญาณของสำนักพ่อมดสองคนนั้นซะ”

เว่ยเยวียนขมวดคิ้วส่งกระแสจิตกล่าวเรียบๆ

“สังหารระดับขั้นสามสองคนจะมีความหมายอะไร จะว่าไปแล้วตู้เอ้อร์ไม่ใช่คนโง่ เขาจำเป็นต้องวางตัวเฉย”

แม้พระอรหันต์ตู้เอ้อร์จะใจเต้น แต่เขายังคงต้องการพิจารณาไตร่ตรอง ไม่ใช่ว่าปณิธานการเผยแพร่นิกายมหายานไม่มั่นคง แต่ว่ารอคอยดูท่าทีของสถานการณ์ในตอนนี้

ก็คือดูว่าสถานการณ์ศึกของอรัญตาเป็นอย่างไร

อีกทั้งต่อให้ตู้เอ้อร์จะยอมบากหน้ามาพึ่งอาศัยราชสำนัก เว่ยเยวียนก็ไม่ยอมให้เขาร่วมมือกับโค่วหยางโจวจัดการสำนักพ่อมด เพราะพ่อมดผู้ยิ่งใหญ่จะต้องฆ่าไม่ตายอย่างแน่นอน

เช่นนี้แล้ว เรื่องที่ตู้เอ้อร์ทรยศสำนักพุทธจะถูกอรัญตารู้เข้าได้

เขาดึงพระอรหันต์ตู้เอ้อร์มาเป็นพวก โดยพื้นผิวภายนอกแล้วก็เพื่อดึงระดับเหนือมนุษย์ขั้นสองผู้หนึ่งมาเป็นพวก ความจริงแล้วเพื่อการวางหมากในภายภาคหน้า

ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ สำนักพุทธจะไม่สะสางบัญชีกับตู้เอ้อร์ จะปิดตาข้างหนึ่งในเรื่องที่เขาเผยแพร่นิกายมหายาน และนี่คือโอกาส

แค่ตู้เอ้อร์พยายามมากพอ ก็สามารถรวบรวมผู้ศรัทธาจำนวนมากในดินแดนประจิมทิศได้ หากคนเหล่านี้อพยพมาที่ราบกลาง โชคชะตาของสำนักพุทธจะอ่อนลง ซึ่งก็คือโชคชะตาของผู้ที่อยู่ในอรัญตาผู้นั้น

นี่คือกระบวนท่าสังหาร!

ที่เว่ยเยวียนวางแผนคือระดับสุดยอด ไม่ใช่แค่ปรมาจารย์แห่งปราชญ์วิญญาณเล็กๆ ของสำนักพ่อมด

ดินแดนประจิมทิศ

หลังจากร่างธรรมวชิระพังทลาย เจียหลัวซู่ก็รีบทำสัญลักษณ์มือด้วยมือทั้งสอง และอัญเชิญ ‘พระโพธิสัตว์มัญชุศรี’ ที่นั่งขัดสมาธิหลุบคิ้วต่ำออกมา

ครู่ต่อมา เกิดเสียงดัง ‘เพล้ง!’ กำปั้นสิบสองคู่ทลายกำแพงอากาศทุบใส่ร่างธรรม ‘พระโพธิสัตว์มัญชุศรี’ อย่างง่ายดาย

เจียหลัวซู่ยังคงนิ่งเฉย ราวกับรูปปั้นแกะสลักที่ถูกทุบกระเด็นอย่างรุนแรงจนทิ้งระยะห่างไว้ช่วงหนึ่ง ‘ตู้ม!’ และพุ่งเข้าไปในป่าเขาจนเกิดแผ่นดินถล่มขนาดใหญ่

โอกาส!

สวี่ชีอันรอจนผู้แข็งแกร่งระดับเหนือมนุษย์ดวงตาเป็นประกาย

ร่างธรรมเสินซูไล่โจมตีในขณะที่ได้เปรียบ ร่างของสวี่ชีอันถูกปกคลุมไปด้วยหมอกโลหิต อาซูหลัวแสดงพลังสายเลือดอสูร พวกเขาต่างก็สำแดงพลังจนถึงขีดสุด จักต้องทำลายร่างธรรมพระโพธิสัตว์มัญชุศรีของเจียหลัวซู่ในระยะเวลาสั้นๆ ให้ได้

กลิ่นอายน่าหวาดกลัวปะทะเข้าใส่หน้า คิ้วที่หลุบลงต่ำของเจียหลัวซู่ดูเคร่งขรึม ในใจกลับรับรู้ได้ถึงวิกฤตขนาดใหญ่ กลิ่นวิกฤตแห่งความตาย

อาซูหลัวล่ะก็ช่างเถอะ สวี่ชีอันกับเสินซูถึงเป็นศัตรูที่น่าหวาดกลัว ทั้งสองร่วมมือระเบิดพลังอย่างเต็มที่ พระโพธิสัตว์มัญชุศรีต้านทานได้ไม่ถึงสามอึดใจอย่างแน่นอน

อย่างที่รู้ว่าค่ายกลป้องกันขนาดใหญ่ยังต้านทานพวกเขาไม่ได้

แสงเปล่งประกายในลูกตาของพระโพธิสัตว์หลิวหลี อาณาเขตลูกแก้วไร้สีขยายออกไปอย่างรวดเร็วโดยมีเขาเป็นจุดศูนย์กลาง และกลืนกินสีหมดที่อยู่บริเวณรอบๆ เปลี่ยนทุกสรรพสิ่งให้เป็นสีดำและสีขาวบริสุทธิ์

ในนี้รวมถึงเสินซู สวี่ชีอัน และบรรดาผู้แข็งแกร่งที่อยู่ข้างหลังพวกเขาด้วย

ทำให้ความคิดและการกระทำชะงักงัน

แขนสิบสองคู่ของร่างธรรมเสินซูพุ่งแหวกอากาศ อีกด้านหนึ่งสวี่ชีอันก็ทำท่าเช่นเดียวกัน

‘เพล้ง!’

เสียงที่ทำให้รู้สึกอึดอัดดังขึ้นกลางอากาศ ม่านอาคมของลูกแก้วไร้สีที่ดูเหมือนกระจกปรากฏช่องโหว่สองรูพร้อมกัน ซึ่งเกิดจากการกระทำของสวี่ชีอันและเสินซู

ภายใต้พลังระเบิดของทั้งสอง อาณาเขตลูกแก้วไร้สีก็ยืนหยัดได้ไม่ถึงหนึ่งวินาที

ขณะนี้เสินซู สวี่ชีอัน และอาซูหลัวอยู่ห่างจากเจียหลัวซู่แค่ลัดนิ้วมือเดียว

ทันใดนั้น เสียงภาษาสันตกฤตก็ดังขึ้นระหว่างสวรรค์และโลก แสงสีทองอร่ามส่องลงบนตัวพระหนุ่มกว่างเสียน เหนือศีรษะของเขามีร่างธรรมที่ใบหน้าดูมีความเมตตา และพนมมืออยู่

ร่างธรรมเมตตามหานิยม

พริบตาที่เสียงภาษาสันสกฤตดังขึ้นนั้น เทพเจ้าหยางของหลี่เมี่ยวเจินกับนักบวชเต๋าจินเหลียนก็ออกจากร่างทันที เทพเจ้าหยางของหลี่เมี่ยวเจินยังยังไม่สามารถป้องกันผลกระทบของ ‘ร่างธรรมเมตตามหานิยม’ ได้อย่างสมบูรณ์ ทำให้จิตใจเกิดความเมตตาธรรมอย่างเลี่ยงไม่ได้

นักบวชเต๋าจินเหลียนก็เหมือนกัน แต่ดีกว่าหลี่เมี่ยวเจินเล็กน้อย

แต่การที่ไม่บังเกิดเจตนาการต่อสู้ ไม่ได้หมายความว่าไม่อาจตอบโต้ได้

เทพเจ้าหยางสององค์กระโจนใส่สวี่ชีอันพร้อมกัน และคิดที่จะรวบพลังของทั้งสอง โดยอาศัยวิธีการสถิตร่างช่วยเขาขจัดผลกระทบจาก ‘พลังแห่งความเมตตาธรรม’

ด้วยตบะของสวี่ชีอัน แค่ภายนอกมีจุดเปลี่ยนพลิกสถานการณ์ และเพิ่มผลกระทบเล็กน้อยก็สามารถหลุดพ้นเองได้

‘ครืน!’

เสียงฟ้าร้องดังขึ้นกลางอากาศ สายฟ้าแต่ละเส้นที่มีขนาดเท่าอ่างน้ำฟาดลงมากลืนกินเทพเจ้าหยางทั้งสองจนมิด

น่าหลันเทียนลู่ที่อยู่ไกลๆ เป็นคนลงมือขัดขวาง โดยใช้ทัณฑ์อัสนีควบคุมเทพเจ้าหยางทั้งสอง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง