ตอนที่ 17 เสียสาวตั้งแต่สิบแปด
ธีรสิทธิ์พยักหน้า กรามของเขาแข็งเกร็ง “ว่า”
“แปดปีที่แล้ว จตุเทพและกานดาหย่ากัน เขาส่งภรรยาและลูกสาวไปประเทศซวาลา และพวกเขาก็ไม่ได้กลับมาอีกเลยจนเมื่อไม่นานมานี้ จตุเทพพาพวกเขากลับมา”
ธีรสิทธิ์ขมวดคิ้ว เพราะอย่างนี้ใช่ไหมเธอถึงพูดภาษาซวาลาได้? เธอเคยอาศัยอยู่ที่นั่น?
“แค่นี้?” น้ำเสียงนั้นบอกชัดว่าเขาต้องการข้อมูลมากกว่านี้
ยิ่งยศลังเลเล็กน้อยก่อนพูดต่อ “หลังจากที่กานดาถูกส่งไปประเทศซวาลา เธอให้กำเนิดเด็กผู้ชายที่เป็นโรคออทิสติก พวกเขาใช้ชีวิตที่นั่นอย่างยากลำบาก ก่อนที่พวกเขาจะกลับมา เด็กชายคนนั้นเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ครับ”
ธีรสิทธิ์ขมวดคิ้วมุ่น นึกย้อนกลับไป ก่อนหน้านี้ที่เขาเห็นความเศร้าในแววตาของเธอ เป็นเพราะน้องชายที่เธอสูญเสียไปหรือเปล่า?”
เด็กในท้องนั่น... “หมดแล้ว? ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับผู้ชายในชีวิตของเธอเหรอ?”
"ไม่มีครับ มีแค่จิตแพทย์ของน้องชายที่เธอต้องไปพบเป็นประจำ” ยิ่งยศกวาดตามองข้อมูลที่นักสืบส่งมาให้ "ไม่มีคนอื่นแล้วครับ เธอไม่เคยคบใครสมัยที่เป็นนักเรียน และก็ไม่เคยมีเพื่อนชายคนสนิทเลยครับ”
ก็แปลว่ามีความเป็นไปได้สูงที่เด็กในท้องนั่นจะเป็นลูกของจิตแพทย์
เหตุผลที่เธอถูกจตุเทพพากลับมาก็เพื่อที่จะมาแต่งงานกับเขา
และเหตุผลที่เธอต้องการเงินก็เพราะว่าเธอมีชีวิตที่ยากลำบากในซวาลา นั่นคือเหตุผลที่เธอต้องรับทำงานแปลของเขา แล้วก็ยังออกไปทำงานที่ร้านอาหารด้วย
เมื่อปะติดปะต่อเรื่องต่าง ๆ แล้ว การกระทำของรินลดาก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรอีกต่อไป
และตอนนี้เขาเข้าใจคำพูดของเจตนินทุกอย่างแล้ว
เขารู้สึกสับสนในตัวเอง เขามองกลับเข้าไปในโรงพยาบาลอีกครั้งก่อนที่จะเดินลงบันไดไปยังที่จอดรถ
ที่โรงพยาบาล
รินลดายังไม่ได้ทานอาหารกลางวัน และตอนนี้เธอกำลังหิว
“แม่คะ หนูอยากทานข้าวแช่จังเลย” รินลดานึกอยากทานอาหารคาวรสหวานเย็นอย่างกะทันหัน
กานดาผ่านการตั้งครรภ์มาก่อน เธอรู้ว่าผู้หญิงท้องมักนึกอยากอาหารแปลก ๆ
โบราณว่าถ้าอยากเปรี้ยวจะได้ลูกชาย ถ้าอยากเผ็ดจะได้ลูกสาว แล้วอย่างนี้หลานของเธอจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายล่ะนี่?
“แม่จะกลับบ้านไปทำให้นะ” กานดาลุกขึ้น แต่อีกใจก็ห่วงว่าจะไม่มีใครดูแลลูกสาวของเธอที่โรงพยาบาล
รินลดาดูเหมือนจะรู้ว่าแม่กำลังคิดอะไรอยู่ เธอพูดพร้อมกับยิ้มว่า “หนูไม่เป็นอะไรแล้วค่ะ หมอบอกให้พักผ่อนเท่านั้นเอง”
นี่ถ้าไม่ใช่เพราะห่วงเด็กในท้อง เธอคงไม่ยอมนอนค้างที่โรงพยาบาลแบบนี้ด้วยซ้ำ
กานดาพยักหน้า ก่อนกลับเธอเตือนให้เธอพักผ่อนเยอะ ๆ
ขณะที่กานดากำลังเดินเข้าคอนโด เธอถูกผู้หญิงสองสามคนเรียกให้หยุด
ทั้งสามเป็นคนในคอนโดนี่เอง
กานดาจะเพิ่งย้ายมาอยู่ได้ไม่นาน และเธอก็ไม่เคยคบหาสมาคมกับเพื่อนบ้าน กานดาขมวดคิ้วถามด้วยความสงสัย "มีอะไรรึเปล่าคะ?"
“ลูกสาวของเธอท้องก่อนแต่งเหรอ? เธอกำลังอุ้มท้องเด็กนอกสมรสอยู่ใช่ไหม?” คนที่พูดก่อนเป็นหญิงอ้วนวัยกลางคน
เธออาศัยอยู่ห้องข้าง ๆ กานดานี่เอง
“เธอกับลูกดูเป็นคนดีนะ ไม่น่าเชื่อว่าลูกสาวจะเป็นคนแบบนี้ เธอบอกว่าลูกเพิ่งจะอายุแค่สิบแปดเองไม่ใช่เหรอ?” หญิงอ้วนท้าวเอวพูดจาจาบจ้วงไม่เกรงใจ
สีบนใบหน้าของกานดาซีดสลับแดง เสียงของเธอสั่นเครือ “เธอ—เธอไปเอาเรื่องไร้สาระนี้มาจากไหน”
“แล้วจริงไหมล่ะ? หรือลูกสาวของเธอไม่ได้ท้อง?”
มือของกานดาสั่น ลูกของเธอท้องจริง ๆ
“อัปยศ!”
"ใช่! แตกเนื้อสาวปุ๊บก็สำส่อนกับผู้ชายปั๊บ ทำเป็นเด็กสาวไร้เดียงสา ที่ไหนได้กะหรี่ดี ๆ นี่เองจ้า!”
“เอ้า! ฟังกันไว้จ้า ทำเป็นแอ๊บเด็ก ไร้เดียงสา ตอแหลทั้งนั้น ที่แท้ก็แอบกินผู้ชายไม่เลือกหน้า—”
"หุบปาก! พวกเธอไม่มีสิทธิ์มาพูดแบบนี้นะ!”กานดาโกรธจนใบหน้าที่อ่อนโยนของเธอบิดเบี้ยวด้วยความโกรธ
“กล้าทำก็ต้องกล้ารับสิจ๊ะ!”
กานดาเอามือกุมไว้ที่หน้าอก เธอพูดออกไปอย่างช้า ๆ ชัด ๆ “ลูกฉันไม่ได้เป็นอย่างที่พวกเธอกล่าวหา!”
เธอรู้สึกเหมือนหัวใจของเธอกำลังจะแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ ลูกสาวของเธอไม่ใช่คนแบบนั้น
ทำไมพวกเขาถึงต้องการทำร้ายเธอ?
"ไม่ใช่งั้นเหรอ? แล้วทำไมถึงท้องก่อนล่ะ อายุเพิ่งจะสิบแปดเอง?”
กานดาไม่รู้จะเถียงยังไง ในเมื่อมันเป็นความจริงว่ารินลดากำลังท้อง
เธอรู้ว่าการท้องก่อนแต่งจะต้องทำให้เกิดเสียงซุบซิบนินทา แต่เธอไม่คิดว่าลูกสาวจะถูกลากลงแดนประหารขนาดนี้
“ถอยไป!” กานดาผลักพวกเขาออกไปและรีบเดินเข้าคอนโด
แม้ว่าหัวใจของเธอจะเต็มไปด้วยความเจ็บปวด แต่เมื่อนึกถึงลูกสาวที่โรงพยาบาล เธอจำต้องผลักความเจ็บปวดนี้ออกไปก่อน เพื่อตั้งใจเตรียมอาหารให้ลูกสาวของตัวเอง
กานดาคิดว่าเธอซ่อนอารมณ์ความรู้สึกไว้มิดชิดภายใต้ใบหน้ายิ้มแย้มแล้วเมื่อกลับไปที่โรงพยาบาลพร้อมอาหาร แต่ก็ไม่พ้นสายตาของรินลดา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ปล่อยใจให้รักเธอ(จบ)