ตอน บทที่ 417 นายก็เป็นหมองั้นหรือ? จาก ผู้รักษาสุดแกร่ง – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 417 นายก็เป็นหมองั้นหรือ? คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายการโต้แย้ง ผู้รักษาสุดแกร่ง ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
ไห่หนิงขมวดคิ้วมุ่น, “ปู่ไม่ได้ป่วยอะไร จะต้องไปตรวจอะไรกัน?ครั้งก่อนไปตรวจแล้วไม่ใช่หรือไง ไม่ได้เป็นอะไร อย่ามาวุ่นวายกับปู่หน่า!”
ดูแล้วไห่หนิงไม่ใช่แค่อคติกับฉินจุนคนเดียว แต่อคติกับหมอทุกคน เขาคิดว่าตัวเองไม่ได้ป่วยอะไรก็เท่านั้น
“คุณปู่นี่จริง ๆ เลยนะคะ……เห้อ หนูนัดแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเอาไว้แล้ว อีกเดี๋ยวก็คงมาตรวจคุณปู่”
ไห่หนิงถลึงตาใส่เธอ แต่ก็ไม่ได้ตอบโต้อะไร เพราะอย่างไรก็ตามเขาไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองป่วย จากนั้นก็เดินตรงเข้าห้องไปอย่างโมโห
เหยาเหยาถอนหายใจ นั่งลงด้วยใบหน้าเป็นกังวล
เหลยหงเอ่ย “เหยาเหยาไม่ได้ต้องกังวลไป ท่านนี้คือคุณฉินเป็นหมอที่พี่พามา เขาเองก็ช่วยดูอาการคุณปู่ให้ได้”
เหยาเหยาขมวดคิ้วเข้าหากัน มองสำรวจฉินจุนแล้วเอ่ย
“เขาเป็นหมอเหรอพี่?เด็กไปหรือเปล่า?”
เหลยหงยิ้ม “ถึงแม้ว่าคุณฉินจะอายุยังน้อย แต่ว่าฝีมือการรักษานั้นสุดยอดมาก”
เหยาเหยาส่ายหน้าอย่างจนปัญญา “ช่างมันเถอะ พี่หงไม่ต้องไปสนใจหรอกค่ะ อาการของปู่ฉัน น่าจะเป็นโรคปอดอักเสบ น่าจะเป็นเพราะตอนหนุ่ม ๆ ท่านสูบบุหรี่จัดเกินไป”
เดิมทีฉินจุนไม่ได้อยากจะพูดอะไร แต่ว่าฟังที่เหยาเหยาพูดเรื่องอาการป่วยก็อดไม่ได้
“ท่านอาวุโสไห่ไม่ได้เป็นปอดอักเสบ แต่เป็นโรคขาดสารอาหารครับ”
พอฉินจุนพูดจบ เหยาเหยาก็ขมวดคิ้วเข้าหากันทันที
“โรคขาดสารอาหาร?นายเอาอะไรมาพูด คุณปู่ของฉันจะขาดสารอาหารได้ยังไง?นายไม่เห็นหรือไงว่าครอบครัวของเรามีฐานะแบบไหน นายจะบอกว่าคุณปู่ฉันไม่มีเงินซื้อข้าวกินงั้นเหรอ?”
เดิมที่เหยาเหยาก็โมโหเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว พอได้ยินฉินจุนพูดแบบนี้ เธอก็ยิ่งโมโห
ฉินจุนขมวดคิ้ว “โรคขาดสารอาหารสามารถแบ่งได้หลายประเภท ไม่ใช่ว่าจะมีแต่คนที่ไม่มีเงินกินข้าวเท่านั้นที่จะเป็นโรคสารอาหาร มีพวกเหล่าเศรษฐีหลายคนก็เป็นโรคขาดสารอาหารเหมือนกัน อาการป่วยไม่ได้เกี่ยวกับความรวยความจน ร่างกายของท่านอาวุโสไห่ขาดสารอาหารจำนวนมาก จะต้องมีปัญหาเรื่องการกินและการพักผ่อนในชีวิตประจำวันแน่นอน”
เหยาเหยายิ่งได้ฟังก็ยิ่งโมโหเข้าไปอีก
“นายจะบอกว่าพวกฉันดูแลคุณปู่ไม่ดีอย่างนั้นเหรอ?หมอเขาให้มารักษาคนไข้ ไม่ได้ให้มาต่อว่าญาติคนไข้ นายมาพูดพล่ามพวกนี้มีประโยชน์อะไร?”
ฉินจุนเอ่ย “ผมเพียงแค่บอกสาเหตุของอาการป่วยกับคุณก็แค่นั้น การรักษาโรค มันจะต้องจำเป็นที่จะต้องรู้ต้นตอของโรค ถ้าหากไม่แก้ไขอาการขาดสารอาหาร ถึงแม้ว่าจะรักษาหายแล้ว ต่อไปก็อาจจะเป็นขึ้นมาอีกได้”
ท่านอาวุโสท่านนี้มีอาการขาดสารอาหาร จากการที่ได้สำรวจชีพจรพบว่า ไฟในตับของท่านอาวุโสนั้นปะทุ ต้องเป็นเพราะว่าปกติแล้วทานแต่เนื้อสัตว์และทานผักน้อยมากแน่ ๆ
โรคขาดสารอาหารประเภทนี้ไม่ใช่เพราะว่าครอบครัวฐานะไม่ค่อยดี แต่เกิดจากนิสัยการกินส่วนตัวล้วน ๆ
มีบางคนไม่ชอบทานผัก ถึงแม้ว่าคุณจะเป็นคนรวย วัน ๆ กินแต่เนื้อสัตว์เนื้อปลา แบบนี้ก็ทำให้เกิดโรคขาดสารอาหารได้เช่นกัน
เหยาเหยาพูดจาเต็มไปด้วยอารมณ์ความโมโห ไม่ฟังเหตุผลใด ๆ ให้ชัดเจน มาถึงก็ต่อว่าอย่างเดียว
เหลยหงก็รีบเข้ามาไกล่เกลี่ย “เหยาเหยา คุณฉินเขาไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น เราทุกคนต่างก็ทำเพื่อรักษาอาการป่วยของคุณปู่ไม่ใช่เหรอ เมื่อกี้ตอนพี่เข้ามา ก็เห็นคุณปู่กำลังไอ”
พูดจบ ชายชราก็เดินออกมาจากห้องได้ยินคนพวกนี้คุยกันก็กลอกตามองบน
“ไอไม่กี่ทีก็ถือว่าป่วยแล้วเหรอ?พวกเรานี่ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ไปได้”
ไหน ๆ คนไข้ก็ออกมาแล้ว ฉินจุนก็เอ่ยออกมาตรง ๆ เลย
“คุณท่านครับ นี่ไม่ใช่ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่นะครับ อาการป่วยของท่านรุนแรงมาก ถ้าหากไม่รีบทำการรักษา เกรงว่าอย่างที่สุดหนึ่งเดือนกว่าเท่านั้นคุณท่านจะกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียงได้เลย”
เหยาเหยาถลึงตา “นายพูดบ้าอะไรของนาย!นายแข่งคุณปู่ของฉันงั้นเหรอ?”
เหยาเหยาถลึงตาใส่ใบหน้าเต็มไปด้วยความโมโห
สีหน้าของฉินจุนนิ่งขรึมขึ้นมาทันที ในเมื่อญาติคนไข้ไม่ให้เกียรติเขาขนาดนี้ เขาก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ต่อ
ถึงแม้ว่าอาการป่วยของชายชราท่านนี้จะรุนแรงมาก แต่ว่าเรื่องนี้มันเกี่ยวอะไรกับเขาล่ะ?
ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเห็นแก่หน้าของเหลยหงล่ะก่อน เขาไม่มาที่นี่ด้วยซ้ำ
“ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นผมขอตัวก่อน”
“ฉันไปด้วยค่ะ”
เหลยหงเองก็ออกอาการโมโห ไม่คิดเลยว่าเหยาเหยาจะไม่ไว้หน้าเธอขนาดนี้ หล่อนทำเกินไปจริง ๆ
ในขณะที่ทั้งสองคนเตรียมจะออกไป จู่ ๆ ก็มีรถออดี้A8ก็ขับเข้ามาจอด พอประตูหลังถูกเปิดออก ก็มีชายวัยกลางคนใส่เสื้อคลุมแบบจีนเดินลงมา ผมของเขาถูกหวีจนอย่างเรียบร้อย ไม่มีหลุดร่วง ดูท่าทางไม่ธรรมดา
พอเห็นชายคนนี้ เหยาเหยาก็ตื่นเต้นขึ้นมาทันที เธอรีบเดินออกไปยืนต้อนรับอย่างเคารพ
“ท่านอาจารย์หมอเหยียน ในที่สุดท่านก็มาแล้ว พวกเรารอท่านนานแล้วค่ะ”
แม้ว่าเหยาเหยาในฐานะหลานสาวของตระกูลไห่จะมีฐานะดีมาก แต่เธอก็ไม่กล้าอวดดีเกินไปต่อหน้าท่านอาจารย์หมอเหยียน เพราะถึงอย่างไรท่านก็เป็นหมอ เธอจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากท่าน ต้องทำตัวดีนิดนึง
ท่านอาจารย์หมอเหยียนพยักหน้า ขณะที่กำลังจะเอ่ยปากพูด ก็เห็นฉินจุนเข้าพอดี ดวงตาของเขาก็เปล่งประกายขึ้นมาทันที
“ท่านปรมาจารย์ฉิน!ทำไมท่านมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะครับ!”
ท่านอาจารย์หมอเหยียนรีบปิดประตูรถ ก่อนจะรีบเดินมาตรงหน้าฉินจุน จับมือด้วยความตื่นเต้น ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มีการก้มโค้งเว่อร์วังอะไรขนาดนั้น แต่ก็แสดงถึงความเคารพและอ่อนน้อมถ่อมตน
ใบหน้าที่เดิมทีเต็มไปด้วยความจริงจังตอนนี้กลับเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ท่าทางไม่เหมือนกับตอนแรกอย่างสิ้นเชิง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้รักษาสุดแกร่ง