PLAYBOY คุณพ่อฝึกหัด นิยาย บท 26

สรุปบท PLAYBOY : 25: PLAYBOY คุณพ่อฝึกหัด

ตอน PLAYBOY : 25 จาก PLAYBOY คุณพ่อฝึกหัด – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

PLAYBOY : 25 คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายนิยายสำหรับผู้ใหญ่ PLAYBOY คุณพ่อฝึกหัด ที่เขียนโดย Cherr เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

Pream Part

.

หลังจากที่ไล่คริสออกไป ฉันก็ทิ้งตัวลงนอนด้วยความหงุดหงิด ไม่รู้เหมือนกันว่าหงุดหงิดอะไร แต่มันรู้สึกหงุดหงิดจนไม่อยากเห็นหน้าคริส ไม่อยากให้เขาเข้าใกล้ ไม่อยากให้แตะเนื้อต้องตัวอีกต่อไป

“พอนับดาวมาเรียกนะ รีบออกไปเหมือนหมาเจอเจ้าของ” ฉันบ่นระบายความหงุดหงิดในใจ เมื่อกี้อุตส่าห์ยอมเขาแล้วแท้ ๆ แต่พอนับดาวมาเรียกคริสก็รีบเดินออกไปทันที ไม่ได้สนเลยว่าฉันจะเป็นยังไง มันน่าโมโหไหมล่ะ บอกเลยว่าฉันไม่ได้หงุดหงิดที่คริสปล่อยให้ฉันค้างคาหรอกนะ ไม่ได้หมกมุ่นขนาดนั้นซะหน่อย แต่ฉันหงุดหงิดที่...

...ที่อะไร...

ช่างเถอะ!

ฉันเลิกสนใจอาการแปลก ๆ ของตัวเอง ก่อนจะปิดไฟที่หัวเตียงลง พยายามข่มตาหลับเพื่อให้ตัวเองเลิกฟุ้งซ่าน และเลิกคิดอะไรที่มันรกสมอง แต่จนแล้วจนรอดผ่านไปสองชั่วโมงแล้วฉันก็ไม่สามารถหลับได้ นับแกะก็แล้ว เปิดเพลงที่ชอบฟังเวลาที่นอนไม่หลับก็แล้ว แต่มันไม่ช่วยอะไรเลย สุดท้ายฉันเลยลุกขึ้นมานั่งท่ามกลางความมืดมิด

“ไปนอนที่ไหนนะ” ฉันค่อย ๆ ย่องลงจากเตียง ลองแง้มประตูดู เมื่อไม่เห็นใครอยู่ระหว่างทางเดิน และห้องทุกห้องปิดเงียบสนิทจึงค่อย ๆ พาตัวเองเดินออกไปด้านนอกเรื่อย ๆ เสียงวงเหล้าเงียบไปแล้ว ที่โต๊ะกินข้าวก็ว่างเปล่า แปลว่าคงแยกย้ายกันไปนอนแล้วสินะ

แต่คริสนอนที่ไหนล่ะ?

ฉันพยายามมองหาร่างสูงใหญ่ของสามีตัวเอง แต่หามองหาเท่าไหร่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงา แปลว่าคริสคงเข้าไปนอนกับเพื่อนซักคนหนึ่ง แอบรู้สึกผิดอยู่เหมือนกันที่ไล่เขาออกมาแบบนี้ แต่ตอนนั้นอารมณ์มันอยู่เหนือเหตุผลไปหมด ไม่อยากเห็นหน้าเขา ไม่อยากให้เขาเข้าใกล้ จนเผลอทำอะไรงี่เง่าแบบนี้ลงไป

“พรีม”

เฮือก!

ฉันสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินชื่อตัวเอง เสียงนั้น...ไม่ต้องหันกลับไปมองฉันก็รู้ดีว่าเสียงใคร

ทำยังไงดี... ถูกจับได้แบบนี้แล้วฉันจะแก้ตัวยังไงดี

“พรีม ออกมาข้างนอกทำไม มีอะไรหรือเปล่า” คริสไม่รอให้ฉันหันกลับไป เขาเดินอ้อมมาด้านหน้าเพื่อมามองหน้าฉันแทน “หรือมีปัญหาอะไร แพ้ท้องหนักมากเลยเหรอ ไปหาหมอไหม”

“ปะ...เปล่า” ฉันปฏิเสธ พยายามมองหาอะไรที่เป็นข้ออ้างให้ตัวเองได้ “ฉัน...ฉันแค่หิวน้ำน่ะ”

“ฉันก็วางน้ำไว้ที่หัวเตียงไง ไม่เห็นเหรอ”

ฉันชะงักเมื่อคริสพูดออกมาแบบนั้น เห็นสิ ทำไมจะไม่เห็น แต่ไม่รู้จะอ้างอะไรแล้วนี่นา

“ไม่เห็น” สุดท้ายฉันก็โกหกออกไป คริสดูยังสงสัยอยู่ แต่สุดท้ายก็ยอมเชื่อโดยไม่ถามอะไรออกมาอีก

“งั้นรออยู่ตรงนี้นะ เดี๋ยวไปเอาน้ำมาให้”

“อืม” ฉันพยักหน้ารับส่ง ๆ ไป คริสวางของที่ถือมาก่อนจะเดินไปที่ห้องครัว ในตอนนั้นเองที่ฉันสังเกตเห็นว่าเขาถืออะไรมาด้วย มันคือหมอนและผ้าห่ม นี่แปลว่าเขาต้องนอนข้างนอกนี้เหรอ

“นี่น้ำ” เขายื่นน้ำให้ฉันเสร็จก็ถอยออกไปยืนไกล ๆ นี่เขาทำตามที่ฉันบอกทุกอย่างเลยใช่ไหม บอกว่าให้อยู่ห่างสามเมตรเขาก็ทำอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง

“ขอบใจนะ” ฉันรับน้ำมาจิบแค่นิดเดียวพอเป็นพิธี เพราะไม่ได้รู้สึกหิวน้ำจริง ๆ “นายจะนอนตรงนี้เหรอ”

ตรงนี้ที่ฉันกำลังพูดถึงคือส่วนนั่งเล่น มีโซฟาตัวใหญ่ตั้งเด่นเป็นสง่า และมีโซฟาตัวเล็กอีกสี่ตัว มีเก้าอีกสองตัว เป็นส่วนที่สามารถรองรับคนได้เป็นสิบคน และแน่นอนว่ามันมีขนาดใหญ่มาก นอนอยู่ตรงนี้คนเดียวคงโหวงเหวงน่าดู

“ใช่ พอดีว่าพวกเพื่อนมันไม่ยอมให้นอนด้วยน่ะ จะไปนอนกับคุณนิคก็ไม่กล้าเคาะห้องเขา เลยมานอนตรงนี้ โชคดีที่โซฟาใหญ่” คริสตอบพร้อมรอยยิ้มเหมือนเคย เขาทำทีเป็นนั่งและนอนบนโซฟาตัวยาวให้ฉันดูว่ามันใหญ่แค่ไหน ใช่ มันใหญ่มากจนคนที่สูงร้อยแปดสิบห้าแบบคริสยังนอนเหยียดขาตรงได้สบาย แต่ยิ่งเห็นแบบนั้นฉันก็ยิ่งรู้สึกผิด จะให้คริสนอนตรงนี้ได้ยังไง แอร์ก็ไม่มี ทีแรกฉันคิดว่าเขาคงไปนอนกับเพื่อน ๆ ได้ก็เลยไล่ออกมาแบบนั้น

“นายเข้าไปนอนในห้องเถอะ”

“ว่ายังไงนะ” คริสเด้งตัวขึ้นทันทีที่ได้ยินแบบนั้น สีหน้าเขาดูเหมือนจะดีใจ แต่ก็แปลกใจด้วยในเวลาเดียวกัน “เธอเหม็นหน้าฉันอยู่ไม่ใช่เหรอ”

“ถ้ายังเหม็นอยู่ฉันคงยืนคุยกับนายไม่ได้” เรื่องเหม็นหน้านี่ฉันไม่ได้แกล้ง ไม่ได้แสดง แต่ตอนนั้นฉันรู้สึกเหม็นหน้าคริสจริง ๆ เห็นหน้าแล้วรู้สึกพะอืดพะอม ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม แต่ตอนนี้ไม่ได้รู้สึกแบบนั้นแล้ว

“จริงเหรอ”

“จริงสิ แต่ถ้านายไม่อยากเข้าไปก็นอนอยู่ตรงนี้แหละ” ฉันพูดจบก็เดินหนีทันที ไม่อยากพูดอะไรซ้ำ ๆ ถ้าไม่เข้าใจเรื่องของเขาแล้ว

“เข้าสิเข้า” คริสรีบก้าวเร็ว ๆ ตามมา เพียงแค่แวบเดียวเขาก็ขึ้นมาเดินเคียงคู่กับฉัน “เอาแก้วมาก่อน เดี๋ยวฉันเอาไปเก็บให้”

ฉันยื่นแก้วให้คริสแต่โดยดี คริสรับไปก่อนจะส่งยิ้มกว้าง ๆ มาให้ฉัน เขาเดินเข้าครัวเพื่อเอาแก้วเข้าไปเก็บแค่ครู่เดียว ก่อนจะเดินยิ้มหน้าบานออกมา

“ปะ เข้าห้องกันเถอะ ดึกมากแล้ว” เขาไม่พูดเพียงอย่างเดียว เพราะจู่ ๆ แขนของเขาก็วางทาบอยู่ที่เอวฉันโดยไม่มีการขออนุญาต แถมยังออกแรงดันเพื่อให้ฉันเดินอีก

“เดี๋ยวสิ มือนายน่ะ”

“ให้ฉันพาเธอเดินเถอะ ทางมันมืด เดี๋ยวล้ม”

ทางมืดที่ไหนกัน เปิดไฟสว่างโร่ทั้งบ้านขนาดนี้

ถึงจะแย้งเขาในใจแบบนั้น แต่ฉันก็ยอมให้คริสโอบเอวแต่โดยดี ช่างเถอะ...แบบนี้ก็รู้สึกดีอยู่เหมือนกัน

.

.

ฉันเดินออกมาจากห้องน้ำหลังจากอาบน้ำและแต่งตัวเสร็จ เช้านี้เรามีนัดกินข้าวพร้อมหน้าตอนเจ็ดโมง คริสตื่นตั้งแต่ตีห้าครึ่งและอาบน้ำแต่งตัวออกไปช่วยคนอื่น ๆ เตรียมอาหารแล้ว ส่วนฉันคริสบอกให้ออกไปประมาณหกโมงห้าสิบก็ได้ เพราะข้างนอกวุ่นวาย เดี๋ยวจะทำให้ฉันแพ้ท้องขึ้นมาอีก

ฉันมองหน้าคริสทันทีเมื่อได้ยินแบบนั้น ฉันไม่เข้าใจ... ทำไมเขาต้องเอาใจใส่ฉันขนาดนี้ด้วย ในเมื่อเขากำลังทำอะไรลับหลังฉันแบบนั้น จะแสร้งให้ฉันตายใจว่าเขาดีกับฉันละลูกจริง ๆ งั้นเหรอ? เพื่ออะไร? ฉันไม่เข้าใจ

“พรีม” คริสเขย่าแขนฉันเบา ๆ “เป็นอะไรไป ทำไมเหม่อล่ะ”

“เปล่าน่ะ” ฉันส่งยิ้มให้เขาฝืน ๆ “กินข้าวเถอะ”

.

.

‘พ่อกับแม่รักพรีมนะ’

ฉันยิ้มออกมาเมื่ออ่านข้อความนั้นจบ เป็นข้อความที่ส่งมาจากพ่อ(และแม่)แต่เช้าตรู่เพื่ออวยพรวันเกิด ฉันเองก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าวันนี้เป็นวันเกิดของตัวเอง ถ้าพ่อไม่ส่งข้อความมาฉันคงลืมสนิท

ตอนนี้เราอยู่บนรถระหว่างทางไปเที่ยว โปรแกรมวันนี้ไม่มีอะไรมาก เราแค่ไปเที่ยวตามสถานที่สำคัญที่ควรไปเมื่อมาภูเก็ต เราแยกเป็นสองทีม ทีมที่จะไปนั่งเรือ ดำน้ำ ดูปะการัง และทีมที่ไม่ทำกิจกรรมพวกนั้น แน่นอนว่าฉันอยู่ทีมที่สอง คริสเองก็ตามมาดูแลฉัน รวมถึงพี่เนตั้นและเหมือนฝันที่เลือกทีมที่สองเหมือนกัน เพราะเหมือนฝันว่ายน้ำไม่เป็น แถมยังเมาเรือหนักอีก ทั้งคู่เลยเลือกที่จะมาเที่ยวกับเราแทน

พวกเราไปเที่ยวตามแลนด์มาร์กที่สำคัญของภูเก็ต ถ่ายรูปหลายต่อหลายรูปจนเหนื่อยจึงลงความเห็นว่าควรกลับได้แล้ว เราออกมาค่อนข้างไกลจากที่พัก ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายสามตรง กว่าจะกลับถึงที่พักคงใช้เวลาร่วมสองชั่วโมง เมื่อเที่ยวจนเหนื่อย กินจนอิ่ม หนังตาฉันก็หนักจนยกแทบไม่ขึ้น

“ง่วงเหรอ” คริสกระซิบถาม เขาคงสังเกตว่าฉันหาวติด ๆ กันหลายครั้ง

“อือ”

“งั้นก็นอนเถอะ อีกซักพักเลยกว่าจะถึง”

“อือ”

เมื่อฉันตอบไปแบบนั้นคริสก็ทำท่าจะปรับเบาะให้ แต่เขาคงลืมไปว่ามีอีกสองคนที่นั่งอยู่ด้านหลังจึงทำให้ไม่สามารถปรับเบาะได้มากนัก คริสนิ่งไปซักพักเพื่อใช้ความคิด ก่อนจะหันมาพูดกับฉันว่า

“เอนตัวลงมานอนตักฉันนะ ปรับเบาะไม่ได้”

“อือ” ฉันทำตามอย่างว่าง่าย ตอนนี้ง่วงจนไม่อยากทำอะไรแล้วนอกจากนอน เมื่อเอนตัวลงนอนและใช้ตักของคริสเป็นหมอนเรียบร้อยฉันก็ปล่อยตัวให้หลับทันที

แต่ก่อนที่ฉันจะเข้าสู่ห้วงนิทรานั้น ฉันก็ได้ยินเสียงมือถือของคริสที่ดังขึ้น คริสรีบรับอย่างรวดเร็วเพราะกลัวว่าจะทำให้ฉันตื่น เขา...ไม่รู้ว่าฉันยังไม่หลับ

“ว่าไง นับดาว”

นับดาวอีกแล้วเหรอ...

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: PLAYBOY คุณพ่อฝึกหัด