Chris Part
.
หลังจากมื้อเย็นพวกเราทั้งหมดก็แยกย้ายกันไปพักผ่อน เพราะว่ากว่าจะมาถึงภูเก็ตก็เย็นมากแล้ว โปรแกรมเที่ยวทุกอย่างจึงเริ่มต้นพรุ่งนี้
ผมนั่งเช็กมือถือระหว่างรออาบน้ำต่อจากพรีม รูปที่ลงในอินสตราแกรมล่าสุดมีคนกดไลค์และคอมเมนต์เป็นจำนวนมาก นับว่าเป็นรูปที่สองของผมที่ได้ยอดไลค์เยอะขนาดนี้ ส่วนรูปแรกก็เป็นรูปทะเบียนสมรสที่ผมอัพไปเมื่อวันก่อน
“เสร็จแล้วเหรอ” ผมเงยหน้าขึ้นมองเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตูห้องน้ำ พรีมอยู่ในชุดคลุมสีขาวเดินออกมา เธอไม่ยอมตอบ ใบหน้าสวยดูนิ่งเฉยจนผมขมวดคิ้ว เมื่อเย็นยังดี ๆ อยู่เลยนี่น่า ทำไมตอนนี้มาเย็นชาใส่กันแบบนี้ล่ะ
พรีมเดินผ่านหน้าผมไปนั่งที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง หยิบครีมบำรุงที่ใช้ได้แค่ไม่กี่ตัวขึ้นมาทาหน้าเงียบ ๆ เสร็จแล้วก็นั่งเป่าผมไปเรื่อย ๆ เธอทำเหมือนว่าผมเป็นอากาศธาตุ ไม่คิดจะเหลือบตามองหรือตอบคำถามด้วยซ้ำ นี่มันไม่ปกติแล้วนะแบบนี้
ผมตัดสินใจเดินเข้าห้องน้ำก่อน กะเวลาไว้แล้วว่ากว่าพรีมจะเป่าผมเสร็จผมคงอาบน้ำเสร็จพอดี ไม่ชอบอะไรที่มันค้างคา ผมต้องถามให้ได้ว่าพรีมเป็นอะไร ผมทำอะไรให้ไม่ถูกใจตรงไหน จะได้ไม่ทำอีก
ใช้เวลาเพียงไม่นานผมก็อาบน้ำเสร็จ แต่คนที่คิดว่าน่าจะยังนั่งเป่าผมอยู่กลับหายไป เมื่อมองไปที่เตียงผมก็เห็นว่าคนที่ตามหากำลังนอนหลับอุตุอยู่ นี่เพิ่งสองทุ่มเอง ปกติแล้วพรีมจะนอนช่วงสามถึงสี่ทุ่ม ที่วันนี้นอนเร็วสงสัยเป็นเพราะอ่อนเพลียจากการเดินทาง
เมื่อพรีมนอนแล้วผมก็ทำอะไรไม่ได้ ผมเดินไปปิดไฟเพื่อที่จะให้เธอนอนได้อย่างสบาย หลังจากนั้นผมก็ทิ้งตัวนอนลงข้าง ๆ กับพรีมนั่นแหละ พรีมนอนแล้วผมก็ไม่รู้จะทำอะไรดี กลัวเผลอทำเสียงดังรบกวนจนคนที่กำลังท้องตื่น เอาเถอะ... นอนเร็วหน่อยก็ดีเหมือนกัน
“ฉันอยากรู้ว่าเธอเป็นอะไร...” ผมยันกายขึ้นและจ้องมองใบหน้าของพรีมที่กำลังหลับสนิท แสงจากภายนอกทำให้เห็นหน้าเธออยู่บ้างแม้จะไม่ได้ชัดมากนัก รูปหน้าด้านข้างของพรีมสวยมาก หน้าผากนูนนิด ๆ จมูกโด่งรั้น และริมฝีปากอิ่ม...
อึก!
ผมกลืนน้ำลายลงคอเมื่อได้จ้องมองริมฝีปากคู่นั้น ยังจำได้ดีว่ามันนุ่มและหอมหวานมากแค่ไหนตอนที่ผมได้สัมผัสครั้งแรก นี่ก็นานแล้วนะที่ผมไม่ได้แตะต้องเธออีก วันแต่งงานก็ได้แค่จับมือ จูบหรือแม้แต่หอมไม่มีเลย
ผมขยับเข้าไปใกล้ แม้สำนึกผิดชอบชั่วดีจะร้องบอกผมว่าไม่ควรเอาเปรียบพรีม แต่อีกด้านก็คอยยุยงว่าผมเป็นสามี มีสิทธิ์ในตัวของพรีมทุกอย่าง และแน่นอนว่าผมโอนอ่อนตามด้านมืดของตัวเอง ผมค่อย ๆ ขยับเข้าไปใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งใบหน้าของเราห่างกันแค่คืบเดียว
แค่จูบเอง แค่จูบเท่านั้น แค่ปากแตะปาก ไม่มีอะไรมากกว่านั้น...
ตึกตึก ตึกตึก
อา...นุ่มเหมือนเดิมเลย
ผมหลับตาลง กดริมฝีปากลงบนริมฝีปากของพรีมแผ่วเบา พยายามรุกล้ำเธอให้น้อยที่สุด แม้ว่าความนุ่มนิ่มนั้นจะดึงดูดไว้แค่ไหน แต่ผมก็ต้องตัดใจและให้สัญญากับตัวเองว่าจะหยุดมันภายในสามวินาทีต่อจากนี้
สาม
สอง
หนึ่ง
“อือ” จู่ ๆ พรีมก็เผยอริมฝีปากออกในจังหวะที่ผมกำลังจะถอยห่าง เธอเหมือนกำลังเชิญชวนทั้ง ๆ ที่ไม่มีสติ และนั่นทำให้ในหัวของผมตีกันยุ่งเหยิงอีกครั้ง
พอเถอะ ไหนบอกว่าแค่แตะไง นี่เป็นด้านสว่างของผม
ต่อสิ เธอเผยอปากแปลว่ากำลังเชิญชวนนะ ส่วนนี่เป็นด้านชั่วร้ายของผม
ผมชะงักค้างอยู่แบบนั้นนานหลายวินาที ทั้ง ๆ ที่หน้าเราใกล้กันขนาดนี้แท้ ๆ แต่ผมกลับไม่กล้าก้มลงไปจูบ ไม่กล้าถอยห่าง ไม่กล้าทำอะไรเลย ผมไม่เคยขี้ขลาดเรื่องผู้หญิงแบบนี้มาก่อน เมื่อก่อนแค่ได้สบตา ถ้าถูกใจผมก็พร้อมบุกทันที แต่นี่ผมกลับลังเลอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทั้ง ๆ ที่พรีมคือภรรยา คือคนที่ผมสามารถครอบครองร่างกายนี้อีกกี่ครั้งก็ได้
ในระหว่างที่ผมกำลังตบตีกับตัวเองอยู่นั้น เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ดวงตาที่เคยปิดสนิทของพรีมเปิดขึ้นอย่างเชื่องช้า เมื่อเห็นว่าหน้าของผมอยู่ห่างจากหน้าของเธอไม่ถึงคืบ ดวงตาคู่นั้นก็เบิกกว้างกว่าเดิมด้วยความตกใจ
“ทำอะไร” พรีมถามออกมาแค่นั้น ไม่ได้มีเสียงต่อว่า ไม่ได้มีการถีบเหมือนวันแรกที่เธอตื่นมาในอ้อมกอดของผม
“ฉันจูบเธอ” พรีมเงียบไปเมื่อผมตอบตามความจริงแบบนั้น “ขอโทษนะ”
“ขอโทษ” ดวงตาของเธอฉายแววฉงนสงสัย “ขอโทษทำไม”
“ขอโทษที่จูบ”
“ไม่เห็นต้องขอโทษเลย” พรีมเอนหน้าไปอีกฝั่ง ไม่กล้าสบตาผมเหมือนตอนแรก “นายมีสิทธิ์ทำทุกอย่างอยู่แล้ว”
เท่านั้นแหละครับ ด้านสว่างของผมถูกดีดออกไปอย่างรวดเร็ว ผมค่อย ๆ จับใบหน้ารูปไข่ให้หันกลับมาหา น่าเสียดายที่มันมืด ไม่อย่างนั้นคงได้เห็นแล้วว่าแก้มทั้งสองข้างของพรีมแดงแค่ไหน เพราะผมมั่นใจว่าพรีมต้องเขินแน่นอน ดูจากที่เธอไม่กล้าสบตาผมแบบนี้น่ะนะ
“งั้น...ขอจูบอีกทีได้ไหม”
“...” พรีมไม่ได้ตอบเป็นคำพูด แต่เธอพยักหน้าขึ้นลงเบา ๆ แค่นั้นก็ทำให้ผมระริกระรี้เพราะความดีใจได้แล้ว
ให้พูดตรง ๆ ผมก็เป็นผู้ชายคนหนึ่งที่ยังมีความต้องการปกติ และดูเหมือนว่าจะต้องการมากด้วย ตั้งแต่ที่ผมนอนกับพรีมไปคราวนั้นจนได้ลูกแฝดติดมา ผมก็ไม่ได้นอนกับใครอีกเลย ช่วยตัวเองก็ไม่ได้ทำ ตอนที่ยังนอนคนเดียวก็ไม่ได้รู้สึกว่าต้องการอะไร แต่พอมีร่างนุ่มนิ่มกลิ่นหอม ๆ ของคนที่มีฐานะเป็นภรรยามานอนด้วยแบบนี้...บอกเลยว่าตบะแตก สารภาพก็ได้ว่าเกือบลักหลับพรีมตั้งแต่วันส่งตัวเข้าหอด้วยซ้ำ
ผมจ้องมองใบหน้าหวานซึ้ง พร้อมกับใช้ปลายนิ้วโป้งเกลี่ยกลีบปากของพรีมไปมาเบา ๆ พรีมไม่กล้าสบตาผมเลย เอาแต่มองไปทางโน้นทีทางนี้ทีจนผมอยากแกล้งให้อายมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่สุดท้ายก็เป็นผมเองที่ทนไม่ไหว ผมกดจูบลงบนริมฝีปากที่กำลังเผยอออกโดยไม่ได้ส่งสัญญาณบอกอีกคนล่วงหน้า พรีมดูตกใจเล็กน้อยที่ถูกจู่โจมกะทันหัน แต่เพียงไม่นานเธอก็ยอมปล่อยให้ผมนำทางจูบครั้งนี้แต่โดยดี
จูบที่เรามีสติดีทั้งคู่ จูบที่เราเต็มใจให้มันเกิดขึ้น
เราจูบกันอย่างลึกซึ้ง มันไม่ใช่แค่การเอาปากไปแตะปากเหมือนก่อนหน้านี้ แต่เราสัมผัสกันเกือบทุกที่เท่าที่ทำได้ จูบที่แสนลึกล้ำค่อย ๆ ปลุกอารมณ์ที่ผมกักเก็บไว้มานานให้ลุกโชนขึ้นมา ผมรุกเร้าพรีมหนักขึ้นเรื่อย ๆ จนพรีมต้องยกมือขึ้นมาขยำเสื้อที่ผมใส่อยู่ จากจูบที่เคยอ่อนโยนแปรเปลี่ยนเป็นร้อนแรง ผมส่งลิ้นเข้าไปสำรวจทุกซอกทุกมุมของพรีมอย่างกระหายอยาก และในตอนนั้นเองผมก็เลื่อนมือไปสัมผัสกับอกอิ่ม
พรีมไม่ได้ตกใจเลยที่ผมทำแบบนั้น คงเพราะมัวแต่ปล่อยสติไปกับจูบที่ผมปรนเปรอให้ ผมเลยได้ใจเปลี่ยนจากสัมผัสแค่ภายนอกเป็นด้านในแทน พรีมไม่ได้ใส่บรานอน ผมไม่แปลกใจเพราะหน้าอกพรีมกำลังขยายขึ้นเพื่อสร้างน้ำนมให้สองแฝด ใส่บรานอนทำให้เธออึดอัดและอาจจะเจ็บได้ และนั่นทำให้ผมได้สัมผัสพรีมได้ง่ายขึ้นเหมือนกัน
“ขอได้ไหม” ผมถอนจูบออกมาและเอ่ยขอบางอย่างกับพรีม บีบสิ่งที่อยู่ในมือเบา ๆ เพื่อให้เธอรู้ว่าผมหมายถึงอะไร
“ไม่...แฮ่ก...ต้องถามได้ไหม” พรีมหอบหายใจ จูบเมื่อกี้ยาวนานจนคนที่ยังใหม่กับเรื่องนี้หายใจแทบไม่ทัน “อยากทำอะไรก็ทำ ไม่ต้องถาม”
“งั้นไม่เกรงใจแล้วนะ” ผมส่งยิ้มให้เธอ ก่อนจะดึงมือออกมาเพื่อจัดการกระดุมเสื้อนอนที่แสนเกะกะ เพียงไม่นานกระดุมทั้งหมดก็ถูกแกะออก ผมค่อย ๆ เปิดเสื้อนอนของพรีมออก ความขาวนวลที่แม้จะอยู่ในที่มืดก็ยังปรากฏให้เห็นได้ชัดเจน ผมกลืนน้ำลายลงคอ ขนาดท้องอยู่พรีมยังสวยขนาดนี้
ผิวของพรีมขาวกระจ่าง ขาวเหมือนสีของน้ำนม รูบร่างของพรีมโค้งเว้าสวยเหมือนกับนาฬิกาทราย ผมจำได้ดีว่าพรีมมีหน้าอกที่ใหญ่พอดีกับมือใหญ่ ๆ ของผมอยู่แล้ว แต่ตอนนี้พรีมกำลังตั้งท้อง หน้าอกจึงขยายขนาดขึ้นจนผมมั่นใจว่ามือผมไม่สามารถกอบกุมได้หมดเหมือนครั้งที่แล้วแน่นอน ส่วนหน้าท้องของพรีมก็ขยายขึ้นเพียงเล็กน้อย แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่ยืนยันว่าลูกทั้งสองคนของผมกำลังเติบโตอย่างดีอยู่ในนั้น
“จุ๊บ” ผมจูบลงหน้าท้องของพรีม ก่อนจะเอ่ยทักทายลูกอย่างใกล้ชิดเป็นครั้งแรก “นอนกันเถอะเด็กดี พ่อขอกวนแม่หน่อยนะ”
ผมค่อย ๆ จูบจากหน้าท้องไล่ขึ้นมา ก่อนจะหยุดลงตรงหน้าความอวบอิ่มที่ตั้งตระหง่านรอให้ผมเชยชม และเพียงแค่ผมแกล้งเป่าลมหายใจใส่ ปลายยอดที่เคยนิ่งสงบก็แข็งตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว
คนท้องจะไวต่อสัมผัส เป็นเรื่องจริงสินะ
ผมขยับเข้าใกล้ เป้าหมายคือได้ครอบครองสิ่งที่กำลังหดตัวท้าทายผมอยู่นั้น แต่แล้วสวรรค์ของผมก็จางหายไปในพริบตา เพราะเสียงบางอย่างที่ไม่อยากได้ยินดังขึ้น
ก๊อก! ก๊อก!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: PLAYBOY คุณพ่อฝึกหัด