จู้หมิงได้ยินดังนั้นก็หัวเราะออกมาอย่างสมเพช
“แกกำลังฝันกลางวันอยู่หรือไง?ขนาดพวกแกยังเอาตัวเองไม่รอด แล้วยังจะพูดจาเหลวไหลอะไรอีก?”
“ให้ฉันคุกเข่าขอร้องหล่อน?แกฝันลม ๆ แล้ง ๆ ต่อไปเสียเถอะ!”
พูดจบ จู้หมิงสองพี่น้องก็เดินออกไปทันที
จู้หลินหลินโมโหอย่างมาก ลุงใหญ่นี่หน้าด้านไร้ยางอายสุด ๆ ไปเลย ยาถังโย่วเป็นยาที่พวกเธอสองพ่อลูกเป็นคนคิดค้นขึ้นมาก็ถูกลุงใหญ่แย่งไปยื่นเรื่องจดสิทธิบัตร
มาตอนนี้ พวกเขายังมีหน้ามาอยากได้ส่วนประกอบยาของถังเสินอีก?พวกเขาต่างหากที่ต้องฝันลม ๆ แล้ง ๆ !
หลังจากที่สองคนนั้นกลับไป จู้หลินหลินก็หยิบโทรศัพท์ออกมา กดโทรออกหาเหล่าดาราดังของตงไห่หลายต่อหลายคน ผลสุดท้ายต่างโดนคนเหล่านั้นปฏิเสธกันหมด
ถึงแม้ว่าเหตุผลที่ปฏิเสธจะมีหลากหลายเหตุผลมากมาย แต่สุดท้ายคำตอบก็เหมือนกัน ก็คือการปฏิเสธการเป็นพรีเซนเตอร์
จู้หลินหลินขมวดคิ้ว “ต้องเป็นฝีมือของจู้หมิงแน่ ๆ !”
ฉินจุนหัวเราะอย่างเย็นชา “หมอนั่นไม่ได้มีความสามารถขนาดนั้น จะต้องมีคนช่วยเหลืออยู่เบื้องหลังแน่นอน”
จู้หลินหลินถอนหายใจออกมา ยาที่ดีขนาดนี้ ถ้าไม่มีการโปรโมตที่เหมาะสม เธอกลัวว่ามันจะไม่สามารถเอาชนะถังโย่วได้ แล้วแบบนี้จะทำยังไงกันดี?
พอเห็นสีหน้าเป็นกังวลใจของจู้หลินหลิน ฉินจุนก็เอ่ยถาม “ให้พี่ช่วยหาดารามาเป็นพรีเซนเตอร์ไหม?”
จู้หลินหลินชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ยิ้มเจื่อน ๆ ออกมา
“พี่เสี่ยวจุน พี่ไม่รู้จักดาราพวกนั้นสักหน่อย พี่ช่วยไม่ได้หรอกค่ะ”
“เอ้อ บังเอิญว่าพี่รู้จักอยู่คนหนึ่ง”
“หา?พี่รู้จักจริง ๆ เหรอ แต่ว่าต่อให้รู้จักก็ไม่มีประโยชน์ ถ้าอยากจะทำโฆษณาบนช่องCCTV จะใช้พวกดาราปลายแถวก็ไม่ได้ อย่างน้อยก็ต้องมีชื่อเสียงคนรู้จักทั่วบ้านทั่วเมืองอย่างโหวยวิ๋นถึงจะดี”
ฉินจุนชะงักก่อนจะเอ่ย “พี่รู้จักซูเหวินฉี ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง?”
จู้หลินหลินตะลึงไปทันที จากนั้นก็เผยรอยยิ้มเจื่อน ๆ บนใบหน้า “พี่เสี่ยวจุน พี่ต้องกำลังล้อฉันเล่นอยู่แน่ ๆ เลยใช่ไหม?”
แม้ว่าโหวยวิ๋นจะเป็นนักแสดงแถวหน้าของประเทศ แต่เธอก็ได้ลาจอไปแล้ว ตอนนี้ก็เป็นได้เพียงนักแสดงแถวหน้า
ส่วนซูเหวินฉีนั้นยิ่งกว่าเป็นนักแสดงแถวหน้า!
ราชินีแห่งวงการเลยแหละ!
อิทธิพลในวงการบันเทิงไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะเทียบได้
ถ้าหากว่าสามารถเชิญดาราดังอย่างซูเหวินฉีได้จริง ๆ ใครจะไปเชิญโหวยวิ๋น?
ฉินจุนเอ่ยถาม “เอ้อ พี่ไม่ได้ล้อเล่นนะ เพียงแต่กังวลว่า ซูเหวินฉีจะไม่เข้าท่าหรือเปล่า”
จู้หลินหลินเห็นสีหน้าจริงจังของฉินจุนจึงเอ่ยขึ้น
“พี่เสี่ยวจุน พี่ไม่ได้ล้อเล่นจริง ๆ ใช่ไหม?”
“ไม่แน่นอน”
ทันใดนั้นจู้หลินหลินก็ตื่นเต้นขึ้นมาทันที
“ถ้าหากว่าเราเชิญซูเหวินฉีมาได้จริง ๆ ถ้าอย่างนั้นผลการโฆษณาของเราต้องดังเป็นพลุแตกแน่ ๆ !”
“ซูเหวินฉีเป็นนักแสดงมีความสามารถ แถมยังเป็นราชินีแห่งวงการ จะต้องมีปริมาณการเข้าชมนับไม่ถ้วนแน่ ๆ แถมฐานแฟนคลับของเธอก็มีทุกช่วงอายุ มันต้องดีแน่ๆ ”
ผู้ป่วยโรคเบาหวานไม่ได้มีแค่กลุ่มผู้ส่วนอายุ วัยรุ่นหรือแม้แต่คนท้อง รวมถึงวัยเด็กก็สามารถเป็นโรคเบาหวานได้ เพราะฉะนั้นถ้าเราเชิญให้ซูเหวินฉีมาร่วมงานได้ มันก็ไม่มีอะไรเหมาะสมไปมากกว่านี้แล้ว
พอเห็นจู้หลินหลินพูดว่าเว่อร์วังแบบนั้น ฉินจุนก็พยักหน้า
“ถ้าอย่างนั้นพี่ลองดูแล้วกัน”
เขาหยิบโทรศัพท์ออกมา กดโทรออกเบอร์ของซูเหวินฉี ผ่านไปไม่กี่วินาที ปลายสายก็กดรับ
“ฮัลโหล มีอะไร?” ซูเหวินฉีเอ่ยเสียงเย็นชา น้ำเสียงออกจะรำคาญด้วยซ้ำ เหมือนว่าเธอกำลังถ่ายรายการอะไรแบบนั้นอยู่
“ข้าง ๆ มีคนอยู่?”
“อืม”
เฉพาะแค่เวลาที่มีคนอยู่รอบตัวเท่านั้นที่ซูเหวินฉีจะทำท่าทางเย็นชาแบบนี้ เพื่อเป็นการรักษาคาแรกเตอร์ของเธอ
“ถ้าอย่างนั้นฉันจะพูดสั้น ๆ อยากให้เธอช่วยมาเป็นพรีเซนเตอร์ให้หน่อย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้รักษาสุดแกร่ง