ปัง!
โป๋มู่หานทิ้งใบหย่าลงตรงหน้าหลินเอินเอิน
“พี่สาวของคุณฟื้นแล้ว ผมสัญญากับเธอว่าตราบเท่าที่เธอยังมีชีวิตอยู่ ตำแหน่งคุณนายโป๋ต้องเป็นของเธอเท่านั้น”
“หลินเอินเอิน เซ็นซะ เราหย่ากันเถอะ”
ตั้งแต่เดือนก่อนที่ลูกพี่ลูกน้องของเธอฟื้นขึ้นมา ดูเหมือนว่าหลินเอินเอินจะรู้อยู่แล้วว่ามันต้องเป็นแบบนี้
เธอเงยหน้าขึ้นและพูดด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง “จนถึงตอนนี้คุณก็ยังไม่เชื่อฉันเหรอ?”
“ตั้งแต่ต้นจนจบคุณเป็นแค่ผู้หญิงที่โลภมาก คุณไม่มีมีค่าอะไรให้ผมเชื่อ” โป๋มู่หานพูดอย่างเย็นชา “อย่าให้ผมพูดเป็นครั้งที่สอง เซ็นชื่อซะ บ้านหลังนี้เป็นของคุณ นี่คือศักดิ์ศรีที่ผมให้คุณเป็นครั้งสุดท้าย”
สายตาของหลินเอินเอินมีความเยาะเย้ย
เหอะ... ไม่ให้เธอมีสิทธิ์ในการแบ่งทรัพย์สิน โป๋มู่หานคุณช่างไม่ปรานีจริงๆ
หยิบใบหย่าขึ้นมา เห็นว่าเขาเซ็นชื่อเรียบร้อยแล้ว หลินเอินเอินพูดด้วยสีหน้าที่ไม่สะทกสะท้าน “คุณย่าจะยอมเหรอ”
“คุณคิดว่ามีคุณย่าอยู่คุณจะทำอะไรก็ได้อย่างนั้นเหรอ” โป๋มู่หานมองเธออย่างเย็นชา “เราแต่งงานกันเพราะอะไร คุณรู้ดีกว่าผมซะอีก หลินเอินเอิน อย่าโลภมาก อย่าทําให้ผมรังเกียจคุณไปมากกว่านี้”
หลินเอินเอินหัวเราะเยาะ “รังเกียจฉันไปมากกว่านี้ มันต่างกันตรงไหน”
สีหน้าของโป๋มู่หานเคร่งขรึม “หลินเอินเอิน!”
หลินเอินเอินหยิบปากกาขึ้นมา “ได้ ฉันจะเซ็น”
ลูกพี่ลูกน้องของเธอส่งรูปภาพของตัวเองกับโป๋มู่หานมาให้เธอดูตั้งมากมายขนาดนั้น การแต่งงานแบบนี้ดําเนินต่อไปก็ไม่มีความหมายอะไร
หลินเอินเอินขีดฆ่าโฉนดบ้านที่เขาให้เธอ เซ็นชื่อตัวเองอย่างรวดเร็วโดยไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย
แต่งงานกันมาสามปี มันจบลงแล้ว
ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป เธอก็เป็นอิสระแล้ว
เมื่อซูเหมี่ยวเห็นหลินเอินเอินลากกระเป๋าเดินทางเดินเข้ามา เธอถึงกับตกใจ
“ฉันไม่ได้มองผิดไปใช่ไหม”
“เธอไม่ได้มองผิด ครั้งนี้ฉันฟังคําแนะนําของเธอ เรื่องงานคือเรื่องหลัก” เห็นว่าเธอมองตัวเองด้วยความตกใจ หลินเอินเอินก็ยิ้มมุมปาก “ไม่ต้อนรับฉันกลับบ้านเหรอ”
ใบหน้าของซูเหมี่ยวเต็มไปด้วยความตกใจ “สามปีที่ผ่านมา เธอรักสามีของเธอมากขนาดนั้น ถึงขั้นทิ้งงานตัวเองเพื่อไปเป็นแม่บ้านให้เขา วันนี้เกิดอะไรขึ้น จู่ๆเธอก็กลับมาทำงาน เธอล้อเล่นรึเปล่า”
ซูเหมี่ยวเป็นเลขาของหลินเอินเอิน นอกจากเธอแล้ว เกรงว่าคงไม่มีใครรู้ว่าหลินเอินเอินยังมีตัวตนที่สองอยู่อีก นั่นก็คือ ยวนเหว่ย ทนายความที่แข็งแกร่ง
ประโยคที่ได้รับความนิยมบนอินเทอร์เน็ตก็คือ ถ้ายวนเหว่ยคืออันดับสอง คงไม่มีใครเป็นอันดับหนึ่ง
ทนายตั้งหลายคนที่ได้ยินชื่อเธอแล้วก็ใจหาย
หลินเอินเอินวางกระเป๋าเดินทาง มองไปที่ซูเหมี่ยวและพูดเบาๆว่า “ช่วงนี้มีใครมาหาฉันรึเปล่า มีคดีอะไรที่น่าสนใจรึเปล่า”
ซูเหมี่ยวสายตาเป็นประกาย เธอพูดอย่างน่าเสียดาย “มีจริงๆ ราคาก็สูง แต่กลับไม่มีใครกล้ารับ และเธอ... ก็รับไม่ได้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ปฏิเสธรักสามีขี้อ้อน