ผู้รักษาสุดแกร่ง นิยาย บท 115

เย่หวันเอ๋อขมวดคิ้ว สีหน้าออกจะรำคาญหน่อย ๆ

เจิ้งซินกับติงหมิงเลี่ยงเคยเป็นเพื่อนร่วมชั้นของเธอ สมัยตอนที่เรียน ทั้งสองคนคบกันมาตลอด แต่หลังจากนั้นช่วงที่คบกันติงหมิงเลี่ยงแอบมาตามหยอดเย่หวังเอ๋อ

ตอนนั้นทุกคนต่างรู้เรื่องของติงหมิงเลี่ยงกับเจิ้งซิน ขนาดอาจารย์ยังรู้เรื่อง แน่นอนว่าเย่หวันเอ๋อก็รู้เรื่องนี้ด้วย

เธอไม่คิดมาก่อนเลยว่าติงหมิงเลี่ยงจะมาสารภาพรักกับเธอ ในเหตุการณ์ตอนนั้นเธอด่าเขายกใหญ่ สุดท้ายกลับมีคนเห็นมากมายทำให้คนทั้งมหาลัยต่างรู้เรื่องกันหมด

ต่อมาเจิ้งซินรู้เรื่องนี้เข้าก็เลิกกับติงหมิงเลี่ยงทันที

เพียงเพราะว่าเธอรู้สึกไม่พอใจ ถึงแม้ว่าเย่หวันเอ๋อจะไม่ได้ตอบตกลง แต่ว่ามันก็มีความรู้สึกเหมือนโดนแย่งแฟนไป

เดิมทีเจิ้งซินก็รู้ตัวว่าตัวเองสวยไม่เท่าเย่หวันเอ๋อ แถมยังชอบเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับเย่หวันเอ๋อทุก ๆ อย่าง พอเกิดเรื่องนี้ขึ้น คนก็ยิ่งนินทาลับหลัง

บอกว่าเจิ้งซินสวยไม่เท่าเย่หวันเอ๋อ แล้วก็อ่อนโยนไม่เท่าติงหมิงเลี่ยงถึงได้นอกใจไปหาคนอื่น

คำวิพากษ์วิจารณ์เหล่านี้ทำให้เจิ้งซินรู้สึกไม่พอใจ เพราะฉะนั้นเธอจึงปล่อยข่าวลือไปทั่ว

บอกว่าเย่หวันเอ๋อไม่รักนวลสงวนตัว ชอบอ่อยผู้ชายไปทั่ว เป็นเพราะหล่อนไปอ่อยติงหมิงเลี่ยงก่อนถึงได้เกิดเรื่องวันนั้นขึ้น

สมัยตอนเป็นนักเรียน ก็ไม่มีใครมานั่งวิเคราะห์ว่าเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องปลอม เพราะฉะนั้นพวกเขาจึงปล่อยข่าวลือไปทั่ว ทำให้คนจำนวนมากต่างก็คิดว่าเย่หวันเอ๋อและติงหมิงเลี่ยงมีอะไรเกินเลย

ต่อมา เย่หวันเอ๋อลาออกจากมหาวิทยาลัย เรื่องนี้จึงจบไป

เพียงแต่คิดไม่ถึงเลยว่า ผ่านมาหลายปีขนาดนี้ พวกเขาทั้งสองคนก็กลับมาคบกัน

เย่หวันเอ๋อกลอกตามองบนก่อนจะเอ่ย

“ไม่สบายตรงไหนก็บอกกับหมอข่งก็จบ”

เจิ้งซินนั่งอยู่บนรถเข็น ให้ข่งฝานหลินมาวัดชีพจร วัดชีพจรไปก็พูดไป

“ฉันได้ยินมาว่าตอนนั้นที่เธอลาออก เป็นเพราะที่บ้านเธอเกิดเรื่อง ตอนนี้ดู ๆ แล้วน่าจะเป็นเรื่องจริงนะ แต่ก่อนเธอเป็นลูกคุณหนูร่ำรวยไม่ใช่เหรอ ตอนนี้ทำไมถึงกลายมาเป็นลูกนร้องคนอื่นเขาล่ะ?”

เย่หวังเอ๋อเพียงแค่เอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ทำงานแล้วทำไม ฉันมีมือมีเท้า เลี้ยงดูตัวเองได้”

เจิ้งซินหัวเราะออกมา เอ่ยวาจาแปลก ๆ “โอ้โห ฟังดูแล้วนี่คำพูดนี้ดูช่างแสนจะเจ็บปวดจังเลยนะ แต่ก่อนสมัยเรียน เธอมักจะเปรียบเทียบกับฉันตลอด ทำไมตอนนี้ไม่เทียบแล้วล่ะ?”

เย่หวันเอ๋อเหนื่อยจะสนใจหล่อน สมัยตอนเรียนนั้นมีแค่เจิ้งซินที่ชอบเปรียบเทียบ ก็แค่ความปรารถนาฝ่ายเดียวของผู้หญิงเท่านั้นเอง

ข่งฝานหลินวัดชีพจรเสร็จก็เอ่ย “ไม่ได้เป็นอะไรมากครับ ภายในท้องเย็นน่าจะกินของเย็นเยอะใช่ไหมครับ”

เจิ้งซินหัวเราะแล้วพูดว่า “ใช่ค่ะ เมื่อวานสามีของฉันพาฉันไปกินอาหารทะเล มันอร่อยมากเลยฉันก็เลยกินเยอะไปหน่อย”

พูดจบ สีหน้าของเจิ้งซินก็เต็มไปด้วยความเหนือกว่าเอ่ยต่อว่า

“สามีของฉันพาไปร้านอาหารทะเล ไม่ใช่ร้านกับข้าวทะเลแบบที่พวกคุณชอบไปกินกันบ่อย ๆ หรอกนะคะ แต่เป็นพวกอาหารทะเลลึก พวกปลายแซลมอนจากขั้วโลกเหนือ ซาชิมิทูน่าครีบน้ำเงิน เย่หวันเอ๋อ ชีวิตของพวกเราตอนนี้ไม่ธรรมดาเลยใช่ไหมล่ะ?”

เย่หวันเอ๋อยิ้มตอบกลับไปอย่างไม่เต็มใจ “เหอะ ๆ ก็ไม่เลวนะ”

เจิ้งซินแสร้งทำเหมือนว่าปลงตก

“เห้อ นึกถึงแต่ก่อนที่ฉันเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดา ๆ ส่วนเธอก็เป็นถึงคุณหนูร่ำรวย ส่วนตอนนี้ ฉันกลายเป็นคุณนายร่ำรวย ส่วนเธอก็กลายเป็นแค่ลูกน้องผู้ช่วยพยาบาล โลกมันเปลี่ยนไปหมดเลยเนอะ อะไรก็คาดเดาไม่ได้เลย”

ตอนนั้นเจิ้งซินมักจะรู้สึกว่าถูกเย่หวันเอ๋อกดหัว ไม่ง่ายเลยที่จะมีโอกาสเอาคืน เพราะฉะนั้นเธอจึงต้องทำให้คนอื่นรู้สึกแย่

ระหว่างที่ข่งฝานหลินกำลังออกใบสั่งยาให้ เจิ้งซินก็คล้องแขนติงหมิงเลี่ยงแล้วเอ่ย

“เย่หวันเอ๋อ เธอคงจะคิดไม่ถึงล่ะสิ ว่าตอนนี้ชีวิตของติงหมิงเลี่ยงจะดีขึ้นมาก ๆ ตอนนี้เขาเป็นถึงรองผู้จัดการแผนกการกุศลของเขตฮว๋าหนานของเรา มีรายได้ต่อปีตั้งหลายแสน ตอนนั้นเธอปฏิเสธเขานี่เสียดายไหมล่ะ?”

ติงหมิงเลี่ยงก็ยืดอกขึ้นทันทีทำสีหน้าขี้เล่น

ตอนนั้นที่เย่หวันเอ๋อปฏิเสธเขา ช่างไร้เยื่อใยอย่างสุด ๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้รักษาสุดแกร่ง