ฉินจุนนำโทรศัพท์ออกมาโทรหาหวังอี้สุ่ย
หวังอี้สุ่ยเขาก็คือพ่อของหวังจื่อ
เมื่อก่อนเขาเคยรักษากับฉินจุน เป็นโรคข้อกระดูกสันหลังอักเสบ หลังจากที่ฉินจุนรักษาให้หายแล้วเขาก็เคารพและชื่นชมฉินจุนอย่างมาก
ฉินจุนจำได้ว่าชายชราผู้นี้ทำงานเกี่ยวกับการกุศล
“ปรมาจารย์ฉิน คุณมีคำสั่งอะไรหรือเปล่า ? ”
“มีอยู่คนหนึ่งชื่อว่าติงหมิงเลี่ยง ทำงานเป็นรองผู้จัดการในบริษัทการกุศล ไม่รู้ว่าคุณรู้จักหรือเปล่า ”
“เหมือนจะนึกออกอยู่บ้าง ขอแค่ทำงานเกี่ยวกับการกุศล ไม่ว่าบริษัทไหนผมก็คุยได้ทั้งนั้น ปรมาจารย์ฉินคุณหมายความว่า ? ”
“คนๆนี้ศีลธรรมไม่ดี ไล่ออกไปซะ ”
“ได้ครับ ผมจะไปไล่ออกให้วันนี้ และจะทำการติดแบล็กลิสเขาในสายอาชีพนี้ ต่อไปภายในประเทศจีนแห่งนี้จะไม่มีใครรับเขาเข้าองค์กรอีก ”
“อืม ”
หลังจากวางสายโทรศัพท์ ฉินจุนก็พอใจไม่น้อย ติงหมิงเลี่ยงคนนี้ไม่ใช่คนดีอะไร ถ้าปล่อยให้เขาได้ทำงานในบริษัทการกุศล ต่อไปไม่ช้าก็เร็วคงจะทำให้เสียชื่อเปล่าๆ
ฉินจุนไปส่งเย่หวันเอ๋อกลับบ้าน แล้วตนเองก็เดินกลับ
ระหว่างทางตอนที่ผ่านสะพานเส้นหนึ่ง ก็มองเห็นหญิงสาวคนหนึ่งกำลังใจลอยอยู่บนสะพาน
ใบหน้าของเธอสวยงามมาก มัดผมหางม้าและดูบริสุทธิ์ผุดผ่อง
แน่นอนแม้ว่าจะสวยแต่ฉินจุนก็ไม่ได้มองมากเท่าไหร่นัก เพราะตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว ถ้าถูกคนหาว่าเป็นไอบ้ากามก็คงไม่ดีนัก
ลงมาจากสะพานได้ไม่ไกล มีเด็กชายตัวเล็กนั่งร้องไห้อยู่ที่พื้น ดูแล้วอายุไม่มากประมาณ8-9ขวบได้
ฉินจุนเข้าไปถาม “เด็กน้อย เป็นอะไรหรอ ? ”
เด็กชายชี้ไปที่แม่น้ำแล้วตอบ “คุณน้าครับ กระเป๋านักเรียนของผมตกลงไปในนั้นแล้ว…… ”
ฉินจุนยิ้มเจื่อน เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์แบบนี้แน่นอนว่าต้องให้การช่วยเหลือ
“ได้ หนูรอก่อนนะ น้าช่วยหยิบให้ ”
ฉินจุนถอดรองเท้าและกางเกง กระโดดลงแม่น้ำ
……
ขณะเดียวกันหวังตงเสวี่ยที่ยืนอยู่บนสะพานใบหน้าประกอบแววตาเศร้าสร้อย ถ้ายังไม่จ่ายค่าเทอม เทอมหน้าจะต้องถูกไล่ออกจากโรงเรียนแล้ว
ช่วยไม่ได้ ทุนการศึกษาเพียงอย่างเดียวไม่สามารถสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการเข้ามหาวิทยาลัยได้
และเพื่อที่จะได้รับทุนการศึกษา เธอไม่มีเวลาที่จะได้ออกไปทำงาน จะทำอย่างไรดี
ในตอนที่เธอกำลังมืดแปดด้าน ทันใดนั้นก็ได้รับโทรศัพท์จากหวังเจียหมิง
“หวังตงเสวี่ย เธอได้เงินสนับสนุนแล้ว เทอมหน้าก็จ่ายค่าเล่าเรียนได้แล้วหละ ”
หวังตงเสวี่ยชะงักไปเดี๋ยวนั้น “จริงหรอ ? ก่อนหน้าไม่ใช่ว่าไม่มีฉันหรอกเหรอ ? ”
เงินสนับสนุนนักศึกษาปริญญาค่อนข้างขาดแคลน แม้ว่าครอบครัวของหวังตงเสวี่ยจะลำบากมาก แต่ว่าเธอได้รับทุนการศึกษาแล้ว ดังนั้นก็ไม่ต้องพิจารณาอะไรอีกแล้ว วันนี้ยิ่งได้ฟังหวังเจียหมิงบอกว่าได้รับเงินแล้ว เธอยิ่งดีใจมากๆ
“ใช่ตอนนี้มีแล้ว พวกผู้มีอิทธิพลรายใหญ่ท้องถิ่นเราบริจาคเงินเพิ่ม20ล้านหยวน พอจ่ายค่าเทอมให้เธอจน
จบการศึกษาเลยหละ ”
หวังตงเสวี่ยดีใจจนยิ้มออกมา “ดีมากเลย ! ถ้ามีโอกาสจะต้องขอบคุณพี่ชายเหล่านั้นอย่างดีแน่นอน…… ”
ตอนที่กำลังพูดอยู่นั้นหวังตงเสวี่ยก้มหัว และพบว่าด้านล่างมีคนกระโดดน้ำ เธออุทานออกมาด้วยความ
ตกใจ
“เอาหละเลิกพูดแล้ว มีคนกระโดดน้ำแล้ว ! ”
หวังตงเสวี่ยกระโดดจากบนสะพานลงไปยังแม่น้ำ ด้วยท่าทีที่สวยงามไร้ที่ติ
ฉินจุนขมวดคิ้ว เขาพึ่งจะหยิบกระเป๋าได้และเตรียมจะว่ายกลับไป แต่ผู้หญิงคนนั้นกลับกระโดดลงมาไม่รู้ว่าทำไม ?
ยังไม่ทันที่ฉินจุนจะได้หันกลับมา หวังตงเสวี่ยที่อยู่ในน้ำแล้วก็กอดเขาไว้ทันที
“นี่ ! มีสติไว้ จับฉันไว้นะ ! ”
ฉินจุนงงนิดหน่อย นี่เธอ……มาช่วยเขาหรอ ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้รักษาสุดแกร่ง