ตระกูลถังในตอนนี้ ปิดประตูบ้านสนิทมิดชิด
หลังจากเหตุการณ์รอบที่แล้ว คนบ้านตระกูลถังดูเหมือนจะอยู่แต่ในบ้าน ไม่ค่อยติดต่อกับโลกภายนอก แม้กระทั่งธุรกิจและโครงการต่างๆ ที่ร่วมมือกับบริษัทอื่นก็หยุดชะงัก รอเวลาผ่านไปสักพัก ค่อยกลับมาดำเนินการต่อ
ประตูเหล็กที่สูงใหญ่ก็ทำการล็อกไว้อย่างแน่นหนา หน้าประตูมีบอดี้การ์ดแข็งแรงดั่งวัวสองคนยืนอยู่ ดูเข้มงวดและระมัดระวังมาก
ที่ไกลออกไป มีชายหญิงคู่หนึ่งกำลังเดินมา เมื่อบอดี้การ์ดทั้งสองเห็นพวกเขาเดินมาทางนี้ ก็รีบเข้าหาทันที
“หยุด!ช่วงนี้ตระกูลถังไม่รับแขก เชิญกลับ”
“ถังเทียนห้าวมีความกล้าแค่นี้เหรอ? ไม่ต้อนรับแขก? แล้วคิดว่าจะไล่ฉันกลับไปได้เหรอ?” ฉินจุนยิ้มและตอบกลับ
ขณะที่บอดี้การ์ดกำลังจะพูด จู่ๆ ก็มีเสียงถังเทียนห้าวดังออกมาจากหูฟัง
“ให้พวกเขาเข้ามา!”
บอดี้การ์ดทั้งสองตะลึงเล็กน้อย รีบเปิดประตูใหญ่แล้วหลีกทางให้ทันที
เมื่อเห็นประตูเหล็กเปิดออกและลานด้านในที่ดูเงียบสงบ น้าเฝิงก็เกิดกังวลขึ้น
“คุณชาย มีกับดักรึเปล่า?”
ฉินจุนยิ้มเบาๆ และคิดในใจว่า ไม่มีกับดักก็แปลกแล้วแหละ
ยังไงตระกูลถังก็ยังเป็นตระกูลที่สูงส่งและมีชื่อเสียง เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะกลัวคำพูดคำสองคำของฉินจุน และรอบนี้พวกเขาก็ได้เตรียมการไว้แล้ว
แต่น่าเสียดาย เพราะไม่ว่าจะเตรียมการอะไร มันก็ไร้ค่าในสายตาฉินจุน
ภายในบ้านของตระกูลถัง
มีชายวัยกลางสูงหนึ่งเมตรเก้ายืนอยู่ข้างถังเทียนห้าว รูปร่างกำยำล่ำสัน เมื่อมองจากระยะไกล ดูเหมือนภูเขาลูกเล็กลูกหนึ่ง
“ท่านอาจารย์จาง แค่เด็กน้อยคนหนึ่ง ถึงกับต้องให้ท่านลงมือเอง รบกวนท่านเหลือเกิน ”
จางฮุยพยักหน้าสองสามที สายตาล่องลอย ท่าทางดูเหมือนพวกปรมาจารย์
“ไม่เป็นไร ในเมื่อท่านประธานถังให้ค่าตอบแทนที่สูงแก่ฉัน ถึงจะเป็นจอมยุทธ์ ฉันก็จะช่วยคุณจะจัดการให้ราบคาบเลย”
ใบหน้าถังเทียนห้าวได้เผยความมั่นใจออกมา เพราะจางฮุยนั้นเป็นจอมยุทธ์ภพ ว่ากันว่าเขาเคยฝึกกังฟูในป่าลึกมาหลายปี แค่หมัดเดียวก็สามารถทำให้วัวตายได้เลย คนปกติเจ็ดแปดคนก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา
รอบก่อนที่ฉินจุนมา ได้ล้มบอดี้การ์ดที่เก่งที่สุดของเขาไปอย่างง่ายดาย จึงทำให้ถังเทียนห้าวเริ่มเกิดความหวาดกลัว
จากนั้นก็นำบอดี้การ์ดไปส่งโรงพยาบาล และคุณหมอก็วินิจฉัยว่าแขนขวาของบอดี้การ์ดพิการแล้ว
เข็มเงินแค่เล่มเดียว ก็ทำเอาแขนของบอดี้การ์ดพิการไปเลย แปลกจริง ๆ
ถังเทียนห้าวนั่งอยู่บนรถเข็น หัวเข่าของเขายังคงเจ็บปวดเป็นระยะๆ
แม้รู้ว่าจางฮุยเก่งขนาดไหน แต่เขาก็ยังกังวลอยู่ดี
“ท่านอาจารย์จาง ไอ้หมอนั่นที่แซ่ฉินร้ายกาจมากนะ รอบที่แล้วบอดี้การ์ดของฉันก็ถูกมันล้มด้วยเข็มเล่มเดียว ท่านระวังด้วยล่ะ”
มุมปากของจางฮุยเผยความดูหมิ่นออกมา เขาหยิบมีดหลอกผลไม้ที่อยู่ใกล้ๆ ขึ้นมา แทงไปที่หมัดของตัวเองอย่างแรง
“ท่านอาจารย์จาง!”
ทุกคนต่างก็ตกใจกันหมด แต่วินาทีต่อมา ทุกคนอึ้งจนพูดไม่ออก
มีดปอกผลไม้ที่แหลมคม แทงไปที่หมัดของจางฮุยเสร็จก็ไม่ได้ทิ้งร่องรอยบาดแผลอะไรไว้ แต่มีดปอกผลไม้เองกลับงอเป็นลักษณะตัว L
มือนี้ ทำให้ทุกคนตกตะลึงไปพักหนึ่ง
พวกเขาก็แค่ประชาชนทั่วไป จะเคยเห็นจอมยุทธ์จริง ๆ ที่ไหนล่ะ?
นี่คือวิชาระฆังทองคุ้มกายในตำนานเหรอ?
ขนาดมีดยังทำร้ายเขาไม่ได้ อย่าพูดถึงเข็มเงินหรืออาวุธลับอื่นๆ เลย
ถึงค่าตัวของอาจารย์จางฮุยจะแพง แต่มันก็มีเหตุผลที่ทำให้มันแพง เชิญมาแล้วก็ทำให้สบายใจเหมือนกัน
“หึ ฉินจุนไอ้หมอนี่มันไม่รู้ที่ต่ำที่สูง ในเมื่อรอดชีวิตมาได้ ก็ควรหาสถานที่ที่ไม่มีใครรู้จักแล้วใช้ชีวิตตรงนั้นนะ ยังกล้ากลับมาอีก ไม่กลัวตายจริงๆ ”
“ก็ดีเหมือนกัน พวกเราจะได้ใช้โอกาสนี้เพื่อตัดความสัมพันธ์ของเรากับตระกูลฉินต่อชาวโลก เพื่อคนอื่นไม่เข้าใจผิดอีกว่าตระกูลเรากับตระกูลฉินนั่นยังมีความสัมพันธ์แบบตระกูลสมรสอีก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้รักษาสุดแกร่ง