ตอน บทที่ 14 ตอนนี้นับฉันเป็นญาติแล้วเหรอ? จาก ผู้รักษาสุดแกร่ง – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 14 ตอนนี้นับฉันเป็นญาติแล้วเหรอ? คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายการโต้แย้ง ผู้รักษาสุดแกร่ง ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
ปัง!
จางฮุยล้มลงกับพื้นอย่างแรง อิฐหินโดนแรงกระแทกจนแตกหมด อวัยวะภายในสะเทือนไปมาอย่างดุเดือด ใบหน้าครึ่งหนึ่งของเขาขาดความรู้สึกไปเลย แต่ความเจ็บปวดจากแรงกระแทกกลืนกินไปทั่วร่างกายของเขา
ในใจจางฮุยรู้สึกตะลึงมาก
แค่ตบหน้าทีหนึ่ง สามารถทำให้เขาเป็นถึงขั้นนี้เลยหรือ!
ต้องมีพลังมหาศาลแค่ไหนกัน?
จางฮุย ฝึกฝนกังฟูหนักหน่วงเพียงนี้ จะพูดว่ามีฟันแทงไม่เข้าก็ไม่ได้ดูเวอร์วังอะไร แต่นี่แค่โดนตบหน้าทีเดียวก็ปางตาย นึกไม่ถึงเลยจริง ๆ
จากนั้น ฉินจุนยกขาข้างหนึ่งขึ้นแล้วเหยียบบนใบหน้าอีกครึ่งของจางฮุย
แม้จะเป็นเพียงแค่ขาข้างเดียว แต่เมื่อเหยียบบนใบหน้าของจางฮุยแล้ว ก็เหมือนถูกภูเขาไท่ซานทับเลยทีเดียว
เขาแทบจะสัมผัสได้ถึงเสียงแตกร้าวของกะโหลก ที่โดนฉินจุนนั้นค่อยๆ เหยียบย้ำ ความสัมผัสที่ละเอียดถึงขั้นที่รู้ว่ากะโหลกตัวเองกำลังจะถูกเหยียบจนระเบิดนั้น มันช่างสยองจริง ๆ
“ท่านปรามาจารย์โปรดไว้ชีวิต!”
หากจางฮุยยังไม่วอนขอความเมตตา เขาคงจะโดนเหยียบตายไปแล้ว
ทุกอย่างเกิดขึ้นไวมาก เพียงแค่พริบตาเดียว การประลองก็ได้จบลง
วินาทีที่แล้ว ยังเอามือไขว้หลังคุยโม้ว่าฉินจุนเป็นแมลงวัน เป็นนู่นนี่
วินาทีต่อมา ก็โดนฉินจุนเหยียบอยู่ใต้เท้า ตะโกนร้องขอความเมตตา
คนตระกูลถังทุกต่างตกใจจนโง่งมไปเลย ฉินจุนทำไมถึงได้เก่งขนาดนี้
จางฮุยงั้นเหรอ? เค้าคือปรามาจารย์ผู้มีชื่อเสียงโด่งดังเลยนะ ตระกูลมากมายที่มีเงินยังเชิญเขาไม่ได้เลย แต่ทำไมเมื่ออยู่ต่อหน้าฉินจุนแล้ว ช่างอ่อนแอขนาดนี้?
ฉินจุนยกขาขึ้น มองจางฮุยที่คลานนอนอยู่บนพื้นดั่งขี้โคลน เขายกนิ้วคีบเข็มเงินขึ้นมา แล้วปักไปยังศีรษะของจางฮุยแบบกะทันหัน
“ฉันไม่ยอมให้มือเปื้อนหรอก ให้เวลาแกสองนาที ให้พวกมันมาคุกเข่าต่อหน้าฉัน”
เดิมทีฉินจุนแค่ตบหน้าทีเดียวก็ทำเอาจางฮุยเกือบตาย นอนหายใจรวยรินอยู่กับพื้น แต่เมื่อเข็มเงินนี้ได้ปักลงบนศีรษะของเขา ก็เหมือนกับว่าเขามีชีวิตชีวาขึ้นมาทันทีเลย
ความกลัวที่มีต่อฉินจุนก็มาถึงขีดสุดแล้ว เมื่อจางฮุยได้ยินเช่นนี้ก็รีบลุกขึ้น ใบหน้าครึ่งหนึ่งของเขาย่นใบหน้า ดูดุร้ายมาก
เขาไม่กล้าขัดขืนคำสั่งของฉินจุนเลยสักนิด แข็งแกร่งมาก แข็งแกร่งมากจริง ๆ
กังฟูที่ไร้ที่ติและวิชาการแพทย์ที่มีหนึ่งเดียวบนโลก
ฉันอยากให้แกรอดแกก็จะรอด ฉันอยากให้แกตายแกก็จะตาย!
จางฮุยพุ่งเข้าไปหยุดอยู่หน้าทุกคนในตระกูลถัง ถีบไปที่หัวเข่าของพวกเขาคนละที พร้อมกับเสียงกระดูกแตกร้าวและเสียงกรีดร้อง คนตระกูลคุกเข่าลงกับพื้นทีละคนๆ
สุดท้ายเหลือแค่ถังเทียนห้าวที่นั่งอยู่บนรถเข็น จางฮุยหิ้วคอเสื้อเขาขึ้นมา อย่างกับหิ้วไก่ตัวน้อยตัวหนึ่ง แล้วโยนไปคุกเข่าอยู่หน้าฉินจุน
หัวเข่ากระแทกพื้น จากเดิมแผลเก่าที่ยังไม่ทันหายดีของถังเทียนห้าว เขาก็ต้องมาเจ็บปวดทรมานกับหัวเข่าอีกครั้ง เหงื่อเย็นท่วมตัว ไม่กล้าแม้แต่จะขยับ
เวลานี้ทุกคนในตระกูลถังต่างก็ตกใจกันแทบตาย แต่ละคนหน้าตาซีดเผือด ยังไงก็นึกไม่ถึงว่าฉินจุนจะเก่งขนาดนี้
“ฉิน ฉินจุน พวกเราถือเป็นญาติกันเลยนะ ตอนเด็กๆ ฉันยังเคยให้เงินรับขวัญแกเลย”
ฉินจุนมองคนที่กำลังพูด พร้อมยิ้มอย่างเย้ยหยัน
“ญาติงั้นเหรอ?”
“เมื่อกี้ตอนพวกแกให้มันมาเอาชีวิตฉัน ทำไมไม่คิดว่าเราเป็นญาติกันล่ะ?”
“คนตระกูลฉินถูกฆ่าล้างในคืนเดียว พวกแกแสร้งทำเป็นไม่รู้ ทำไมไม่คิดบ้างว่าเราเป็นญาติกัน?”
“ตอนที่ขังน้าเฝิงไว้ในกรง ทำไมไม่คิดล่ะว่าเราเป็นญาติกัน?”
“ตอนนี้คุกเข่าอยู่ตรงหน้าฉันแล้ว รู้จักกระดิกหางประจบเอาใจแล้วเหรอ? พวกแก ตระกูลถัง ยอมเป็นสุนัขให้คนอื่นจริงด้วยแฮะ ”
ถังเทียนห้าวคุกเข่าอยู่บนพื้น ใบหน้าซีดเผือด
“ฉินจุน เรื่องมันมาขนาดนี้แล้ว ฉันไม่มีอะไรจะพูด หวังว่าแกจะเห็นแก่บุญคุณของน้องสาวฉัน ไว้ชีวิตพวกเราด้วยเถอะ”
ฉินจุนยิ้มอย่างเย้ยหยัน “แกยังมีหน้ามาพูดถึงแม่ฉันอีกเหรอ?”
“ช่างเถอะ ฉันไม่อยากเถียงกับเศษสวะอย่างพวกแก ไม่มีประโยชน์อะไร”
“ฉันไว้ชีวิตพวกแกได้”
“แต่ฉันมีข้อตกลงสามข้อ ข้อแรก กราบขอโทษน้าเฝิงซะ”
เมื่อพูดจบ ฉินจุนกับน้าเฝิงก็ออกจากบ้านของตระกูลถัง
ทุกคนที่คุกเข่าต่างคนต่างมองหน้า หัวเข่าปวดจนไม่มีใครลุกขึ้นได้ สั่นกันไปหมด ฉินจุนช่างน่ากลัวจริงๆ
“พี่ใหญ่ พี่ว่าถ้าคุณพ่อรู้ จะทำยังไง?”
ตอนนี้ถังเทียนห้าวเจ็บปวดไปทั้งตัว ตอนนี้พิการไปครึ่งตัวแล้ว แล้วเขาส่ายหัว
“พ่อจะทำยังไงฉันไม่รู้ แต่ถ้าฉันยังโดนทรมานแบบนี้ต่อไป ฉันตายแน่”
พ่อเป็นยังไงลูกก็เป็นแบบนั้น ลูกหลานตระกูลถังก็เห็นแก่ตัวกันหมด นึกถึงแต่ผลประโยชน์ของตัวเอง ความเป็นความตายของคนอื่นหรือแม้กระทั่งของพ่อตัวเองยังไม่อยากสนใจเลย
ตระกูลถังทุกคนต่างก็รีบพากันพยุงถังเทียนห้าวขึ้น เพราะยังไงเขาก็เป็นคุณชายของตระกูล โดนฉินจุนเล่นงานต่อเนื่องสองรอบจนเป็นสภาพนี้ ไม่น่าเชื่อเลยจริงๆ
ท่านอาจารย์จางหน้ายุบไปแล้วครึ่งหนึ่ง ลักษณะดูสยดสยอง เขามองไปยังถังเทียนห้าวที่นั่งบนรถเข็น แล้วพูดว่า
“ฉันจะเตือนพวกคุณว่าอย่าเป็นศัตรูกับเขาเลย คิดเองให้ดีๆ ก่อนทำ”
พูดจบ จางฮุยก็จากไป
ความสามารถของฉินจุนนั้นพวกเขานึกไม่ถึงแน่นอน ถึงจะโดนตีไปแค่เบาๆ ทีหนึ่ง แต่การประลองฝีมือเมื่อกี้ จางฮุยก็รู้แล้วว่า ความแตกต่างระหว่างเขากับฉินจุนนั้นราวฟ้ากับดิน
ปรามาจารย์ที่เก่งระดับนี้ ไม่ใช่สิ่งที่ตระกูลถังนั้นจะล่วงเกินได้
คำพูดของจางฮุย ทำให้ถังเทียนห้าวนั้นหวาดกลัว
เขานั่งบนรถเข็น แล้วรายงานเรื่องนี้กับพ่อ
เมื่อถังหลงหมิ่นได้ยินเรื่องนี้ ก็รู้สึกโมโหอย่างมาก
“ช่างกล้า!มันช่างกล้าจริงๆ!”
“เศษซากของตระกูลฉิน คนต่ำต้อยอย่างมันช่างกล้ามาหาเรื่องฉัน ยังมีกฎตระกูลมีผู้อาวุโสอย่างฉันในสายตาบ้างมั้ย?”
ถังหลงหมิ่นโมโหจนทุบแก้วชาแตกไปหลายใบ ตอนนั้นแค่เรื่องการแต่งงานระหว่างตระกูลถังและตระกูลฉิน ก็นำพาหายนะมาให้ตระกูลถังแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะการกระทำที่เด็ดขาดของถังหลงหมิ่น คอยซ้ำเติมตระกูลฉิน เกรงว่าพวกเขาคงยืนหยัดมาได้ไม่ถึงตอนนี้
ไม่คิดเลยว่า เศษซากของตระกูลฉินยังกล้ากลับมารนหาที่ตาย!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้รักษาสุดแกร่ง