แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 73

“พี่เอ้อหลาง เมื่อไหร่ท่านจะไปที่บ้านข้าขอข้าแต่งงานสักที?” สงเสี่ยวเจียนมองไปที่จางเอ้อหลางอย่างคาดหวัง

ถึงแม้ว่าหมู่บ้านต้าซิงจะอยู่แถบชายแดน ประเพณีก็เปิดกว้างอยู่บ้าง แต่เรื่องอย่างการถามบุรุษต่อหน้าคนหมู่มากว่าเมื่อใดจะไปขอตนแต่งงานที่บ้านนั้นยังไม่เคยมี

พูดได้ว่า คำพูดของสงเสี่ยวเจียนนั้นออกจะขัดต่อประเพณีและศีลธรรมอยู่บ้าง

แต่ในขณะที่ชาวบ้านทุกคนกำลังประหลาดใจ ทุกคนก็ใช้สายตาดูเรื่องสนุกมองลั่วเสี่ยวปิงไปด้วย

ลั่วเสี่ยวปิง “…” นี่มันเกี่ยวอะไรกับนางอีก?

ถึงแม้ว่าลั่วเสี่ยวปิงจะไม่รู้จริงๆว่าสีหน้าแปลกๆของชาวบ้านจะเกี่ยวข้องอะไรกับนาง แต่นางรู้ว่าเมื่อไหร่ที่ผิดปกติก็ต้องมีเหตุ เรื่องในวันนี้เกรงว่าต้องเกี่ยวข้องกับนางจริงๆ

อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้นางยังไม่รู้ว่ามันคืออะไร อย่างงั้นก็ต้องคอยดูความเปลี่ยนแปลงต่อไป

จางเอ้อหลางตกตะลึงกับคำถามที่สงเสี่ยวเจียนถามขึ้นมาอย่างกะทันหัน ถ้าดูดีๆ ก็จะเห็นความระทึกในดวงตาของเขา

“เจ้า…ข้า…” นี่มันเรื่องอะไรกัน? เขาไม่คุ้นเคยกับผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขาเลยสักนิด ทำไมเขาต้องไปขอนางแต่งงานที่บ้านด้วย?

จางเอ้อหลางไม่เคยพบเจอกับเรื่องแบบนี้มาก่อน ไม่รู้เลยว่าจะต้องจัดการอย่างไร

“พี่เอ้อหลาง หรือว่าท่านไม่อยากแต่งงานกับข้า?” เมื่อเห็นว่าจางเอ้อหลางไม่ตอบ สีหน้าของสงเสี่ยวเจียนก็บูดเบี้ยวไปทันที แต่นางก็เปลี่่ยนเป็นท่าทางน่าสงสารถูกบุรุษใจทรามทรยศอย่างรวดเร็ว เห็นอย่างนั้นแล้วกลับให้รู้สึกสงสารอยู่บ้างเหมือนกัน

“ไม่อยาก” จางเอ้อหลางพูดอย่างตรงไปตรงมา เมื่อพูดความในใจแล้ว ก็โล่งอก

เขากับสงเสี่ยวเจียน ก็พบกันเพียงไม่กี่ครั้ง หมู่บ้านของทุกคนเองก็อยู่ไม่ไกลกัน ดังนั้นการพบเจอกันและรู้จักกันก็เป็นเรื่องปกติ

แต่ก็คงแต่งงานกับคนที่เจอกันไม่กี่ครั้งได้หรอกกระมัง?

เขาไม่อยากเป็นเหมือนพี่ใหญ่ ที่ก่อนแต่งงานและไม่ได้ทำความรู้จักให้ดี แต่งกับสตรีแบบนั้นอย่างพี่สะใภ้เขา

หากเขาจะแต่งงาน เช่นนั้นก็ต้องแต่งกับหญิงที่อ่อนโยนใจดี เข้าอกเข้าใจเขาถึงจะได้

จางเอ้อหลางวาดฝันสวยงามในใจ จนไม่ได้สังเกตเห็นอารมณ์ของสงเสี่ยวเจียนที่เมื่อครู่ยังดูเหมือนจะน้อยใจและอ่อนโยน ได้บูดบึ้งไปแล้ว

ตอนแรกลั่วเสี่ยวปิงยังคงยืนดูละครอยู่ เพราะไม่เกี่ยวอะไรกับนาง นางไม่ดูละครก็เหมือนไม่สามารถทำอะไรได้อีก

แต่เมื่อดูไปดูมา สีหน้าของสงเสี่ยวเจียนก็เปลี่ยนเป็นโกรธจัด โกรธจนมองนางอย่างแค้นเคือง

ลั่วเสี่ยวปิง “…” นางทำอะไร?

“นังแพสยา!เป็นเจ้าใช่หรือไม่?” จู่ๆสงเสี่ยวเจียนก็วิ่งไปหาลั่วเสี่ยวปิง “เจ้าหลอกล่อพี่เอ้อหลางของข้าใช่หรือไม่?

ไม่มีใครคาดคิดว่า สงเสี่ยวเจียนจะหาเรื่องกะทันหัน ดังนั้นจึงได้แต่มองลั่วเสี่ยวปิงกระโจนใส่สงเสี่ยวเจียนต่อหน้าต่อตา

ยังดีที่ตอนลั่วเสี่ยวปิงเรียนอยู่มัธยมปลาย ปู่ของนางส่งนางไปฝึกฝนพิเศษกับทางเพื่อนเก่าเป็นเวลาหนึ่งปี ต่อมานางก็ยังรักษาความเคยชินในการฝึกฝน ต่อให้ตอนนี้เปลี่ยนร่างก็ยังคงจำทักษะบาง

อย่างได้อยู่ ดังนั้นเมื่อเผชิญหน้ากับการหาเรื่องกะทันหันของสงเสี่ยวเจียน ลั่วเสี่ยวปิงก็หลบได้ในชั่วพริบตา

แต่ว่า หลังจากถูกด่าว่าเป็นคนน่ารังเกียจ แถมยังถูกลงมืออีก สีหน้าของลั่วเสี่ยวปิงก็ดูไม่ดีอีกต่อไป

นั่งอยู่ในบ้านดีๆ บาปก็ตกมาจากสวรรค์

เมื่อตีไม่โดนลั่วเสี่ยวปิง สงเสี่ยวเจียนก็ยิ่งโกรธมากขึ้นไปอีก นางชี้จมูกของลั่วเสี่ยวปิงแล้วด่า “นังแพสยา เจ้าทำเรื่องหน้าไม่อายอย่างมีก่อนแต่งงาน แล้วยังมาหลอกล่อพี่เอ้อหลางของข้าอีก ทำให้เขาไม่ยอมแต่งกับข้า เจ้ามันปีศาจจิ้งจอก นังผู้หญิงโสโครกหน้าไม่อาย…”

“เพี๊ยะ...”

ทั้งลานเงียบลงในทันที

ทุกคนมองไปที่ลั่วเสี่ยวปิงที่ยกมือขึ้นเพื่อทุบตีใครบางคน ในดวงตามีความหวาดกลัวอยู่เล็กน้อย

“หากเจ้าควบคุมปากเหม็นๆของตัวเองไม่ได้ ข้าก็ไม่รังเกียจที่จะสั่งสอนเจ้าแทนผู้อาวุโสของเจ้า” ลั่วเสี่ยวปิงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

แต่ไหนมานางก็ไม่ใช่คนที่เจอเรื่องแล้วจะเลือกไกล่เกลี่ยเพื่อยุติความขัดแย้ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง