Chris Part
.
‘อยู่ไหนกันแล้ว’ นับดาวเอ่ยถามมาตามสาย ผมมองคนที่นอนหลับอยู่บนตัก ก่อนจะเอ่ยตอบเสียงกระซิบ
“กำลังกลับ อีกซักสองชั่วโมงน่าจะถึง”
‘โอเค กำลังดีเลย น่าจะเตรียมอะไรเสร็จพอดี’
“เสียดายที่ฉันไม่ได้ช่วย”
‘นายต้องถ่วงเวลาพรีมนี่ ไม่ต้องเสียดายหรอก นี่ก็นับว่าเป็นการช่วยอย่างหนึ่งแล้ว แค่นี้นะ ไปเตรียมของก่อน’
“อืม” ผมวางสายนับดาว ก่อนจะก้มลงมองคนที่หลับอยู่อีกครั้ง ผมค่อย ๆ เกี่ยวเส้นผมที่เกะกะหน้าพรีมออก เพื่อมองหน้าคนที่กำลังหลับใหลไม่รู้ตัวชัด ๆ พร้อมกับนึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อวานไปด้วย
.
“เรียกกูออกมาทำไมวะ” ผมถามบรรดาเพื่อน ๆ ที่นั่งอยู่พร้อมหน้า ไม่เข้าใจว่าให้นับดาวเรียกผมออกมาทำไม ก็บอกแล้วว่าวันนี้ดื่มไม่ได้
“ดูทำหน้าเข้า พวกกูไม่ได้ให้นับดาวตามมึงออกมาแดกเหล้า” ไอ้เควิลตอบก่อนจะยกเหล้าขึ้นดื่ม ไม่ได้ชวนมากินเหล้าแต่มากินยั่วแบบนี้หมายความว่ายังไง
“อ้าว แล้วให้ตามมาทำไม” ผมยกแขนขึ้นกอดอก ไม่คิดจะนั่งด้วยซ้ำเพราะใจอยากจะกลับเข้าไปในห้องนอนจะแย่ ผมปล่อยพรีมไว้แบบนั้นคนเดียวด้วย ไม่รู้จะโกรธหรือเปล่า
“ฟังอยู่ไหมเนี้ย” ถั่วเม็ดเล็กที่เป็นกับแกล้มถูกปามาโดนหน้าผากดังป๊อก ผมลูบหัวตัวเองก่อนจะมองหน้าไอ้เควิลอย่างเคือง ๆ
“ถ้าสิวกูขึ้นนะมึง” ผมชี้หน้ามัน ก่อนจะเอ่ยถาม “เมื่อกี้ไม่ได้ฟัง พูดอะไรนะ”
“ไม่น่าให้มันรู้เลยนับดาว”
“พอกูอยากรู้ก็ลีลา” ผมยกขาขึ้นทำท่าจะถีบเพื่อนให้หายกวนตีน แต่ไอเควิลมันไหวตัวทัน รีบลุกไปนั่งไกล ๆ อย่างรวดเร็ว จนสุดท้ายนับดาวก็เป็นคนพูดขึ้นเพราะไม่อย่างนั้นก็คงคุยกันไม่รู้เรื่อง
“พรุ่งนี้วันเกิดพรีม พวกเราเลยอยากจะจัดงานให้พรีม” นับดาวพูดยิ้ม ๆ แววตาดูมีความสุขที่เหมือนได้ของเล่นใหม่ “จัดแค่งานเล็ก ๆ แหละ มีปาร์ตี้เล็ก ๆ พวกบาร์บีคิว อาหารทะเล เป่าเค้ก แล้วก็...”
“เดี๋ยวก่อนนะ” ผมเอ่ยขัด ขมวดคิ้วเข้าหากันแน่นไม่กลัวว่าริ้วรอยจะขึ้นด้วยความงุนงง “พรุ่งนี้วันเกิดพรีมเหรอ”
“อื้อ อย่าบอกนะว่าไม่รู้”
“...” ผมพูดไม่ออก เพราะไม่รู้จริง ๆ
“ไม่รู้จริง ๆ เหรอ”
“ฉันบอกเธอแล้วว่าคนแบบไอ้คริสความโรแมนติกได้ศูนย์ ความใส่ใจติดลบ ฉันไม่เซอร์ไพรส์เลยที่มันไม่รู้” มาเฟียพูดกับนับดาว แต่ทำไมผมรู้สึกเหมือนกำลังโดนด่า นี่มันกำลังดูถูกผมใช่ไหมว่าผมเป็นผู้ชายที่ไม่ได้เรื่อง
แต่ก็ดูถูกจริง ๆ นั่นแหละ ไม่ได้ดูผิด เมื่อก่อนผมไม่ใช่คนประเภทนั้นจริง ๆ ผมเคยเป็นคนเรื่อย ๆ เหมือนสายลมที่ไม่มีที่พัก ล่องลอยไปล่องลอยมา ไม่สน ไม่แคร์ ไม่คิดจะหยุดที่ใคร แต่พอมีพรีม มีลูก ผมก็เรียนรู้จะแคร์คนอื่นมากขึ้น ไม่งั้นผมคงไม่ทำทุกอย่างเพื่อให้พรีมสบายและมีความสุขขนาดนี้หรอก ยอมแม้กระทั่งนวดเท้าให้พรีมทั้ง ๆ ที่ไม่เคยทำและไม่คิดที่จะทำให้ใคร ยอมแม้กระทั่งปฏิเสธเพื่อนเพื่อที่จะได้อยู่ดูแลพรีม ทั้ง ๆ ที่แต่ก่อนผมนี่แหละคือตัวชวนตั้งวงหรือออกไปเที่ยวทุกครั้ง ผมมั่นใจว่าผมเปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ แม้จะเล็กน้อยแต่ก็เปลี่ยนไปแล้ว ในทางที่ดีขึ้นด้วย
แต่เรื่องวันเกิดมันเหตุสุดวิสัย ช่วงที่ผ่านมาผมยุ่งมาก ทั้งเตรียมงานแต่ง ทั้งเตรียมเรื่องเที่ยว ผมเลยยังไม่ได้ถามไถ่เรื่องส่วนตัวของพรีมเท่าไหร่ ซึ่งนั่นก็เกือบทำให้ผมพลาดวันสำคัญอย่างวันเกิดพรีมไปเสียแล้ว ผมสัญญากับตัวเองว่าจะไม่มีทางลืมว่าพรุ่งนี้คือวันอะไรไปตลอดชีวิต
“ก็ฉันคิดว่าที่ชวนมาเที่ยวเพราะจะเซอร์ไพรส์วันเกิดพรีม” นับดาวทำหน้าหงอย ก่อนจะหันมามองผม “ตอนแรกคิดว่าคริสไม่มีแพลนจะจัดงาน ก็เลยขออาสาจะจัดให้เองน่ะ”
“ดีแล้วที่นับดาวคิดเรื่องนั้น ไม่อย่างนั้นฉันคงไม่ได้รู้วันเกิดของพรีมเขา ฉันยังเป็นสามีที่ไม่ค่อยดีพอเท่าไหร่”
“เอ้า ดราม่าเฉย” ไอเควิลแทรกขึ้นมา มันคงไม่อยากให้บรรยากาศเสีย “ไม่รู้ก็คือไม่รู้ไม่ต้องคิดมาก มึงรู้จักกับพรีมแค่ไม่เท่าไหร่เอง หลังจากนี้อย่าลืมก็พอ ผู้หญิงน่ะ ซีเรียสกับวันสำคัญจำพวกวันเกิด วันครบรอบที่ได้รู้จัก วันครบรอบคบกัน วันคอบรอบแต่งงานกัน วันที่ไปเดตครั้งแรก วันที่จูบกันครั้งแรก วันที่ได้กันครั้งแรก วันที่... โอ้ยยยยย กูเจ็บนะโว้ยไอ้...ที่รัก...”
“ชอบพูดอะไรให้มันเวอร์ไว้ก่อนตลอด” พบรักหยิกเอวคนปากมากอีกที ซึ่งนั่นทำให้ผมสะใจไม่น้อย ไม่มีใครควบคุมความปากมากเกินลิมิตของไอ้เควิลได้เท่าพบรักอีกแล้วบอกเลย “ผู้หญิงบางคนไม่ได้สนใจวันสำคัญขนาดนั้นหรอก แต่รู้ไว้บ้างก็ดี กันเหนียวน่ะ”
“ใช่ ไม่รู้ก็ไม่เป็นไร ตอนนี้รู้แล้วนี่ เพราะฉะนั้นมาช่วยกันคิดดีกว่าว่าจะจัดงานยังไง และหลอกล่อพรีมออกไปจากที่บ้านหลังนี้ตอนที่ฉันเตรียมงานยังไงดี”
.
หลังจากนั้นพวกเราก็วางแผนกันเพื่อที่จะให้พรีมกลับไปถึงที่พักช่วงเย็นพอดี นับดาวเป็นแม่งานนี้ เมื่อเช้าเราออกไปดูสถานที่ที่จะจัดงานซึ่งเป็นริมสระว่ายน้ำ พอผมรู้ว่าพรีมออกไปหาเลยกังวลว่าเธอจะได้ยินแผนที่เราวางกันไว้ แต่พรีมดูไม่ได้สงสัยอะไร ผมเลยมั่นใจว่าเจ้าตัวน่าจะยังไม่รู้ตัว
สองชั่วโมงผ่านไปอย่างรวดเร็ว รถตู้จอดลงที่เยื้อง ๆ กับบ้านพักเพราะผมขอไว้ นับดาวเพิ่งส่งข้อความมาเมื่อกี้ว่ายังจัดงานไม่เสร็จ ผมเลยต้องพาพรีมออกไปเดินเล่นก่อน เพื่อรอสัญญาณจากนับดาวอีกที
“พรีม ถึงแล้วนะ”
“อื้อ” พรีมค่อย ๆ ลืมตาขึ้น เธอดูยังไม่อยากตื่นเท่าไหร่ คงเพราะเมื่อคืนพรีมนอนดึกกว่าปกติ และวันนี้เที่ยวค่อนข้างเยอะเลยเพลีย “ง่วงจัง”
“ตื่นก่อน จะพาไปดูพระอาทิตย์ตกดิน”
“ไม่เอา เมื่อวานก็ดูแล้ว อยากเข้าบ้านนอน”
“อย่างอแงสิ ไปดูพระอาทิตย์ตกด้วยกันก่อน...นะ” พรีมมองหน้าผมเมื่อผมร้องขอแบบนั้น และสุดท้ายเธอยอมลุกขึ้น ผมช่วยจัดทรงผมที่ยุ่งเหยิงให้เธอ ก่อนจะถามออกไปเพื่อให้แน่ใจ “ไปดูพระอาทิตย์ตกด้วยกันใช่ไหม”
“อื้อ”
ได้ยินคำตอบแบบนั้นผมหันไปส่งสัญญาณให้เนตั้นที่นั่งอยู่ข้างหลัง(เพราะลงไม่ได้) เนตั้นพยักหน้ารับ ผมจึงพาพรีมเดินไปที่ชายหาด
“พระอาทิตย์วันนี้สวยกว่าเมื่อวานอีก”
“ก็เหมือนเดิมนะ” พรีมขัดอารมณ์ผมจนโรแมนติกไม่ออก ยิ่งไม่ใช่สายโรแมนติกอะไรแบบนี้ด้วย บอกเลยว่าตัน
“งั้นเหรอ” สุดท้ายผมก็ได้แต่หัวเราะแหะ ๆ ออกมาเพราะไม่รู้จะพูดอะไรต่อดี เราสองคนเดินลัดเลาะไปตามผืนทราย ต่างคนต่างเงียบเหมือนกำลังใช้ความคิด จนกระทั่งมือถือผมสั่น
นับดาว
‘เข้ามาได้เลย พร้อมแล้ว’
ผมมองพรีมที่ตอนนี้เดินนำหน้าไปหลายก้าวแล้ว ก่อนจะขำออกมาเมื่อพรีมยกชายกระโปรงขึ้นเพราะน้ำที่ซัดเข้ามาจนเปียก เธอหันมาส่งค้อนให้ผมเมื่อผมหัวเราะเธอแบบนั้น
ผมเดินเข้าไปหาเธอ ภาพพระอาทิตย์ที่กำลังตกทำให้บรรยากาศโรแมนติกมากขึ้นโดยไม่ต้องปั้นแต่ง พรีมกำลังยืนหน้าบึ้งอยู่ตรงนั้น ส่วนผมก็กำลังก้าวเท้าเข้าไปหาเธอ ก่อนที่เราทั้งสองจะหยุดอยู่ตรงหน้ากันและกัน
“หันหลังได้ไหม”
“ไม่เอา นายจะแกล้งฉันใช่ไหม” พรีมไม่ยอมทำตาม แถมยังใส่ร้ายว่าผมจะแกล้งเธออีก ช่างเป็นว่าที่คุณแม่ที่น่าตีจริง ๆ
“ไม่แกล้ง หันหลังไปแปปเดียว”
“แน่นะ”
“ถ้าแกล้งคืนนี้จะยอมนอนนอกห้องเลย” เมื่อผมพูดแบบนั้นพรีมก็ดูเชื่อผมมากขึ้น แต่ยังไม่วายส่งสายตาไม่ไว้ใจมาให้อีก และสุดท้ายเธอก็ยอมหันหลังกลับไปตามที่ผมร้องขอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: PLAYBOY คุณพ่อฝึกหัด