หลังเย่มู่มู่โยนอาหารหมดอายุลงไปจนหมดก็ขึ้นไปชั้นบน
หน้าจอโทรศัพท์มือถือของเธอสว่างขึ้นไม่หยุด เป็นคุณอาคุณลุงในครอบครัวเธอโทรมา
พ่อแม่ล่วงลับ เธอกลายเป็นเด็กกำพร้า คุณอาคุณลุงร่วมมือกับคุณย่ามาหาถึงบ้าน หมายจะฮุบทรัพย์สินของเธอ
โชคดีที่คุณพ่อคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าจึงทิ้งพินัยกรรมเอาไว้
ในโถงตั้งโลงศพของคุณพ่อคุณแม่ คุณอาคุณลุงรวมถึงคุณย่ากดดันให้เธอมอบทรัพย์สินของคุณพ่อออกไป
ยังอ้างเสียสวยหรูว่าจะช่วยดูแลให้เธอ
บอกว่าเธอเป็นผู้หญิง ต้องแต่งงานไม่ช้าก็เร็ว จะบริหารบริษัทใหญ่มูลค่าหลายหมื่นล้านได้อย่างไร
ห้องชุดสิบกว่าห้อง ร้านค้าหลายร้านกับตึกปล่อยเช่าอีกสองตึก
บอกให้เธอส่งมอบทั้งหมดนั้นออกไปให้พี่น้องของคุณพ่อแบ่งสรรปันส่วนกัน
คุณพ่อไม่ใช่ผู้ถือหุ้นเพียงหนึ่งเดียวของบริษัท แต่เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุด ถือหุ้นสามสิบกว่าเปอร์เซ็นต์
เย่มู่มู่ขอให้ผู้ถือหุ้นรายอื่นช่วยออกหน้า ช่วยเธอปกป้องทรัพย์สมบัติเอาไว้
เธอไม่เข้าร่วมการบริหาร รับแค่เงินปันผลเท่านั้น
เธอสละสิทธิ์ในการบริหาร ผู้ถือหุ้นรายอื่นย่อมยินดีอยู่แล้ว
บอดี้การ์ดปรากฏตัวขึ้นในโถงตั้งโลงศพจึงควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้
มีทนายและโนตารี พับลิค[1]อยู่ด้วย ประกาศพินัยกรรมของคุณพ่อต่อหน้าสาธารณะ ทรัพย์สินทั้งหมดให้เย่มู่มู่เป็นผู้สืบทอด
พี่ชายน้องชายของคุณพ่อร้องไห้คร่ำครวญ ด่าทอว่าเธอเลือดเย็น ด่าทอว่าคุณพ่อใจดำ
คุณย่ายังคิดจะลงมือตีเธอ แต่ถูกบอดี้การ์ดขวางไว้
พอพวกเขาไม่สามารถแย่งชิงทรัพย์สมบัติอย่างเปิดเผยก็เริ่มหงายไพ่คนในครอบครัว โทรศัพท์มาหาเธอทุกวัน
เห็นเธอไม่สะทกสะท้าน เอาเงินไปจากเธอไม่ได้ก็เริ่มโทรศัพท์มาด่าทอเธอทุกวัน
ด่าเธอว่าใจดำ ด่าเธอว่าโหดเหี้ยมอำมหิต ด่าเธอว่าเห็นผู้ใหญ่ในครอบครัวมีชีวิตลำบากก็ไม่รู้จักให้เงินทองช่วยเหลือ
ภายหลัง เธอบล็อกเบอร์โทรศัพท์มือถือของญาติ ๆ จนหมด พวกเขาก็เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์โทรมาหาเธอ
เย่มู่มู่ปล่อยให้หน้าจอโทรศัพท์มือถือสว่างต่อไป ไม่เคยรับสาย
เธอเดินเข้าไปในห้องนอนของคุณพ่อคุณแม่ ขดตัวนอนบนโซฟาของพวกเขา
ได้กลิ่นที่คุ้นเคย จินตนาการว่าพ่อแม่ยังอยู่ข้างกายเธอ
เช่นนี้เธอถึงสบายใจ
*
หลังจ้านเฉิงอิ้นโยนกระดาษลงไป แจกันก็ไม่ตอบสนองอีกเลย
เขาคิดว่าหรือจะเป็นเพราะตัวเองโลภมากเกินไป เรียกร้องมากเกินไปจนทำให้ท่านเทพโกรธเคือง
เขาข่มความไม่สบายใจเดินออกไปจากจวนแม่ทัพที่ทรุดโทรม
กลางถนนใหญ่ สองฟากถนนเต็มไปด้วยซากปรักหักพัง ทรุดโทรมเกินบรรยาย สายลมม้วนเอาทรายสีเหลืองปลิวว่อนไปทั่วบริเวณ
ชาวบ้านร่างผอมเหลือแต่กระดูกนับไม่ถ้วนต้องทนหิวโหย นอนรอความตายอยู่ข้างถนน
พวกเขาเห็นแม่ทัพเดินออกมา สายตาเลื่อนลอยทุกคู่มองมาที่เขา
คนที่ยังมีเรี่ยวแรงเหลืออยู่คุกเข่าคำนับเขา
ก่อนหน้านี้มีผู้อพยพมารวมตัวที่จวนแม่ทัพ ขอร้องให้แม่ทัพเปิดยุ้งฉางแจกจ่ายเสบียง
ผู้อพยพกับคนใช้ในจวนแม่ทัพเกิดขัดแย้งกัน คนใช้ในจวนแม่ทัพบอกว่าในจวนไม่มีเสบียงอาหารมานานแล้ว
สิ่งที่แม่ทัพกับพวกเขากินคือเปลือกไม้
แต่ผู้อพยพไม่เชื่อ สองฝ่ายจึงปะทะกันขึ้นมา
คนใช้ในจวนแม่ทัพเดิมมีสิบกว่าคน ถูกทำร้ายบาดเจ็บไปหกคน สุดท้ายก็ตายไปเพราะไร้ยารักษา
มีหกคนที่หิวตาย
เหลือพ่อบ้านชราเพียงคนเดียว พ่อบ้านชราก็เริ่มกินดินขาวไปแล้ว
พวกเขาแสดงความสำนึกผิดต่อหน้าท่านแม่ทัพ รู้สึกผิดต่อความผิดบาปที่ตนเองได้กระทำลงไป
พวกเขาเฝ้าอยู่หน้าจวนแม่ทัพ หลังตายไป ร่างกายยังสามารถนำมาเลี้ยงทหารสองหมื่นนาย พวกเขาเต็มใจอุทิศร่างกายของตนเอง
จ้านเฉิงอิ้นเดินมาถึงปากทาง สตรีออกเรือนแล้วที่หน้าเหลืองร่างผอมคนหนึ่งคุกเข่าร่ำไห้ต่อหน้าเขา
“ท่านแม่ทัพได้โปรดช่วยชีวิตลูกชายของข้าด้วยเถอะเจ้าค่ะ ขอร้องท่านแล้ว”
นายกองเถียนไท่เห็นดังนั้นก็คิดจะกันสตรีที่เข้ามาขวางทางผู้นั้นออกไป
สตรีผู้นั้นร่ำไห้รำพัน “ข้าน้อยมีลูกเล็กสองคน คนหนึ่งถูกพ่อพวกเขาเอาตัวไปแลกอาหารแล้ว เหลืออยู่คนเดียวเท่านั้น เขายังมีชีวิตอยู่ พ่อเขาไยจึงตัดใจทำได้ลงคอ”
“ท่านได้โปรดช่วยเขาด้วยเถอะเจ้าค่ะ ถึงต้องตาย ข้าก็อยากจะช่วยชีวิตลูกชายเอาไว้!”
จ้านเฉิงอิ้นได้ยินเช่นนั้นก็กำสองมือแน่นจนเส้นเลือดปูดโปน
ในเมืองมีเรื่องไร้ความเป็นมนุษย์เกิดขึ้นไม่เว้นวัน
เขานึกว่าตัวเองได้ยินมามากแล้ว เห็นมามากแล้วจะชินชาไปเองเสียอีก
ทว่ามโนธรรมที่ยังหลงเหลืออยู่ก็ทำให้ยากจะยอมรับได้
ต้องเห็นชาวบ้านแลกเปลี่ยนลูกของกันและกันเพื่อนำไปกินเป็นอาหาร ทั้งยังเป็นคนเป็น ๆ อีกด้วย
นี่คือราษฎรที่ตระกูลจ้านของเขาสละชีวิตปกป้องอย่างนั้นหรือ!
“สามีของท่านอยู่ที่ไหน?”
สตรีผู้นั้นเห็นแม่ทัพเต็มใจช่วยเหลือก็ชี้ไปทางปากตรอกเก่า ๆ แห่งหนึ่งทันที
จ้านเฉิงอิ้นหมุนกายเดินตรงไปทางตรอกนั้น
ในตรอกนั้น บิดาผู้หนึ่งเช็ดน้ำตาแลกเปลี่ยนลูกกันอย่างอาลัยอาวรณ์
ลูกของเขากอดขาเขาไว้แน่น ร้องไห้งอแงว่าเขาไม่กินอะไรอีกแล้ว ขอร้องให้บิดาไว้ชีวิตเขาด้วย
อย่าเอาเขาไปแลกเลย!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ