เมื่อเห็นว่าหลินเยวี่ยเหยาเริ่มดูสมุดจดทางการแพทย์นั่นอีกครั้ง ทันใดนั้นโจเอลก็ตะโกนขึ้นมา
“เธอพึ่งพาของแบบนี้เพื่อรักษาคนไข้อย่างงั้นเหรอ? นี่มันไม่บ้าไปหน่อยเหรอ!”
โจเอลคว้าสมุดจดทางการแพทย์นั่นมา จากนั้นเค้าก็พูดกับชายหัวล้านด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม
“คุณดูนี่สิ เค้าใช้สมุดจดนี่ในการรักษาโรคของคุณเหลยหง นี่มันอันตรายถึงตายได้เลยนะ!”
“สมุดจดนี่มันไม่มีแม้แต่ผู้เขียน หรือแหล่งที่มา มันไม่มีความน่าเชื่อถือเลย มันไม่มีอะไรเลย เธอกล้าที่จะรักษาคนไข้ตามสมุดจดเล่มนี้อย่างงั้นเหรอ?”
“คุณครับ ทั้งหมดนี่มันเป็นความรับผิดชอบของเธอคนเดียว!”
ชายหัวล้านก็หยิบสมุดจดทางการแพทย์เล่มนั้นมา เมื่อเห็นว่ามันเป็นแค่สมุดจดที่ไม่มีใบรับรองที่น่าเชื่อถือได้ ทันใดนั้นใบหน้าของเค้าก็มืดมนลง
“แกคิดว่าพี่หงเป็นใครกัน เปลี่ยนหมอเดี๋ยวนี้!”
ทันทีที่ชายหัวล้านพูดจบ ฉินจุนก็เดินเข้ามาที่ประตูในทันที
“มาให้ฉันดูมา”
เมื่อเห็นฉินจุนแต่งกายด้วยเสื้อผ้าธรรมดาเดินเข้ามา ชายหัวล้านก็ขมวดคิ้วขึ้นมา
“แกเป็นใครกัน?”
ฉินจุนไม่สนใจเค้าแล้วเดินตรงเข้าไปหาผู้ป่วยในทันที เมื่อเค้ามองเห็นเหลยหงที่นอนหลับตา กัดฟันแน่นและหน้าซีด เค้าก็ขมวดคิ้วขึ้นมาแล้วเริ่มตรวจชีพจรในทันที
เมื่อเธอเห็นฉินจุนที่เดินเข้ามา หลินเยวี่ยเหยาถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก แม้ว่าในสายตาของเธอ ฉินจุนจะเก่งมาก แต่เค้าก็เป็นแค่แพทย์แผนจีนก็เท่านั้น แน่นอนว่าในด้านการแพทย์แผนจีนเค้าเก่งมากและหนังสือเล่มนี้มันก็ถูกเขียนขึ้นมาด้วยลายมือของเค้าเอง ไม่แน่เค้าอาจจะมีวิธีการในการแก้ไขปัญหานี้
เมื่อเห็นว่าฉินจุนเริ่มที่จะตรวจอาการคนไข้โดยไม่พูดอะไร ชายหัวล้านก็โกรธขึ้นมาเล็กน้อย เค้าหยิบปืนพกขึ้นมาแล้วเล็งไปที่หน้าผากของฉินจุน
“ไม่ได้ยินที่ฉันถามเหรอ?”
ฉินจุนก็ขมวดคิ้วขึ้นมา เค้าเองก็ใจร้อนเล็กน้อย เค้ายกมือขึ้นเพื่อคว้าปืนพกและบีบมันอย่างดุเดือด
แคร็ก!
ลำกล้องของปืนที่ทำด้วยโลหะก็เสียรูปไปเพราะการบีบของฉินจุน ปืนพกที่เย็นเฉียบก็เริ่มร้อนจัดขึ้นมาในทันที ชายหัวล้านก็โยนมันออกไปในทันที ปืนนั่นมันก็ตกลงไปที่พื้นโดยตรง
ฉินจุนก็พูดขึ้นมาอย่างเย็นชาว่า “ถ้าต้องการให้ช่วยเหลือคน อย่างงั้นก็อย่ามาพูดเรื่องไร้สาระให้มันมาก”
ชายหัวล้านก็ถีบถอยหลังไปสองสามก้าว สีหน้าของเค้ามันดูไม่ได้เลย เค้าเองก็คิดไม่ถึงเลยว่าชายคนที่อยู่ตรงหน้านี่ มันจะแข็งแกร่งขนาดนี้!
มันสามารถทุบปืนได้ด้วยมือเปล่า?!
“หึ ถ้าพี่หงรักษาไม่ได้ ก็ไม่มีใครสามารถออกจากโรงพยาบาลนี้ได้ทั้งนั้น!”
ชายหัวล้านก็ยืนเฝ้าที่ประตูแล้วหยิบปืนขึ้นมาอีกครั้ง หากว่าพี่หงเป็นอะไรไป เค้าเองก็จะไม่รีรอที่จะจัดการคนพวกนี้ ต่อให้ฉินจุนจะเก่งกาจมาแค่ไหนก็ตาม เค้าก็จะไม่เกรงกลัวอะไรทั้งนั้นเลย
“ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ?”
ฉินจุนตรวจดูอาการและพบว่าอาการป่วยของเหลยหงนั้นมันค่อนข้างง่ายที่จะรักษา
มันคือการไหลย้อนกลับของอาการท้องอืดท้องเฟ้อ
คนแบบนี้มักรู้สึกหิวอยู่ตลอดเวลาและเมื่อรู้สึกหิวแล้วไม่มีอาหารเข้าปาก พวกเค้าก็จะเป็นลมไป แท้จริงแล้ว สิ่งแบบนี้การรักษาแผนปัจจุบันก็เรียกโรคนี้ว่าเป็นภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ
หลินเยวี่ยเหยาก็พยักหน้าขึ้นมา “มันเป็นภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ แต่คนไข้แพ้ยาปฏิชีวนะ ก็เลยใช้ยาพวก cephalosporin กับ penicillin ไม่ได้ ดังนั้นก็เลยต้องใช้ยาแผนโบราณ”
ฉินจุนก็พยักหน้าขึ้นมา อาการแพ้ยาปฏิชีวนะมันเป็นเรื่องยากที่จะจัดการ แม้แต่ในการแพทย์แผนจีน มีส่วนผสมของยาจำนวนมากที่เป็นยาปฏิชีวนะและไม่สามารถใช้ได้
อย่างไรก็ตาม หากสั่งจ่ายยาตามใบสั่งยาที่เขียนโดยฉินจุนมันก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรแล้ว
ฉินจุนมองย้อนกลับไปที่โจเอลแล้วถามว่า
“ก่อนหน้านี้นายสั่งจ่ายยาอะไรให้เธอ?”
สีหน้าของโจเอลก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย “ฉันไม่ได้จ่ายยาอะไรให้เธอเลย ในตอนที่คนไข้โคม่า เธอก็ถูกส่งตัวมาที่โรงพยาบาลของคุณในทันที อย่ามากล่าวหากันแบบนี้นะ!”
ฉินจุนก็ขมวดคิ้วขึ้นมา “นายควรคิดให้ดีก่อนพูดนะ อย่ามาพูดจาแบบนี้กับฉัน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้รักษาสุดแกร่ง