สีหน้าของเหลยหงก็ดูเขินอาย มันเป็นสีหน้าที่หาได้ยากมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอคิดถึงเรื่องต่างๆที่ผ่านมา ในตอนนี้เธอก็รู้สึกเขินอายเล็กน้อย แต่โชคดีที่เป็นหัวหน้าของแก๊ง เธอก็เลยสงบลงได้อย่างรวดเร็ว
หลังจากตรวจชีพจรแล้ว ฉินจุนก็พูดออกมาว่า
“อาการไม่ร้ายแรงอะไรมาก สาเหตุหลักคือระบบย่อยอาหารไม่ดี น่าจะเพราะกินผักน้อยเกินไป ต่อไปต้องบังคับตัวเองให้กินผักผลไม้มากขึ้น ผมจะให้เยวี่ยเหยาสั่งเกลือแร่ให้คุณ กินไม่กี่วันก็จะเห็นผลแล้วหละ”
เหลยหงพยักหน้า “ขอบคุณมากค่ะคุณหมอฉิน”
หลังจากพูดจบ เหลยหงก็หยิบนามบัตรสีดำที่มีขอบสีทองออกมาแล้วยื่นให้ฉินจุน
“คุณฉิน นี่คือนามบัตรของฉัน ต่อไปถ้าคุณมีโอกาสเข้ามาในเมืองก็ติดต่อฉันมานะคะ ฉันจะทำหน้าที่เป็นเจ้าบ้านเอง!”
ฉินจุนพยักหน้าแล้วรับนามบัตรมา จากนั้นก็เอามันใส่ลงในกระเป๋าของเค้า
เมื่อโจเอลเห็นว่าเหลยหงดีขึ้นแล้ว เค้าก็เดินเข้ามาแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม
“พี่หง พี่ไม่เป็นอะไรแล้วใช่ไหม ก่อนหน้านี้พี่อยู่ที่โรงพยาบาลในมณฑล ผมลุ้นมากเลย แต่ผมก็คิดไม่ถึงเลยว่าพอเอาตัวพี่มาที่นี่พวกเค้าจะสามารถรักษาพี่ให้หายได้อย่างง่ายดาย ตอนแรกผมเองก็เป็นกังวลมากว่าอาการของพี่มันจะรุนแรง ผมเองก็เลยไม่กล้าที่จะเสี่ยงเลย”
ตอนที่พูดออกมาแบบนี้ โจเอลก็ไม่ได้รู้สึกเขินอายอะไรเลย มันเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าทั้งหมดนี่มันเป็นความผิดของเค้า แต่ตอนนี้พอเหลยหงหายดีแล้ว เค้าก็พูดจาเอาดีทั้งหมดเข้าตัวเอง
ในคำพูดของเค้ามันก็ชัดเจนมาก เค้าพูดราวกับว่าทั้งหมดนี่มันเป็นเพราะเค้า ดังนั้นเมื่อฉินจุนกับคนอื่นๆเห็นแบบนี้ พวกเค้าต่างก็รู้สึกแหวะ
เหลยหงเหลือบมองเค้าอย่างเย็นชา
“คุณโจเอล คุณคิดว่าฉัน เหลยหงเป็นคนโง่อย่างงั้นเหรอ?”
สีหน้าของโจเอลเปลี่ยนไปเล็กน้อยแล้วเค้าก็รีบพูดขึ้นมาว่า
“พี่หง ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้น แน่นอน ผมไม่ได้ช่วยอะไรมากกับการรักษาอาการป่วยของพี่ แต่ผมมั่นใจในความพยายามของผมนะครับ”
เหลยหงถอนหายใจออกมาอย่างเย็นชา “แม้ว่าฉันจะอยู่ในอาการโคม่า แต่ฉันได้ยินทุกอย่าง แม้ว่าฉันจะไม่ค่อยได้สติ แต่ฉันก็รู้ว่าคุณไม่มีจรรยาบรรณทางการแพทย์เลย”
“ที่แย่ที่สุดคือคุณยังมีหน้าจะมาโกหกฉันอีกเหรอ”
“เหล่าฉวน! เอาตัวมันออกไป!”
หลังจากที่เหล่ยหงพูดจบ ชายหัวล้านก็จับโจเอลหักแขนแล้วเตะเค้าออกไป
“พี่หง! พี่หง ผมผิดไปแล้ว พี่หง…อ้า!”
มันไม่ต้องเดาจุดจบของโจเอลเลย มันต้องน่าเศร้ามากแน่ๆ
คิดไม่ถึงเลยว่าเหลยหงที่เป็นผู้หญิง เธอจะมีความเด็ดขาดมากขนาดนี้ ไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาจะได้เป็นหัวโจ๊กของเมืองเอกในมณฑล
“คุณฉิน ถ้ามีโอกาสเราจะไปพบกันอีก ฉันชื่นชมคุณมาก”
เหลยหงชื่นชมฉินจุน แต่มันไม่ใช่ทักษะทางการแพทย์ของเค้าเท่านั้น
เมื่อกี้ในตอนที่เธอออกมา เหลยหงก็มองเห็นปืนบนพื้นในห้องฉุกเฉิน
มันมีร่องรอยการบีบที่ชัดเจนและกระบอกปืนมันก็ถูกบีบจนบิดเบี้ยว มันเห็นได้ชัดว่ามันถูกบีบด้วยมือ
ปืนพกที่ทำด้วยโลหะ การบีบมันด้วยมือเปล่านี่ มันจะต้องใช้แรงขนาดไหนกัน?
คนที่อยู่ที่นี่ไม่น่าจะมีใครทำได้ แม้แต่เหล่าฉวนเองก็ตาม
มันมีเพียงแค่คำอธิบายเดียวก็เท่านั้น คนๆนั้นก็คือฉินจุน
ฉินจุนที่ดูสงบนิ่ง เค้าดูไม่มีความผันผวนอะไรเลย แม้ว่าจะกำลังเผชิญหน้ากับชายร่างใหญ่อย่างเหลยหง เค้าก็ไม่ได้กลัวหรือตื่นตระหนกอะไรเลย
นายฉินคนนี้ เค้าไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน
ฉินจุนก็ยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย “คุณเหลยพักผ่อนให้เยอะๆนะครับ ถ้าคุณต้องการเจอผมก็สามารถติดต่อผ่านตวนเป่าตงได้เลย”
เหลยหงตกใจ ตวนเป่าตง?
ตวนเป่าตงป็นคนดัง ก่อนหน้านี้เกาเฉินก็ต้องการที่จะครอบครองเมืองตงไห่ แต่เค้าก็ต้องมาตาย ตวนเป่าตงน่าจะเป็นคนลงมือ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้รักษาสุดแกร่ง