PLAYBOY คุณพ่อฝึกหัด นิยาย บท 34

Chris Part

.

ผมนอนไม่หลับ แม้ว่าไฟลท์จะยาวนานถึงสิบชั่วโมงผมก็นอนไม่หลับ ทั้งห่วงคนที่ประเทศไทย และห่วงคนที่รออยู่ที่ออสเตรเลีย

หลังจากที่พรีมเรียกสติผมกลับมาได้ ทั้งพรีมและผมก็รีบหาไฟลท์ที่เร็วที่สุด ผมได้ไฟลท์ในคืนนั้นเลย แต่พรีมไม่สามารถเดินทางมาด้วยได้ ทั้งเรื่องงานและสุขภาพ ผมเลยต้องกลับไทยคนเดียวทั้ง ๆ ที่ห่วงหน้าพะวงหลังอยู่แบบนี้

ผมฝากพรีมไว้กับแซนดี้ แซนดี้รับปากว่าจะดูแลพรีมให้ดีที่สุด มันไม่ได้สบายใจเท่าผมดูแลพรีมเองหรอก แต่ผมก็ทิ้งป๊าไม่ได้เหมือนกัน ไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นยังไงบ้าง

เมื่อเครื่องแลนดิ้งผมก็ทำทุกอย่างด้วยความรวดเร็ว เพียงไม่นานผมก็ขึ้นมาอยู่บนแท็กซี่เพื่อเดินทางไปโรงพยาบาล ระหว่างทางผมหยิบมือถือขึ้นมา ก่อนจะส่งข้อความไปให้พรีมที่คงกังวลอยู่เหมือนกัน

.

Chris : ถึงแล้วนะ อยู่บนแท็กซี่ กำลังไปหาป๊า

Pream : ดูแลตัวเองด้วยนะ ฝากขอโทษป๊ากับม้าด้วยที่ฉันกลับไปด้วยไม่ได้

Chris : ไม่ต้องกังวลทางนี้หรอก เธอดูแลตัวเองให้ดีก็พอ

Chris : ฉันถึงโรงพยาบาลแล้ว ไว้เยี่ยมป๊าเสร็จจะมาบอกว่าท่านเป็นยังไงบ้าง

Chris : ดูแลตัวเองด้วยนะ อย่าลืมกินยารู้ไหม

Pream : อืม นายก็เหมือนกันนะ

.

ผมเก็บมือถือเข้ากระเป๋า จ่ายค่าแท็กซี่และหยิบกระเป๋าใบไม่ใหญ่มากที่พกมาด้วย ผมไม่ได้เอาอะไรมาเลยนอกจากของสำคัญ เสื้อผ้าผมไม่ได้เอามาแม้แต่ตัวเดียว

“ผมอยากทราบว่าคุณก้องเกียรติ xxx พักอยู่ห้องไหนครับ” ผมถลาเข้าไปถามหาห้องที่ป๊าพักจากเจ้าหน้าที่ทันที ตอนนี้เป็นเวลาสิบโมงที่ไทย ถ้าที่ซิดนีย์ก็น่าจะประมาณบ่ายสี่โมง และผมไม่ได้นอนมาเกือบสามสิบหกชั่วโมงแล้ว

“คุณก้องเกียรติ อยู่ที่ห้อง 807 ค่ะ”

“ขอบคุณครับ” ผมรีบเดินไปที่ลิฟต์ทันที ภาวนาให้ถึงชั้นแปดโดยเร็ว เพียงไม่นานลิฟต์ก็เปิดออกที่ชั้นแปด ผมเดินไปจนสุดทางเดินก็เจอกับห้อง 807 ที่ผมตามหา

ผลั๊ว!

“คริส?”

คนในห้องหันกลับมามองผมเป็นตาเดียว และทุกคนดูตกใจที่เห็นผมมายืนอยู่ตรงนี้ หม่าม้าเป็นคนแรกที่ตั้งสติได้ก่อน ท่านเดินเข้ามาจับมือจับแขนผมเหมือนอยากทดสอบว่าใช่ตัวจริงไหม

“ม้า”

“คริสมาได้ยังไง”

“ผมนั่งเครื่องบินมา ครีมโทรไปบอกว่าป๊าตกบันไดเลือดนอง”

“ห๊า!” เมื่อผมบอกแบบนั้นป๊ากับม้าก็อ้าปากค้าง ร้องอุทานออกมาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย ก่อนที่หม่าม้าจะหันไปครีมที่นั่งตัวลีบอยู่บนโซฟา

“ครีม ทำไมบอกพี่เขาแบบนั้น”

“ก็ม้าบอกให้หนูโทรบอกพี่คริสนี่คะ” ครีมตอบเสียงอ่อย ผมเองก็จำได้ว่าครีมบอกว่าหม่าม้าเป็นคนให้โทรมาบอก แถมบอกชื่อโรงพยาบาลเสร็จสรรพ

“ม้าให้โทรบอกข่าวเฉย ๆ ไม่ใช่ให้พี่เขากลับมาแบบนี้ แล้วเรื่องเลือดอะไรอีก”

“ก็หนูเห็นเลือดกองอยู่ตรงบันได”

“นั่นเลือดหมูที่เด็กในบ้านจะเอามาทำก๋วยเตี๋ยวน้ำตกให้กิน แต่ดันทำหล่นแตกเสียก่อน ป๊าก็ลื่นเพราะเลือดนั่นแหละ” เมื่อหม่าม้าเฉลยออกมาแบบนั้นครีมก็หน้าจ๋อยกว่าเดิม หันมายกมือไหว้ผมปลก ๆ

“ครีมขอโทษค่ะพี่คริส ตอนที่เห็นมันตกใจจริง ๆ ครีมมาถึงตอนที่คนพยุงป๊าออกไปแล้วเลือดเต็มตัว แล้วพอมาเห็นกองเลือดอีกก็เลยตื่นตูมจนสติแตก ไม่คิดว่าพี่จะกลับมาด้วย"

“ไม่เป็นไรหรอก” ผมถอนหายใจออกมา ไม่คิดจะเอาความน้อง ตอนนั้นครีมคงห่วงป๊ามากจนตื่นตูมไปหน่อย มานั่งโทษกันไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา เพราะตอนนี้ยังไงผมก็บินมาถึงที่นี่แล้ว “ป๊าเป็นอะไรมากไหมครับ เจ็บตรงไหน”

“เจ็บสะโพก ลงแรงอยู่เหมือนกัน หมองดเดินซักพักเลย ดีเหมือนกัน ป๊าจะได้พักบ้าง แถมมีคนมาดูแลด้วย” ป๊ายังคงยิ้มเหมือนเดิม ร่างกายที่ถูกลดการใช้ไม่ได้ทำให้ความมองโลกในแง่ดีของป๊าลดลงเลย

“แล้วแบบนี้ก็ต้องหยุดงานใช่ไหมครับ”

“ก็ต้องแบบนั้นอยู่แล้วสิ เออ! ป๊าลืมไปเลยว่าช่วงนี้มีนัดคุยงานกับลูกค้าสำคัญ” ป๊าเริ่มหน้าซีดเมื่อนึกสิ่งสำคัญขึ้นได้ ลูกค้าคนนี้คงจะสำคัญมากจริง ๆ ถึงขั้นทำให้ป๊าหน้าซีดได้นี่ไม่ธรรมดาเลย

“ดีแล้วครับที่ผมกลับมา จะได้อยู่จัดการลูกค้าที่ป๊าติดพันไว้ให้ระหว่างรอป๊าหายดี” ผมตัดสินบอกออกไปแบบนั้น จะให้หนีกลับก่อนทั้ง ๆ ที่ร่างกายป๊ายังไม่สมบูรณ์ และกังวลกับเรื่องงานแบบนี้ก็ดูจะเป็นลูกที่เนรคุณไปหน่อย อยู่ช่วยจนกว่าป๊าจะหายดีแล้วค่อยกลับก็ได้

“แล้วหนูพรีมล่ะ”

“นั่นสิ หนูพรีมอยู่ที่นั่นคนเดียวนะคริส ทางนี้ม้าจัดการเองก็ได้” หม่าม้าไม่เห็นด้วยที่ผมจะอยู่ต่อ แต่ผมเองก็ไม่เห็นด้วยที่หม่าม้าจะเป็นคนคุยกับลูกค้าเหมือนกัน หม่าม้าไม่ถนัดงานตรงนี้เลยเพราะเป็นคนใจร้อน ถ้าลูกค้าเรื่องมากเยอะ ๆ เข้าคงปรี๊ดแตกจนเสียเรื่อง

“ผมฝากพรีมไว้กับแซนดี้ครับ ผมจะอยู่ช่วยที่นี่ก่อน หวังว่าเรื่องงานคงไม่นานจนต้องอยู่หลายอาทิตย์”

.

.

ซะที่ไหนล่ะ!

ผมถอนหายใจออกมา สองอาทิตย์กว่าแล้วที่ผมอยู่ที่ไทย แม้ว่าทั้งผมและพรีมจะวิดีโอคุยกันทุกวัน แต่มันก็ไม่เหมือนตอนที่ได้อยู่ด้วยกัน ผมคิดถึงพรีม คิดถึงลูก

ตอนนี้ผมอยู่ที่โรงแรมหรูแห่งหนึ่ง ผมมีนัดคุยงานกับลูกค้าคนสำคัญของป๊า ถึงแม้ว่าผมจะอยู่ที่นี่มาได้สองอาทิตย์กว่าแล้ว แต่ทุกครั้งที่คุยงานผมมักจะคุยผ่านผู้ช่วยของลูกค้ารายนี้ แต่นี่เป็นการคุยครั้งสำคัญ ลูกค้าที่ทำตัวลึกลับเหลือเกินจะเดินทางมาคุยด้วยตัวเอง ผมถอนหายใจครั้งที่ร้อยระหว่างรอ ได้แต่หวังว่าโปรเจกต์นี้จะจบลงโดยเร็ว

พอได้เข้ามาคุยงานเองผมถึงได้รู้ว่าทำไมป๊าต้องหน้าซีดขนาดนั้น เพราะนี่เป็นโปรเจกต์ยักษ์ระดับหมื่นล้าน การตกแต่งคอนโดหรูที่สร้างใหม่ใจกลางเมือง เป็นลักชัวรี่คอนโดที่มีมูลค่ามหาศาล ราคาห้องขั้นต่ำก็ห้าสิบล้านแล้ว นับว่าเป็นงานยักษ์ที่สุดที่บริษัทเคยได้มา ป๊าเทียวเข้าเทียวออกคุยงานอยู่สองเดือนเต็ม เสนอไอเดียที่คิดว่าดีที่สุด เหมาะกับความแพงและหรูหราของโครงการที่สุดไป และสุดท้ายลูกค้าก็เลือกเรา

อันที่จริงผมไม่ถนัดบริหาร ผมจบด้านการออกแบบมาโดยตรง ตอนอยู่ซิดนีย์ผมทำงานให้ป๊าด้วยการออกแบบและส่งไปให้ป๊าเพื่อให้ลูกค้าดูต่อไป และก็น่าตกใจที่งานของผมนี่แหละ ที่ทำให้ลูกค้ารายนี้เลือกบริษัทเรา

บอกเลยว่าผมโคตรภูมิใจ

“คุณกิตติกรครับ คุณธนัญญ์พัฒน์เดินทางมาถึงแล้วครับ”

“ครับ ๆ” ผมรีบลุกขึ้นทันทีที่คนของลูกค้าเข้ามากระซิบแบบนั้น ผมรู้มาบ้างว่าตระกูลนี้ค่อนข้างใหญ่โต แต่ก็ไม่คิดว่าจะเล่นใหญ่ถึงขั้นต้องทำอะไรแบบนี้ด้วย เริ่มเกร็งแล้วสิ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: PLAYBOY คุณพ่อฝึกหัด