ฉินจุนเป็นหมออัจฉริยะ แม้ว่าการต่อสู้ของเขาจะดีมากๆ แต่บางครั้งเข็มเล็กที่มีอยู่ในมือของเขา ก็มักจะมีพลังมากกว่ากระบองซะอีก
เขาแทงเข็มทั้งสามลงไป ราวกับว่าพวกเขากำลังกดจุดที่เจ็บปวดที่สุดของกลุ่มผู้หญิงสามคนนี้ หลิวผิงผิงและคนอื่น ๆ กลิ้งไปมาบนพื้นเป็นเวลานาน และในที่สุดก็สงบลงด้วยใบหน้าซีดนอนราบกับพื้นด้วยความหนาวเย็น เหงื่อท่วมหน้า
หน้าผากและแก้มของพวกเขาเต็มไปด้วยฝุ่นและมีเหงื่อท่วมทั้งตัว แต่พวกเขาก็ไม่ได้รู้สึกถึงมันด้วยซ้ำ
หลังจากนั้น หลิวผิงผิงก็กระตุกทีหนึ่ง เธอพยายามขยับร่างกาย แต่พบว่าขาของเธอขยับไม่ได้
“ขาของฉัน ขาของฉัน!”
ในเวลานี้เข็มของฉินจุนถูกดึงออกมาเรียบร้อยแล้ว และตอนนี้ที่เข่าของพวกเธอไม่มีเข็มอยู่แล้ว แต่พวกเขาไม่รู้สึกอะไรเลย
ความรู้สึกนี้ทำให้พวกเขาหวาดกลัว และทั้งสามก็เริ่มบิดตัวไปมาบนพื้นอย่างบ้าคลั่ง ในเวลานี้พวกเขามีแต่ความกลัวในใจ กลัวว่าจะต้องใช้ชีวิตอย่างคนพิการ
ในใจของพวกเขาตอนนี้เริ่มสำนึกผิดแล้ว พวกเธอคิดว่าทำไมพวกเธอถึงรังแกหวังตงเสวี่ย……
คนเหล่านี้ถูกลงโทษตามสมควรแล้ว ฉินจุนดึงหวังตงเสวี่ยขึ้นรถและจากนนั้นต้วนเป่าตงและคนอื่น ๆก็เดินออกไปจากที่นั้นไปตามๆกัน
คำพูดของฉินจุน ทำให้หลายคนเงียบกริบ และจุดจบที่น่าเศร้าของ หลิวผิงผิงนั้นก็จะแพร่กระจายไปทั่วโรงเรียนในไม่ช้านี้อย่างแน่นอน
กลุ่มผู้หญิงสามคนนี้แต่เดิมเป็นผู้มีอำนาจของโรงเรียน นอกจากรังแกหวังตงเสวี่ยแล้ว พวกเขายังรังแกคนอื่นๆอีกด้วย
ชื่อของหวังตงเสวี่ยก็ดังผิดปกติในโรงเรียนเช่นกัน โดยที่ทุกคนต่างรู้กันว่าผู้หญิงคนนี้ไม่สามารถที่จะรุกรานได้ และคาดว่าจากต่อนี้ไปคงไม่มีใครกล้ารังแกเธออีก
ตอนที่ส่งหวังตงเสวี่ยกลับบ้านเสร็จ โชคดีที่เธอไม่ได้ตกใจอะไรมาก แต่สิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้มันก็เป็นเรื่องที่น่าตกใจไม่น้อย
“พี่ฉิน คนพวกนั้น พวกเขาทำอะไรกันเหรอ?”
ต้วนเป่าตง เพ่ยเหลียงและหลงอี้ฮุยที่มาทีหลัง ดูๆแล้วไม่ธรรมดาเลย พี่ฉินพี่เป็นหมอไม่ใช่หรอ แล้วพี่ไปรู้จักคนพวกนั้นได้อย่างไรกัน?
ฉินจุนกล่าวว่า “พี่เคยรักษาของพวกเขาให้หายน่ะ ก็เลยได้พวกเขาเป็นเพื่อน”
“อ๋อ ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง” คำอธิบายนี้มีเหตุมีผล
เมื่อกลับถึงบ้าน หวังตงเสวี่ยก็ขึ้นนอนอยู่บนเตียง ฉินจุนจับชีพจรของเธอ โชคดีที่เธอซ่อนตัวอยู่ใต้โต๊ะทำให้ไม่ได้มีอาการบาดเจ็บใด ๆ มีเพียงบาดแผลที่ผิวหนังเพียงเล็กน้อย
เธอดื่มน้ำขิงไปหนึ่งชาม เสร็จแล้วก็เตรียมเข้านอน
หวังตงเสวี่ยที่กำลังนอนอยู่บนเตียง จู่ๆก็ดึงมือของฉินจุน แล้วกัดริมฝีปากของเธอและพูดว่า
“พี่ฉิน…พี่รอจนกว่าฉันจะหลับ แล้วค่อยไปได้ไหม?”
“ได้สิ”
ฉินจุนนั่งอยู่ข้างเตียง หวังตงเสวี่ยห่มผ้าห่มและหลับตาลง สองมือจับมุมเสื้อผ้าของฉินจุนและหายใจช้าๆ
เมื่อมองไปที่ผู้หญิงคนนี้ ฉินจุนก็รู้สึกหวั่นไหวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หวังตงเสวี่ยเป็นเหมือนกระต่ายสีขาวน่ารัก น่ารัก ไร้เดียงสา…
ทันใดนั้นโทรศัพท์ของเขาก็สั่น ฉินจุนหยิบออกมาดู มันเป็นข้อความจากเย่หวันเอ๋อ
“พี่เสี่ยวจุน เหมือนว่าคอนเสิร์ตของซูเหวินฉีจะดูไม่ได้แล้ว คุณดูข่าวหรือยัง?”
ฉินจุนอึ้งไปชั่วขณะ คอนเสิร์ตดูไม่ได้แล้วงั้นเหรอ?
ก่อนหน้านี้เย่หวันเอ๋อและเฉินชูมีนัดกับฉินจุนเพื่อดูคอนเสิร์ตของซูเวินฉี นี่ก็จะถึงวันงานแล้ว แล้วทำไมถึงดูไม่ได้แล้วละ?
ปกติแล้วฉินจุนไม่ค่อยอ่านข่าวบันเทิง แม้หลังจากพบซูเวินฉีแล้ว เขาจะเข้าไปดูบ้างเป็นบางครั้ง แต่เขาก็ไม่ได้สนใจงานสำคัญๆ ในวงการบันเทิงมากนัก
เมื่อเย่หวันเอ๋อพูดแบบนี้ฉินจุนก็รีบเปิดเว่ยป๋อและเหลือบไปเห็นการค้นหาที่ร้อนแรง
แน่นอนว่าสองสามรายการแรกทั้งหมดเกี่ยวข้องกับซูเหวินฉี
“ซูเหวินฉีและเถียนอิงแข่งขันกันเพื่อเป็นเจ้าภาพจัดคอนเสิร์ต และซูเหวินฉีก็พ่ายแพ้ไป”
“คอนเสิร์ตซูเหวินฉี ตงไห่ ถูกบังคับให้ยกเลิก”
“ความขัดแย้งระหว่างซูเหวินฉีและเถียนอิง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้รักษาสุดแกร่ง