พอเห็นซูเหวินฉีปรากฏ สีหน้าของจู้หมิงและจู้ซานกูก็เปลี่ยนไปทันที
ซูเหวินฉี !
แม้ว่าพวกเขาจะไม่ค่อยรู้เรื่องวงการบันเทิง แต่ก็ได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของซูเหวินฉี โด่งดังคนรู้จักทั่วบ้านทั่วเมือง เป็นราชินีแห่งวงการบันเทิง!
โหวยวิ๋น ถึงแม้ว่าจะมีชื่อเสียงมานาน แต่ถ้าพูดถึงเรื่องความโด่งดังและอิทธิพลนั้น เทียบไม่ได้กับซูเหวินฉี
ทั้งสองคนไม่ได้อยู่ระดับเดียวกันเลยด้วยซ้ำ คิดไม่ถึงเลยว่า ยัยจู้หลินหลินจะเชิญซูเหวินฉีมาเป็นพรีเซนเตอร์ได้!
ในโฆษณา ซูเหวินฉีเล่นเป็นนักข่าว
ตามกล้องไป เธอเดินเข้าไปในบ้านของคนชาวบ้านคนหนึ่ง
ภายในบ้านมีผู้ป่วยโรคเบาหวานกำลังนอนอยู่บนเตียง โดยฉีดอินซูลินเข้าไปในท้องเพื่อลดน้ำตาลในเลือด เตรียมจะทานอาหาร
ตอนนั้นเองซูเหวินฉีก็ส่งถังเสินหมายเลข 2 ให้
หลังจากผู้ป่วยทานยาเข้าไป ก็ทำการเช็กค่าน้ำตาลในเลือด พอผลออกมาทุกคนก็ต่างทำท่าทางตกใจ
หลังจากนั้น ผู้ป่วยก็กินข้าวในจานที่ไม่ได้กินมานานอย่างตื่นเต้น ดื่มเครื่องดื่มที่ไม่ได้ดื่มมานาน
โฆษณามีระยะเวลาไม่นาน ประมาณ 30 วินาที ไม่มีบทสนทนา มีเพียงดนตรีประกอบ ในช่วงเวลานั้นจะมีการถ่ายโคลสอัพของยาถังเสินหมายเลข 2 และถ่ายสโลว์โมชั่นเล็กน้อย การทำโฆษณาประเภทนี้ดูผิวเผินก็ไม่ได้มีความคิดสร้างสรรค์อะไร ออกจะดูธรรมดาด้วยซ้ำไป
แต่ว่าในแง่มุมของการโปรโมตทำให้คนดูเข้าใจนั้น กลับตราตรึงและทำให้คนจดจำ
รู้ไหมว่าจู้หลินหลินลงทุนกับค่าโฆษณาสองพันล้านหยวน ในด้านการทำโฆษณานั้นเธอทุ่มไม่อั้น
หลังจบโฆษณา ครอบครัวจู้หมิงก็ตกอยู่ในความเงียบทันที สีหน้าแต่ละคนต่างเคร่งเครียดอย่างสุด ๆ
การตลาดของถังเสินหมายเลข 2 นี้ เกรงว่าคงจะสกัดไม่อยู่แล้ว ทั้งมีประสิทธิภาพ มีการโปรโมต มีพรีเซนเตอร์ เมื่อใดที่ออกสู่ตลาดมันต้องดึงดูดความสนใจจนสะเทือนวงการแน่ ๆ
“ยานี้ของพวกมันขายเท่าไหร่?”
“พี่ใหญ่ เหมือนว่าจะขายอยู่ที่ แปดร้อยกว่าหยวนนะ”
แปดร้อยกว่าหยวน……
จู้หมิงอิจฉาริษยาจนกัดฟันกรอด เขารู้ดีว่า ผลลัพธ์ของยานี่ อย่าว่าแต่แปดร้อยกว่าหยวนเลย ต่อให้แปดพันหยวนก็มีคนซื้อ
ถ้าหากจู้หลินหลินขายราคาสูงกว่านี้ก็ยังดี เขายังสามารถอยู่ในตลาดราคาล่างขายให้พวกลูกค้าที่ไม่มีเงินซื้อยาราคาแพงได้
แต่ว่าตอนนี้ ยาถังเสินหมายเลข 2 ราคาแปดร้อยกว่าหยวนก็ไม่ได้ถือว่าแพงมาก ผู้ป่วยที่สามารถซื้อยาถังโยว่สองขวดต่อเดือนได้ ก็สามารถซื้อยาถังเสินหมายเลข 2 ได้แน่นอน
ตอนนี้พวกเขาจบเห่แล้ว
ไม่นาน โทรศัพท์ของจู้หมิงก็ดังขึ้น
“ฮัลโหล ประธานสวี่?อะไรนะ!จะหยุดร่วมมือกับเรา?แต่ว่าสัญญาของเรายังเหลืออีกตั้งครึ่งปีนะ แบบนี้ถือว่าคุณผิดสัญญานะ……”
หลังจากนั้นไม่กี่วินาที สีหน้าของจู้หมิงก็เคร่งเครียดเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอย่างสับสนหลายรอบ
เขาขมวดคิ้วและมีสีหน้าเคร่งเครียดทันทีหลังจากวางสาย
“ประธานสวี่ยอมละเมิดสัญญา และต้องการยุติความร่วมมือกับพวกเรา พวกเขาต้องการได้สิทธิ์ตัวแทนของยาถังเสินหมายเลข 2”
จู้ซานกูได้ยินดังนั้นก็ตบโต๊ะลุกขึ้นยืน “อะไรนะ!ที่แท้ยัยเด็กนั่นตั้งใจขัดขาเรา?ถึงได้ใช้กฎนี้มาบีบบังคับพวกเรา?หล่อนยังเป็นคนของตระกูลจู้อยู่ไหม ทำไมถึงได้หน้าด้านขนาดนี้!”
จู้ซานกูก็เป็นคนเห็นแก่ตัวแบบนี้ เวลาที่เธอวิจารณ์คนอื่น เธอเป็นคนตรงไปตรงมามาก แต่เวลากับตัวเองเธอไม่เคยคิดถึงเรื่องพวกนั้นบ้างเลย
สิ่งที่พวกเขาทำกับจู้หลินหลินก่อนหน้านี้ก็ถูกลืมไปหมด
จู้หมิงถอนหายใจ “จบแล้ว ยัยจู้หลินหลินมันทำให้พวกเราจนตรอก!”
จู้ซานกูครุ่นคิดทันใดนั้นก็เอ่ย
“พี่ใหญ่ ฉันยังมีอีกวิธีหนึ่ง!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้รักษาสุดแกร่ง