จู้ซานเตาตะลึงไปเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าฉินจุนจะมีความมั่นใจในตัวเองเช่นนี้ แต่เขาเองก็ไม่ได้พูดอะไร มีเขาอยู่ ก็ไม่มีใครสามารถรังแกฉินจุนได้
บรรยากาศภายในบ้านแปลกประหลาดมาก ยิ่งกว่านั้นพวกจู้หมิงก็พูดจาทำสิ่งต่างๆไม่ย่ำแย่ จู้หลินหลินไม่ชอบเล็กน้อย
ถือโอกาสในตอนที่ทุกคนเดินเข้าห้องไป จู้หลินหลินเดินไปข้างหน้าฉินจุน พูดเสียงเบาว่า
“พี่เสี่ยวจุน พวกเราออกไปกินของข้างนอกกันเถอะ เดินเล่นซื้อของกัน”
ในระยะเวลาช่วงนี้จู้หลินหลินรู้สึกว่ามีความกดดันหนักมาก อยากหาโอกาสไปผ่อนคลาย
ฉินจุนเองก็เห็นด้วยอย่างยินดี
ออกนอกประตูไป ฉินจุนขึ้นบนรถของจู้หลินหลิน
ทั้งสองคนมาถึงห้างสรรพสินค้าที่มีชื่อเสียง จู้หลินหลินคล้องแขนของฉินจุน ร่าเริงเต็มไปด้วยความสุข เหมือนคู่รักคู่หนึ่งอย่างไรอย่างนั้น
ฉากนี้ เหมือนกลับไปเมื่อสิบปีก่อน สิบปีก่อนที่วิ่งเล่นด้วยกัน ราวกับเป็นเมื่อวานอย่างไรอย่างนั้น
เดินเล่นอยู่ในห้างสรรพสินค้าครู่หนึ่ง กินของกินเล่นนิดหน่อย ทั้งสองคนก็เดินมานั่งลงข้างน้ำพุเล็กๆในห้างสรรพสินค้าครู่หนึ่ง
จู้หลินหลินพูดกลั้วหัวเราะ “พี่เสี่ยวจุน เสื้อผ้านี้… ควรจะเปลี่ยนได้แล้วไหม?”
ฉินจุนชะงักไป ก้มหน้ามองเสื้อผ้าของตนเอง ดูเหมือนจะเก่าๆหน่อยแล้ว
“ผมเพิ่งจะลงเขามาได้ไม่นาน ดังนั้นก็เลยไม่มีเวลาซื้อเสื้อผ้า”
อยู่บนเขามาสิบปี แม้ว่าฉินจุนจะลงเขามาออกตรวจอยู่บ่อยๆ แต่นั่นก็แค่บางครั้ง
อยู่บนเขาทุกวัน เจอหน้ากับอาจารย์ แต่งตัวใส่ชุดอะไรก็ไม่ได้มีความสนใจขนาดนั้นโดยปริยาย และก็ไม่ได้มีนิสัยชอบแต่งตัวด้วย
“แต่ตอนนี้ไม่ได้แล้ว ในตอนนี้คุณใส่อย่างนี้ก็กลายเป็นของแปลกแล้ว ไปกัน พวกเราไปดูเสื้อผ้า ฉันจะซื้อให้คุณ”
เสียงพูดของจู้หลินหลินอาจจะดังเล็กน้อย ดังนั้นมีคนจำนวนไม่น้อยเบนสายตามองมา อยากดูว่าผู้ชายที่ต้องให้ผู้หญิงซื้อเสื้อผ้าให้นั้นเป็นใคร
ทันใดนั้น ผู้หญิงคนหนึ่งก็ร้องทักขึ้นอย่างแปลกใจ
“จู้หลินหลิน?”
หันหน้ามองไปตามเสียงที่ดังมา เห็นเพียงผู้หญิงที่หน้าตาธรรมดาคนหนึ่ง ทั้งร่างเต็มไปด้วยเครื่องประดับแพรวพราว ดูแล้วฐานะทางบ้านจะดีมาก แต่งตัวทันสมัยอย่างมาก อายุประมาณจู้หลินหลิน แต่ออร่ากลับต่างกันราวฟ้ากับดิน
จู้หลินหลินขมวดคิ้ว
“อู๋ฟาง? ทำไมคุณอยู่ที่นี่?”
อู๋ฟางมองฉินจุนที่อยู่ด้านข้างทีหนึ่ง ดวงตาพลันวาววับ
“นี่! จู้หลินหลิน ไม่ใช่ว่าคุณบอกว่าจะไม่เป็นเหมือนฉันเหรอ สุดท้ายคุณก็ไม่ใช่ว่าเลี้ยงผู้ชายเหมือนกันเหรอ? ฮ่าๆ ยังมาพูดว่าฉันอีก ฉันเห็นว่าคุณเองก็ไม่ใช่ว่าเป็น‘สัตว์กินเนื้อ’เหรอ?”
จู้หลินหลินขมวดคิ้ว “คุณอย่าพูดจามั่วซั่ว!”
อู๋ฟางคนนี้เป็นคุณหนูของตระกูลอู๋ ไม่พูดถึงที่วันๆเธอเอาแต่ยโสโอหัง ไม่เป็นโล้เป็นพายเลยสักนิด ในสมองเต็มไปด้วยผู้ชาย
เพราะหน้าตาธรรมดา แน่นอนว่าเรื่องคบหากับใครก็คงไม่ได้ราบรื่นขนาดนั้น ดังนั้นก็เลยตัดบท อู๋ฟางใช้เงินฟาด เลี้ยงผู้ชายทุกหนทุกแห่ง
เลือกหลากหลายรสชาติ หน้าตาหล่อเหลา ร่างกายกำยำ ใช้จ่ายเงินไปมาก เล่นด้วยไม่กี่เดือนก็โล๊ะทิ้ง ตอนนี้เหมือนเสพติดไปแล้ว
ลูกหลานตระกูลคนรวยเหล่านี้ล้วนมีคนแบบนี้ปะปนคละเคล้ากันไป แต่เมื่อจู้หลินหลินรู้ว่าเธอมีนิสัยเช่นนี้ก็เลยปฏิบัติกับเธออย่างเคารพนับถือแต่ไม่ขออยู่ใกล้
คิดไม่ถึงว่าวันนี้กลับเจออยู่ที่นี่ได้
แม้ว่าอู๋ฟางกำลังพูดอยู่กับจู้หลินหลิน แต่สายตากลับสำรวจอยู่บนร่างกายของฉินจุนอยู่ตลอดเวลา
ผู้ชายคนนี้ตรงสเป็คเธอมากเลย หน้าตาดี รูปร่างดี ทั้งยังให้ความรู้สึกเย็นชาอย่างนั้นอีก ไม่เหมือนผู้ชายที่เกาะผู้หญิงกินคนอื่นพวกนั้น แค่เห็นเงินก็แทบจะคลานหมอบบนพื้นเลียเท้าของเธอทันทีอย่างทนรอไม่ไหว
แล้วก็ ทั่วทั้งร่างด้านบนด้านล่างของฉินจุนไม่มีของมีค่าเลยสักชิ้น แค่เห็นก็รู้ว่าออกมาจากภูเขาจนๆ คนแบบนี้ อ่อนไหวต่อเงินมาก ใช้เงินฟาดย่อมไม่มีปัญหาแน่นอน
อู๋ฟางอยากได้ใจจะขาด พูดกับจู้หลินหลินอย่างไม่เลี่ยงคำพูดใดๆแม้แต่น้อย
“คุณเลี้ยงเขามานานเท่าไหร่แล้ว? เล่นพอแล้วใช่ไหม อย่างนี้นะ คุณเอาให้ฉัน ฉันจะแนะนำคนที่ใหญ่ถึงใจไม่กี่คนให้ หรือไม่ ฉันให้เงินคุณก็ได้!”
พูดคำที่ไม่รู้จักอายอย่างนี้ออกมาต่อหน้าทุกคน ทำให้จู้หลินหลินเกิดความรู้สึกไม่พอใจจริงๆ
“คุณจะบ้าเหรอ นี่คือเพื่อนของฉัน!”
อู๋ฟางหัวเราะเสียงเย็น “เสแสร้งอะไรน่ะ เมื่อกี้ฉันได้ยินหมดแล้ว คุณจะใช้เงินซื้อเสื้อผ้าให้เขา อย่างนี้นะ คุณซื้อมาเท่าไหร่ฉันคืนให้คุณหมดเลยก็ไม่ได้เหรอ?”
“ถ้าคุณยังเล่นสนุกไม่พอ ฉันรอคุณสักไม่กี่วันหน่อยก็ได้!”
จู้หลินหลินถูกทำให้รู้สึกรังเกียจเข้าแล้วจริงๆ เป็นลูกสาวคนรวยเหมือนกัน แต่เธอไม่สามารถเข้าใจได้จริงๆ ทำไมอู๋ฟางถึงเปลี่ยนไปเป็นอย่างนี้ได้
“พี่เสี่ยวจุน พวกเราไปกันเถอะ อยู่ไกลๆจากเธอหน่อย”
เห็นทั้งสองคนลุกขึ้นยืน อู๋ฟางก็ร้อนรน ขวางอยู่ตรงหน้าของทั้งสองคนในพริบตา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้รักษาสุดแกร่ง