ฉันรู้สึกตัวขึ้นเพราะแรงขยับตัวของอีรีซี่มัน ทำให้ฉันลุกขึ้นนั่งบนเตียงนอนก่อนจะหันไปมอง คนที่นอนอยู่ด้านข้างๆ ก่อนที่เธอจะเลิกสนใจและก้าวขาลงออกจากเตียง
ฉันเดินตรงไปเข้าห้องน้ำ ล้างหน้าล้างตา เตรียมตัวที่จะไปโรงพยาบาลเพื่อฝากครรภ์ เธอจึงอาบน้ำอาบท่าแล้วออกมาแต่งตัวให้เรียบร้อย
"ตื่นนานยังมึง!!??" อีรีซี่ที่เพิ่งตื่นนอนก็เดินมาหาเธอก่อนที่จะถามขึ้น
"ก็ไม่นานเท่าไหร่?? มึงอ่ะไปอาบน้ำได้แล้ว" ฉันที่กำลังทาครีมก็ได้ยินเสียงของอีรีซี่ดังขึ้น ก่อนที่จะตอบคำถามและบอกให้มันไปอาบน้ำ
"เออ!! เพิ่งตื่นเมื่อกี้นี้" อีรีซี่พูดเสร็จก็เดินตรงไปเข้าห้องน้ำทันที ฉันจึงเลิกสนใจและหันมา จัดการแต่งหน้าแต่งตาตัวเองให้เสร็จ
ไม่นานอีรีซี่ก็อาบน้ำแต่งตัวเสร็จ เราทั้งสองคนจึงเดินออกมาจากห้อง ตรงไปที่ลิฟต์ก่อนที่อีรีซี่จะกดปุ่มตรงชั้นล่าง
ลิฟต์เคลื่อนตัวลงมาเรื่อยๆ ไม่นานประตูลิฟท์ก็เปิดออก ฉันและอีรีซี่ซี่จึงเดินออกมาจากลิฟต์ เดินตรงไปที่รถแลมโบกินี่สีแดงจอดอยู่
"รถใครวะ??" ฉันถามขึ้นอย่างสงสัยที่อีรีซี่มันพาเธอมาที่รถแลมโบกินี่สีแดงที่จอดอยู่ อีรีซี่ไม่ตอบคําถามและจับมือเธอให้มาฝั่งข้างคนขับ ก่อนที่มันจะเปิดประตูรถและยัดฉันเข้าไปด้านใน
"มึงยังไม่ตอบคำถามกูเลยนะอีรีซี่ ตกลงว่ามันรถของใคร" ฉันที่เห็นอีรีซี่เปิดประตูรถเข้ามานั่งฝั่งคนขับ ก็ถามขึ้นอีกครั้งอย่างสงสัย
"รถกูเอง!! คาดเข็มขัดนิรภัยด้วยมึง"
ฉันพยักหน้ารับอย่างเข้าใจก่อนที่จะคาดเข็มขัดนิรภัย อีรีซี่ที่ฉันทำตามที่มันบอก ก็หันมาขับรถออกจากคอนโดทันที
โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง
ไม่นานอีรีซี่ก็ขับรถพาฉันมาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ฉันและอีรีซี่จึงเดินตรงเข้าไปในโรงพยาบาล อีรีซี่จัดการทำเรื่องขอฝากครรภ์ ก่อนที่มันจะพาฉันไปที่ห้องตรวจ
ฉันและอีรีซี่นั่งรอที่หน้าห้องตรวจเพื่อรอนางพยาบาลเรียกซักประวัติ จังหวะที่ฉันกำลังนั่งรออยู่นาน อีรีซี่ก็ร้องขึ้นอย่างตกใจ
"เฮ้ย!!! นั่นมัน??"
"เป็นอะไรของมึงวะ!!?? อยู่ๆก็ร้องขึ้นมา??" ฉันสะดุ้งตกใจเพราะเสียงร้องของอีรีซี่ จึงหันไปถามมันอย่างสงสัย
"จะไม่ให้กูตกใจได้ไง!!?? มึงดูนู่น??" อีรีซี่พูดเสร็จก็ชี้ไปอีกทางหนึ่งเพื่อให้ฉันดู เธอจึงสงสัยและหันไปดูตามที่อีรีซี่บอก ก็ตกใจกับภาพที่เห็น
มันเป็นภาพที่ส้มจี๊ดและผู้หญิงอีกคนเดินออกมาจากห้องตรวจครรภ์ ฉันมองผู้หญิงที่มากับส้มจี๊ดอย่างสงสัยแต่ก็เลิกสนใจ
"ยัยส้มจี๊ดนั่นมากับใครอ่ะ??" อีรีซี่พี่เอาแต่มองส้มจี๊ดน้องสาวของเธอไม่หยุด ก่อนที่มันจะถามถึงผู้หญิงที่มากับน้องสาวของเธอยังสงสัย
"ช่างน้องกูเถอะ!! มึงก็เลิกเสือกเรื่องเขาได้แล้ว" ฉันจึงบอกอีรีซี่ให้มันเลิกสนใจน้องสาวของเธอ
"ไม่ได้ค่ะ!!! ยิ่งเป็นน้องมึง กูยิ่งอยากเสือก" อีรีซี่ตอบปฏิเสธก่อนที่มันจะลุกขึ้นยืน ทำท่าจะเดินตามส้มจี๊ดไปให้ได้
หมับ!!
"แล้วนั่นมึงจะไปไหน!!??" ฉันที่เห็นอีรีซี่ลุกขึ้นยืนและกำลังจะเดินไปหาส้มจี๊ด เธอจึงเอื้อมมือไปจับแขนของอีรีซี่และพูดขึ้น
" มึงรออยู่นี่!! ห้ามลุกไปไหนเข้าใจไหม??" อีรีซี่หันมาบอกและสั่งห้ามไม่ให้ฉันลุกไปไหน ก่อนที่มันจะเดินออกไปทันที
จังหวะที่ใช้กำลังจะเดินตามอีรีซี่ไป เสียงนางพยาบาลก็เรียกชื่อของฉันขึ้น มันทำให้เธอไม่สามารถเดินตามอีรีซี่ไปได้ ฉันมองไปทางที่อีรีซี่เดินไป ก่อนที่ฉันจะเดินตามนางพยาบาลเข้าไปในห้องตรวจ
หลังจากที่ฉันอัลตร้าซาวด์ตรวจดูทารกในครรภ์ ไม่นานก็เสร็จแล้วเดินออกมาจากห้องตรวจ เป็นจังหวะที่อีรีซี่เดินตรงมาหาเธอพอดี
"เป็นอะไรของมึงทำหน้าทำตา!!??" ฉันถามขึ้นอย่างสงสัยที่เห็นอีรีซี่ มันเดินตรงมาหาเธอด้วยหน้าตาบอกบุญไม่รับ
"อย่าให้กูพูดถึงเลย!! ตกลงหลานกูเป็นไงบ้าง??" อีรีซี่พูดเสร็จก็ถามถึงลูกในท้องของเธอ ก่อนที่อีรีซี่จะเอื้อมมือมาลูบบริเวณหน้าท้องที่นูน
"แข็งแรงดี"
"งั้นกลับบ้านกันเถอะมึง"
หลังจากนั้นไม่นานฉันและอีรีซี่ ก็ขับรถออกมาจากโรงพยาบาล และมุ่งหน้ากลับคอนโดของมันทันที
ตั้งแต่ที่ผมกลับมาอยู่ที่กรุงเทพฯ ผมก็ออกตามหาเมียของผม ทุกที่ที่ผมคิดว่าเธอจะไป สุดท้ายความพยายามของผมก็ไม่สำเร็จ เพราะผมหาเธอไม่พบและไม่รู้ว่าเธอและลูกไปอยู่ที่ไหน
"ตาเรน!! ทำไมลูกไม่พาหนูส้มจี๊ดไปตรวจครรภ์!!??" คุณหญิงเพียงขวัญที่เห็นลูกชายของตนไม่ยอมพาหนูส้มจี๊ดไปตรวจครรภ์
"ผมไม่ว่างครับ" ผมตอบไปตามความจริง ผมรู้สึกว่าเดี๋ยวนี้คุณแม่พยายามยัดเยียดส้มจี๊ดมาให้ผมตลอด มนทำให้ผมไม่สามารถออกไปหาส้มหวานได้
"ไม่ว่าง!!?? วันๆแม่ก็เห็นว่าลูกไม่ทำอะไร เอาแต่ขับรถตะลอนออกไปข้างนอกทุกวัน!!?? แค่พาหนูส้มจี๊ดไปตรวจครรภ์ไม่ได้เลยหรอ??"
"ที่ผมออกไปทุกๆวัน เพราะผมไปตามหาเมียและลูก คุณแม่ก็เลิกยัดเยียดส้มจี๊ดมาให้ผมดูแลได้แล้ว"
"ทำไมรู้ถึงพูดแบบนี้!!?? ส้มจี๊ดเป็นเมียของลูกและเธอกำลังตั้งท้องลูกของลูกอยู่นะ!!??"
"ส้มหวานเธอก็ตั้งท้องลูกของผมเหมือนกัน ทำไมคุณแม่ไม่เป็นห่วงเธอบ้าง!!??" ผมรีบบอกเพราะคุณแม่เอาแต่เป็นห่วงส้มจี๊ดมากกว่าเมียของเขาที่กำลังท้องอยู่
"ผู้หญิงที่แย่งสามีน้องสาวตัวเองแบบนั้น ทำไมไม่ต้องสนใจด้วย" คุณหญิงเพียงขวัญที่ได้ยินลูกชายของตน เอาแต่พูดถึงผู้หญิงคนนั้นไม่หยุดทำให้เธอรู้สึกโมโห
"ส้มหวานเธอไม่ได้แย่งผมไปจากส้มจี๊ด แต่ผมรักส้มหวานไม่ได้รักส้ม..." ผมที่กำลังจะบอกให้คุณแม่เข้าใจ ว่าจริงๆแล้วเขารักส้มหวานไม่ใช่ส้มจี๊ด
"สวัสดีค่ะคุณแม่" ส้มจี๊ดที่อยู่ฟังอยู่ตั้งนาน ก็รู้สึกโกรธและแค้นอีส้มหวาน เธอจึงเดินตรงเข้าไปทักทายคุณแม่ของพี่คาเรน
"หนูส้มจี๊ดเป็นไงบ้างลูกไปตรวจครรภ์วันนี้!!??" คุณหญิงเพียงขวัญที่เห็นส้มจี๊ดเดินตรงเข้ามาหาตนเอง ก็รู้สึกเป็นห่วงความรู้สึกของหญิงสาว
"ไม่เป็นไรค่ะคุณแม่ เจ้าตัวเล็กแข็งแรงดีค่ะ" ส้มจี๊ดยิ้มรับก่อนที่จะตอบคุณหญิงเพียงขวัญตามความจริง และไม่ลืมที่จะหันไปมองหน้าชายหนุ่ม แต่พอเห็นว่าชายหนุ่มไม่สนใจเธอเลย
มันยิ่งทำให้เธอโกรธและเกลียดอีส้มหวามมาก ส้มจี๊ดกำมือแน่นเพื่อระบายความโกรธของตัวเอง
"งั้นหรอลูก!!?? แม่ค่อยสบายใจหน่อย" คุณหญิงเพียงขวัญที่เห็นท่าทางของลูกชายที่ไม่สนใจใยดี
"คุณแม่และพี่คาเรน คุยอะไรกันอยู่หรอคะ??" ส้มจี๊ดที่ได้ยินคุณหญิงเพียงขวัญถามเธออย่างเป็นห่วง ส้มจี๊ดจนรีบปรับสีหน้าและหันมาถาม
"แล้วมันเกี่ยวอะไรกับมึง!!??" ผมไม่ชอบใจที่ส้มจี๊ดเธอมาที่บ้านของผมทุกวัน
"ตาเรน!!!"
"จำใส่หัวสมองของมึงเอาไว้เลย!! กูไม่มีวันแต่งงานกับมึง!!!" ผมไม่สนใจว่าคุณแม่จะรู้สึกพอใจหรือไหม ผมเดินตรงเข้าไปหาส้มจี๊ดและพูดกับเธอเสร็จก็เดินออกไปทันที
"ตาเรน!!! กลับมาเดี๋ยวนี้นะ"
ผมพูดเสร็จก็เดินออกมาจากบ้านทันที โดยไม่สนใจเสียงร้องเรียกของคุณแม่ที่ดังตามมา
" คุณแม่คะ!!?? หนูขอไปคุยกับพี่เขาหน่อยนะคะ!!??" ส้มจี๊ดที่ถูกชายหนุ่มพูดแบบนั้น เธอก็โกรธและโมโหมาก
"แต่แม่คิดว่า...."
"ไม่เป็นไรค่ะคุณแม่" ส้มจี๊ดพูดเสร็จก็เดินตาม ชายหนุ่มออกไปจากบ้านทันที
ผมที่รู้สึกโกรธและโมโหมาก ที่ส้มจี๊ดทำให้แม่ของเขาไม่ชอบส้มหวานเมียของผม
"พี่จะไปตามหาอีส้มหวานอีกแล้วหรอคะ!!??"
"แล้วมันเกี่ยวอะไรกับมึง!!??" ผมที่กำลังจะเอื้อมมือไปเปิดประตูรถก็ต้องชะงักเสียงจากคนด้านหลัง
ผมจึงหันกลับไปมองก็เห็นเป็นส้มจี๊ดยืนกอดอกมองมาที่เขาอย่างเอาเรื่อง
"มันเกี่ยวกับส้มจี๊ดแน่นอนค่ะ เพราะส้มจี๊ดกำลังจะเป็นเมียของพี่ เรากำลังจะแต่งงานกันนะคะ"
"มึงเลิกฝันไปเถอะว่ากูจะแต่งงานกับมึง!!!"
"มันจะเป็นฝันหรือไม่!!?? ส้มจี๊ดก็ไม่รู้หรอกนะคะ แต่สิ่งหนึ่งที่ส้มจี๊ดอยากจะบอก" ส้มจี๊ดพูดเสร็จก็เดินตรงเข้ามาหาผมก่อนที่เธอจะพูดประโยคที่มันทำให้ผมโมโห
"คุณแม่พี่จะไม่มีวันรับอีส้มหวานเป็นลูกสะใภ้แน่นอน"
"มึง!!!" ผมที่ได้ยินสิ่งที่ส้มจี๊ดบอกก็รู้สึกโกรธและเดินตรงเข้าไปหาเธอ
กรี๊ดดดดดดด!!!
ส้มจี๊ดที่เห็นว่าเขาโกรธและกำลังเข้าตรงเข้ามาหาเธอ ส้มจี๊ดเธอค่อยหลังไปก้าวหนึ่งและส่งเสียงกรีดร้องดังขึ้นมา
"ตาเรน!!! ลูกคิดจะทำอะไรหนูส้มจี๊ด!!??" คุณหญิงเพียงขวัญที่เป็นห่วงหนูส้มจี๊ดและลูกในท้องของเธอ ก็เดินออกมาดูแต่ก็ต้องตกใจเสียงกรีดร้อง
"พี่คาเรนส้มจี๊ดขอโทษ ส้มจี๊ดไม่ได้ตั้งใจให้พี่ส้มหวานหนีไป อย่าทำอะไรส้มจี๊ดและลูกเลยนะคะ" ส้มจี๊ดที่ได้ยินเสียงของคุณหญิงเพียงขวัญแม่ของชายหนุ่ม
ส้มจี๊ดรีบนั่งคุกเข่ายกมือขึ้นไหว้และกล่าวขอโทษที่ตัวเองเป็นต้นเหตุและมันยิ่งทำให้คุณหญิงเพียงขวัญต้องรีบเข้ามาช่วย
"มึง!!!" ผมที่ยืนมองสิ่งที่ส้มจี๊ดที่ทำและไหนจะคำพูดของเธอ มันยิ่งทำให้คุณแม่ของเขาไม่พอใจมากขึ้นไปอีก
ผมที่จะเดินตรงเข้าไปหาส้มจี๊ด ผมอย่างจะเดินเข้าไปบีบคอเธอให้ตายๆไปซะแต่ก็ต้องชะงักเพราะคำพูดของคุณแม่
"ตาเรน!!! แม่ขอสั่งห้ามให้ลูกเลิกตามหาผู้หญิงคนนั้นได้แล้ว"
"คุณแม่!!"
"คุณแม่ค่ะ อย่าว่าพี่คาเรนเลยค่ะ ส้มจี๊ดผิดเองที่ทำให้พี่ส้มหวานหนีไป"
"มึงหุบปากไปเลย!!!"
"คนที่ต้องหุบปากมันก็คือลูก!!! แม่ไม่อยากได้ให้ลูกไปตามหาผู้หญิงคนนั้นอีก ตอนนี้ลูกต้องดูแลหนูส้มจี๊ดเธอกำลังท้อง"
"ส้มหวานก็ท้องเหมือนกันครับ"
"แม่ไม่สน แม่จะเร่งงานแต่งของลูกให้เร็วขึ้น เพราะตอนนี้หนูส้มจี๊ดก็ท้องเริ่มโตขึ้นทุกวัน"
"ผมไม่แต่ง!! ให้ผมตายดีกว่าที่จะต้องมาแต่งงานกับผู้หญิงที่ผมไม่ได้รัก"
"ลูกอย่างบีบบังคับแม่!!??"
"คุณแม่ต่างหากที่บีบบังคับผม!!!" ผมพูดเสร็จก็เดินตรงไปที่รถ ก่อนที่จะเปิดประตูรถเข้าไปด้านใน ก่อนที่จะขับรถออกไปจากบ้านทันที โดยไม่สนใจเสียงร้องของคุณแม่
"ตาเรน!!! นั่นลูกจะไปไหน??" คุณหญิงเพียงขวัญที่เห็นลูกชาย เดินไปที่รถก็ถามขึ้นอย่างสงสัย ก่อนที่จะเห็นรถเฟอรารี่สีแดงของลูกขับออกจากบ้านไปทันที
"ตาเรน!!!"
"เกิดอะไรขึ้นครับคุณแม่!!?? แล้วทำไมไอ้คาเรนถึงขับรถออกไปแบบนั้น??" คาเบลที่กลับออกมาจากข้างนอก ก็ต้องตกใจที่เห็นรถของน้องชายตัวเองขับ ออกจากบ้านด้วยความเร็ว ก่อนที่เขาจะเดินมาถามผู้เป็นแม่อย่างสงสัย
"คาเบล!!?? คือว่า..." คุณหญิงเพียงขวัญที่เห็นบุตรชายคนโตของตน ถามถึงน้องชายที่ขับรถ หุนหันพลันแล่นออกไป
"ครับ!!??... อ๋อผมพอจะเข้าใจแล้วครับว่าทำไมไอ้คาเรนถึงขับรถออกไปแบบนั้น!!??" คาเบลที่เห็นอาการของผู้เป็นแม่ ก่อนที่เขาจะหันไปมองผู้หญิงที่ยืนข้างๆ ก็เข้าใจทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น
"แม่แค่อยากให้น้องชายของลูกรับผิดชอบส้มจี๊ด แม่ก็เลยเร่งงานแต่งงาน" คุณหญิงเพียงขวัญ ที่เห็นลูกชายคนโตมองไปที่หนูส้มจี๊ด คุณหญิงจึงอธิบายและบอกสาเหตุที่ คาเรนขับรถออกไปแบบนั้น
"คุณแม่ไปบีบบังคับไอ้คาเรนมันทำไม!!?? คุณแม่ก็รู้ว่ามันชอบส้มหวานไม่ใช่ส้มจี๊ด"
"แต่หนูส้มจี๊ดกำลังตั้งท้องอยู่นะ น้องชายของลูกต้องรับผิดชอบ"
"น้องส้มหวานก็ตั้งท้องเหมือนกัน อย่างนี้ไอ้คาเรนมันก็ต้องรับผิดชอบด้วย"
"ไม่เหมือนกัน!! แม่ไม่ยอมรับผู้หญิงคนนั้น ผู้หญิงที่แย่งสามีของน้องสาวตัวเอง"
"ผมคิดว่าคนที่แย่งน่าจะเป็นอีกคนมากกว่า!!??" คาเบลพูดเสร็จก็หันไปมองหน้าส้มจี๊ด มันทำให้ส้มจี๊ดที่สายตาที่มองมาถึงกับสะดุ้งตกใจ
"ไม่รู้ล่ะ!! แม่จะให้คาเรนไปงานกับส้มจี๊ดเท่านั้น" คุณหญิงเพียงขวัญพูดเสร็จก็เดินเข้าบ้านทันที โดยไม่ฟังคำอธิบายของลูกชายคนโต
คาเบลได้แต่ยืนมองแม่ของตนเดินเข้าบ้านไปโดยที่ไม่ได้ฟังเขาอธิบาย เขาจึงหันไปมองผู้หญิงด้านข้างที่ยืนมองมาที่เขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: POTTY3 ลิขิตรัก [END]